
บรรดานักแสดงที่สร้างชื่อมาตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่แล้วมักจะไปไม่ถึงไหน เมื่ออายุมากขึ้น จำแม็กคอลีย์ คัลกินได้ไหม หรือใครน๊า…. ที่ “ผมเห็นคนตายครับ” แต่ปีนี้ในรายชื่อผู้เข้าชิงออสการ์ มีสามนักแสดงที่ได้เข้าชิงเป็นครั้งแรกและเราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสามคนก็เติบโตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
คริสเทน สจวร์ต จาก ‘Spencer’, เคิร์สเทน ดันสต์ จาก ‘The Power of the Dog’ และโคดี สมิต-แม็กฟี อีกรายจาก ‘Power of the Dog’ ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นการทำงานแสดงตั้งแต่ยังไม่ทำบัตรประชาชนด้วยซ้ำ
และจะว่าไปแล้วทั้งสามคนก็มีโอกาสที่จะคว้ารางวัล ไม่ต่างไปจากนักแสดงเด็ก ๆ ที่ทำงานแสดงมาจนเป็นหนุ่ม เป็นสาว ไปถึงวัยชรา เช่น มิกกี รูนีย์ และจูดี การ์แลนด์ ที่ดังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พอโตมาก็คว้าออสการ์กลับบ้าน แม้รูนีย์ที่เข้าชิงอยู่หลายครั้งจะได้แค่ ออสการ์เกียรติยศในการทำงานเมื่อปี 1983 หรือโจดี ฟอสเทอร์ ที่เข้าชิงตอนอายุ 14 จาก ‘Taxi Driver (1976) แล้วมาคว้ารางวัลนำหญิงได้ถึง 2 ครั้งจาก ‘The Accused’ (1988) และ ‘The Silence of the Lambs’ (1991) นาทาลี พอร์ตแมนที่ดังตั้งแต่อายุ 12 จาก ‘Leon: The Professional’ (1994) ก็เข้าชิงออสการ์ถึง 3 ครั้งเมื่อโตเป็นสาว แล้วก็ได้ไปครองจาก ‘Black Swan’ (2010) ล่าสุดเซอร์ชา โรแนน ที่เข้าชิงตอนอายุ 13 จาก ‘Atonement’ (2007) ก็มาท็อปฟอร์มเข้าชิงปีเว้นปี 3 ครั้งไปแล้ว จาก ‘Brooklyn’ (2015). ‘Lady Bird’ (2017) และ ‘Little Women’ (2019) ในวัย 20 นำ
กับสามรายในปีนี้ ดันสต์ที่เป็นรุ่นใหญ่สุด เริ่มทำงานไล่ ๆ กับพอร์ตแมน แล้วก็ได้คำชมจากนักวิจารณ์ และเข้าชิงลูกโลกทองคำจาก ‘Interview with the Vampire’ (1994) แล้วก็ได้บทเด่นขึ้นเรื่อย ๆ ใน ‘Little Women’ (1994) และ ‘Jumanji’ (1995) พอเข้าวัยรุ่นเธอก็ได้บทสำคัญ ๆ ในที่หลากหลาย มีตั้งแต่งานอาร์ต ๆ ‘The Virgin Suicides’ (1999) ไปถึงงานวัยรุ่นจ๋า ‘Bring it On’ (2000) รวมถึงได้เป็นหวานใจไอ้แมงมุม แมรี เจน วัตสัน ใน ‘Spider-Man’ ของแซม ไรมี (2002-2007) พอถึงช่วงเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ดันสต์เปลี่ยนสถานภาพกลายเป็นนักแสดงคุณภาพเต็มตัว เช่นที่เห็นจากหนังที่ทำให้เธอได้รางวัลนักแสดงนำหญิง ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ‘Melancholia’ (2011), เข้าชิงเอ็มมีจาก ‘Fargo’ (2016) และแซ็ก อะวอร์ด (SAG Award) จากการเป็นหนึ่งในทีม ‘Hidden Figures’ (2016) แต่ออสการ์ก็มองข้ามเธอมาตลอดจนถึงปีนี้
ขณะที่เด็กหนุ่มวัย 25 ที่เล่นเป็นลูกชายของเธอ สมิต-แม็กฟี เข้าชิงเป็นครั้งแรก หลังผ่านประสบการณ์การทำงานในโลกภาพยนตร์ไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยสตาร์ตแจ้งเกิดจากบทลูกชายของวิกโก มอร์เทนเซน ในหนังโลกหายนะที่สร้างจากนิยายของคอร์แม็ก แม็กคาร์ธีย์ ‘The Road’ (2009) แล้วก็ตามด้วยบทนำในหนังสยองรีเมก ‘Let Me In’ (2010) ซึ่งเขาเล่นเป็นเด็กชายที่เป็นเพื่อนกับแวมไพร์เด็กหญิง แม็กฟีเข้าชิงรางวัลคริติกส์ ชอยส์ สาขาดาราเด็กยอดเยี่ยมจากหนังทั้งสองเรื่อง และไม่ต่างไปจากดันสต์ เมื่อเขามีประสบการณ์ในโลกของมาร์เวลมาแล้ว กับบทไนต์ครอว์เลอร์ วันหนุ่มใน ‘X-Men: Apocalypse’ (2016) และ ‘Dark Phoenix’ (2019) แม้ทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่เป็นไปได้ว่า ‘Power of the Dog’ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับการไปสู่อีกสถานภาพในการทำงานแสดงของแม็กฟี
คนสุดท้าย สจวร์ตมีเส้นทางการทำงานที่โคตรน่าสนใจ ก่อนจะเป็นวัยรุ่นเธอรับบทเป็นลูกสาวอดีตดาราเด็กที่กลายมาเป็นดาราใหญ่คุณภาพคับแก้ว โจดี ฟอสเทอร์ ในหนังระทึกขวัญของเดวิด ฟินเชอร์ ‘Panic Room’ (2002) จากนั้นก็ได้เล่นหนังสตูดิโอ อย่าง ‘Catch That Kid’ (2004), ‘Zathura: A Space Adventure’ (2006) และ ‘The Messengers’ (2007) ก่อนที่จะหันไปเล่นหนังอินดี เช่น ‘Undertow’ (2004), ‘Into the Wild’ (2007), ‘The Yellow Handkerchief’ (2008) และ ‘Adventureland’ (2009) แต่ที่น่าตลกก็คือ งานที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก คือบทในหนังภาคต่อบล็อกบัสเตอร์ชุด ‘The Twilight Saga’ (2008-2012) หากงานหลังจากนั้นของเธอ คืองานในโลกอาร์ตเฮาส์ อาทิ ‘Clouds of Sils Maria’ (2014), ‘Still Alice’ (2014), ‘Certain Women’ (2016), ‘Personal Shopper’ (2016), ‘Seberg’ (2019) แล้วก็เป็น ‘Spencer’ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นขวัญใจคอหนังอินดีเหมือนแม็กฟี และที่ไม่ต่างกันอีกอย่างก็คือ ทั้งคู่เคยเล่นหนังแวมไพร์ (ซึ่งดันสต์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน)
นับจากนี้ในเครดิตของทั้งสามคน สามารถเติมคำว่า “ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์” ต่อท้ายได้แน่ ๆ และบางทีก็อาจจะใช้ “ผู้ชนะรางวัลออสการ์” ได้เลยด้วยซ้ำ โดยจากการคาดการณ์ของสื่อ ดูเหมือนว่าโอกาสของแม็กฟีน่าจะดีที่สุด ในสาขานักแสดงสมทบ ดันสต์มีโอกาสรองลงมาในสาขาสมทบหญิง ส่วนนำหญิงของสจวร์ต การแข่งขันเข้มข้น และเปิดกว้างมาก เมื่อผู้เข้าชิงถูกมองข้ามจากเวทีใหญ่ ๆ อย่างแซ็กหรือบาฟตา ที่บางคนไม่ใช่แค่เวทีเดียว ทำให้ไม่มีตัวเก็งที่ชัดเจน ทุกคนมีโอกาสพอๆ กัน
อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสามคนอายุรวมกันแค่ 95 ปี แต่มีประสบการณ์ในการทำงานรวมกันมากกว่า 6 ทศวรรษไปแล้ว และกว่าจะกลายเป็นคนสูงวัย พวกเธอและเขาจะมีงานในเครดิตอีกเท่าไหร่ มีงานชั้นดีมากแค่ไหน บางคนอาจจะบอกว่า รอให้ออสการ์เกียรติยศไปเลยก็ได้
เอ่อ… ถ้างานดี คนมีฝีมือ ก็ให้ไปเลยตั้งแต่วันนี้ดีกว่าไหม
(ข้อมูลประกอบการเขียน บทความจาก www.goldderby.com โดยแดเนียล มอนต์โกเมอรี)
เป็นกำลังใจให้เราได้ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณให้ผู้สนับสนุนที่โชคดีเป็นประจำทุกเดือน
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่