By Sadaos
14 สิงหาคม เมื่อ 20 ปีก่อน ดนตรีบริท-ป็อปขึ้นไปถึงจุดสูงของความนิยม เมื่อ 2 ศิลปินหัวแถวของดนตรีแนวนี้อย่าง Blur และ Oasis ปล่อยซิงเกิลทีเด็ดของตัวเองออกมา วงแรกกับเพลง Country House วงหลังกับ Roll With It ที่ต่างก็เป็นเพลงฮิต และเพลงที่ดีทั้งคู่ ไม่งั้นก็คงไม่ถูกนำไปเล่นบนเวทีคอนเสิร์ทของพวกเขามาจนถึงวันนี้ ขณะที่ทั้งคู่ต่างก็กลายเป็นคู่กัด-คู่ปรับมานับตั้งแต่นั้น
ที่แม้ในปัจจุบันโอเอซิสอาจจะแยกวงเป็นการถาวรไปแล้ว แถมดามอน อัลบาร์น แห่งเบลอร์ ก็มีแขกรับเชิญเป็นโนล กัลลาเกอร์จากโอเอซิส มาร่วมร้องเพลง Tender บนเวทีคอนเสิร์ท แต่การเปรียบเทียบพวกเขากับเบลอร์ ก็ยังไม่จบสิ้น
แอนดรูว์ อันเทอร์เบอร์เกอร์ แห่งเว็บไซท์ของนิตยสาร Spin จึงจับทั้งสองวงมาเปรียบกันแบบปีต่อปี ที่เริ่มต้นกันในปี 1995 ปีที่ Country House กับ Roll With It มาปะทะกันบนชาร์ท แล้วก็ไล่มาถึงปีนี้ ดูกันว่า หากขึ้นเวทีแบบให้แต่ละปีเป็นยก เบลอร์หรือโอเอซิสที่จะมาวิน
1995 – 1996: ดูเผินๆ เบลอร์น่าจะชนะ เมื่อซิงเกิล Country House ขายดีกว่า Roll With It ราวๆ 60,000 ก็อปปี ถือเป็นปีที่สู้กันแบบเลือดเดือด แต่ไปๆ มาๆ โอเอซิสลุกขึ้นมาได้ และเอาคืนในทันที แบบที่หนักหนากว่าด้วยซ้ำ เพราะ Wonderwall ไม่ใช่แค่ทำได้ดีกว่าซิงเกิลต่อๆ มาของเบลอร์จากอัลบั้ม The Great Escape แต่ยังส่งพวกเขาไปโด่งไปดังในอเมริกา และแทบจะทุกแห่งในโลก ขณะที่อัลบั้ม (What’s the Story) Morning Glory? ของโอเอซิส ก็ขายดีกว่า The Great Escape ของเบลอร์แบบทิ้งขาดแทบทุกประเทศ และสร้างเพลงฮิตตามมาอีกเพียบ เช่น Champagne Supernova, Don’t Look Back in Anger แล้วพอข้ามมาถึงปี 1996 เบลอร์ถือว่าจบปีด้วยเหรียญเงิน และอาจจะถึงเหรียญทองแดงก็ได้ หากมองถึงความสำเร็จของวง Pulp ทำให้ผู้ชนะคือ สองพี่น้องแห่งโอเอซิส
1997: มองย้อนไปจากปีนี้ ปี 1997 คือปีของเบลอร์ ที่สร้างตัวขึ้นมาในฐานะศิลปินอาร์ทๆ มาดติสท์ๆ สำเร็จ ทั้งๆ ที่มักถูกจับให้อยู่ในกลุ่มของศิลปินแนวนี้มาตลอด แต่ก็ไม่เคยชัดและโดดเด่นเท่ากับที่เห็นจากอัลบั้มชื่อเดียวกับวงชุดนี้ แล้วก็มีซิงเกิลที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเพลงฮิตสุดๆ ของพวกเขาได้ อย่าง Song 2 ซึ่งราวกับแปะซาวนด์กีตาร์แบบกรันจ์เข้ามา แต่อัลบั้ม Be Here Now ของโอเอซิส กลับไม่รู้จะเอายังไงกับการพูดถึงเรื่องความสะอาดปราศจากยา กับการสานต่อความเป็นศิลปิน แม้จะขายได้ถึง 8 ล้านก็อปปีทั่วโลก แต่ก็ได้คำวิจารณ์ในแบบที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร ทำให้การต่อสู้ของทั้งคู่ยังคงดุเดือด เพราะถึง Song 2 จะเป็นหนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของทั้งสองวง แต่ก็มีคู่เปรียบในปีนั้นที่ทำได้ดีกว่า อย่าง D’You Know What I Mean ที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ทเพลงฮิตของอังกฤษและชาร์ทเพลงอัลเทอร์เนถีฟที่อเมริกา น่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด ที่ให้ทั้งคู่เสมอกัน
1998: ปีนี้มีเพลงใหม่ๆ ออกมาจากทั้งคู่น้อยมาก อัลบั้มก็มีแค่งานรวมเพลง โอเอซิส มี The Masterplan ซึ่งเป็นการรวมเพลงซิงเกิลหน้าบี จากอัลบั้ม 3 ชุดแรกของวง เพื่อกระตุ้นอัลบั้ม Be Here Now ที่ยังคงอยู่ในตลาด แต่ก็ยังสร้างเพลงฮิตอย่าง Acquiesce ที่เป็นซิงเกิลหน้าบีของเพลง Some Might Say ขณะที่เบลอร์ปล่อยอัลบั้มรวมเพลงรีมิกซ์ Bustin’ + Dronin’ ซึ่งเพลงเด่นๆ ก็อย่าง Movin’ On ที่ได้วิลเลียม ออร์บิทมาตัดแต่งเพลง แต่ก็หายไปจากความทรงจำอย่างรวดเร็ว ปีนี้ตัดสินไม่ยาก โอเอซิส เข้าวิน
1999 – 2001: เบลอร์เปิดปีด้วยอัลบั้มมหัศจรรย์ 13 ที่พวกเขาทำเพลงซาวนด์นัวๆ และผสมผสานอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น ฟังๆ ดูอาจจะเหมือนขัดๆ กัน แต่ผลลัพธ์กลับกลายออกมาน่าทึ่ง มีเพลงซิงเกิลที่ลืมไม่ลงถึง 3 เพลง ไม่ว่าจะเป็น Tender ที่เกือบจะฟังเหมือนบทสวด, Coffee and TV ที่ฟังล่องลอย และงานบัลลาดหม่นมืด No Distance Left to Run ในปีนี้เบลอร์ยังออกอัลบั้มรวมเพลงฮิต Blur: The Best Of ออกมาอีกชุด ส่วนอัลบาร์นก็เริ่มต้นชีวิตที่สองของการทำงานเพลง ด้วยการเป็นหนึ่งในวงซูเปอร์กรุ๊ป ที่นำเสนอออกมาเป็นศิลปินแอนิเมชัน Gorillaz ที่มีเพลงฮิตอย่าง Clint Eastwood ขณะที่โอเอซิสปล่อยอัลบั้ม Standing on the Shoulder of Giants ออกมาซึ่งคำวิจารณ์ออกมาไม่มีอะไรเลย งานนี้ เบลอร์ชนะเห็นๆ
(ยังมีต่อ)
จากเรื่อง คู่ชกในตำนาน 2 ทศวรรษการชิงบัลลังก์ราชาบริท-ป็อป โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 19 สิงหาคม 2558
สามารถกดไลค์ Like ติดตามเพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
What is your reaction?
