FEATURESMovie Featuresอำลา อาลัย

อำลา-อาลัย วิลเลียม เฮิร์ต นักแสดงรางวัลออสการ์วัย 71 ปี จาก ‘Kiss of the Spider Woman’ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 71 ปี

วิลเลียม เฮิร์ต นักแสดงคุณภาพ ที่ก้าวมาเป็นนักแสดงเบอร์ต้น ๆ ของฮอลลีวูดในช่วงยุค 1980s และได้รับรางวัลออสการ์จาก ‘Kiss of the Spider Woman’ ในปี 1985 และฝากการชั้นเยี่ยมไว้ในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่อง อย่าง ‘The Big Chill’ และ ‘Body Heat’ เสียชีวิตแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2022 ด้วยสาเหตุทางธรรมชาติ

วิลล์ ลูกชายของเฮิร์ตกล่าวในแถลงการณ์ว่า “เป็นเรื่องเศร้าอย่างที่สุด ที่ครอบครัวเฮิร์ตต้องสูญเสีย คุณพ่อวิลเลียม เฮิร์ต พ่อที่เป็นที่รักยิ่ง และนักแสดงรางวัลออสการ์ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2022 ก่อนครบครบวันเกิดปีที่ 72 ของท่านเพียงสัปดาห์เดียว ท่านจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางครอบครัว ด้วยสาเหตุธรรมชาติ”

เฮิร์ตได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 ครั้งตลอดชีวิตการทำงาน สองจากครั้งในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก ‘Broadcast News’ และ ‘Children of a Lesser God’ รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสมทบชายจากการแสดงไม่ถึง 10 นาทีใน ‘A History of Violence’ โดยเขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีชื่อเสียงแห่งยุค 1980s ด้วยการรับบทที่หลากหลาย ก่อนจะกลายเป็นนักแสดงแบบสวมบทบาทในยุค 1990s และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งจากงานจอใหญ่และงานโทรทัศน์ เฮิร์ตได้รับรางวัลเอ็มมี จากการแสดงใน ‘Damages’ และการรับบทเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังใน เฮนรี พอลสัน ใน ‘Too Big to Fail’

นอกจากนี้เฮิร์ตยังกลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มคอหนังรุ่นใหม่จากการรับบทนายพลจอมเครียด แธดดีอุส รอสส์ ใน ‘The Incredible Hulk’ เมื่อปี 2008 ก่อนจะตามมารับบทนี้อีกใน ‘Captain America: Civil War’, ‘Avengers: Infinity War’, ‘Avengers: Endgame’ และ ‘Black Widow’

เฮิร์ตเกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 1950 ที่วอชิงทัน ดี.ซี. แคลร์ อิซาเบล แม่ของเฮิร์ตทำงานในบริษัท ไทม์ อินคอร์เปอเรชัน ส่วนพ่ออัลเฟร็ด เฮิร์ต (1910–1996) เป็นข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่แยกทางกันตอนเฮิร์ตอายุแค่ 6 ขวบ จากนั้นแม่ก็แต่งงานใหม่กับ เฮนรี ลูซ ที่ 2 ลูกชายของผู้ตีพิมพ์นิตยสารไทม์ – เฮนรี ลูซ ทำให้เฮิร์ตเติบโตมาในครอบครัวชั้นสูง โดยเขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ทัฟต์ส ในวิชาศาสนศาสตร์ ก่อนย้ายมาที่จูเลียร์ด เพื่อเรียนการแสดง และได้เล่นละครเวที เฮิร์ตก็ได้บทนำในจอภาพยนตร์จาก ‘Altered States’ ซึ่งเขาเล่นเป็นนักวิทยาศาสตร์เจ้าปัญหา ในงานสุดแหวกแนวเรื่องนี้ของผู้กำกับเคน รัสเซลล์ ที่มักจะถูกจัดให้เป็นงานสยองขวัญ

อีกหนึ่งปีต่อมา เฮิร์ตได้รับบทที่โดดเด่นมากขึ้น และเป็นการยกระดับการแสดงของตัวเอง ใน ‘Body Heat’ ที่ประกบกับแคธลีน เทอร์เนอร์ ซึ่งเป็นหนังนัวร์ เร่าร้อน ที่ว่าด้วยการทรยศ หักหลัง ที่เปรียบได้กับงานอัปเดตของหนังอย่าง ‘The Big Sleep’ และ ‘Double Indemnity’ ผ่านฉากเซ็กส์ที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น หนังเรื่องนี้ทำให้สองนักแสดงนำแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในโลกภาพยนตร์ ผลงานต่อมาของเฮิร์ตก็คือ บทนำใน ‘Gorky Park’ และเป็นส่วนหนึ่งของหนังรวมดาว ‘The Big Chill’ งานดรามาว่าด้วยกลุ่มเพื่อน ๆ ที่กลับมาเจอกันอีก ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังเรื่องสำคัญของคนยุคเบบีบูมเมอร์


ด้วยผลงานที่มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เฮิร์ตกลายเป็นหนึ่งนักแสดงครองจอในช่วงเวลานั้น แม้จะถูกมองว่าเป็น ดาราบนจอภาพยนตร์ แต่จากปี 1986 – 1988 เฮิร์ตก็เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายถึงสามครั้งติดต่อกัน โดยคว้ามาได้จาก บทเกย์ในหนังของผู้กำกับเฮ็กเตอร์ บาเบนโก ‘The Kiss of the Spider Woman’ ส่วนอีกสองเรื่องก็คือ ‘Children of a Lesser God’ และ ‘Broadcast News’ ที่เขาเล่นเป็นครูในโรงเรียนสอนผู้มีปัญหาทางการได้ยิน และคนข่าวผู้ชาญฉลาดตามลำดับ ที่แสดงให้เห็นศักยภาพในการทำงานที่หลากหลายของเฮิร์ต จากความสำเร็จและคำวิจารณ์ที่ได้รับของหนังเรื่องต่าง ๆ ที่เฮิร์ตรับบทนำ ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงเอ-ลิสต์ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดังอะไร

“มันไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ที่ความเป็นส่วนตัวของผมจะถูกรุกล้ำอย่างที่เห็น” เฮิร์ตกล่าวกับเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ในปี 1989 “ผมเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ และมีสิทธิที่จะทำตัวแบบนี้ ผมไม่เคยบอกว่าเพราะผมเป็นนักแสดง คุณเลยมีสิทธิในเรื่องส่วนตัวของผม คุณสามารถขโมยจิตวิญญาณผมเหรอ บอกเลยไม่มีทาง”

บางทีด้วยความไม่แฮปปีกับสภาพของการเป็นคนดัง ทำให้เฮิร์ตปฏิเสธงานหนังเรื่องเด่น ๆ ไปไม่น้อยตลอดชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ‘Jurassic Park’ หรือ ‘Misery’ แถมช่วงเวลาที่เขากำลังรุ่งสุด ๆ มันประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่เขามีปัญหาชีวิตส่วนตัวพอดี โดยเฉพาะเรื่องการใช้เหล้าและยา

“ผมรู้สึกหดหู่อย่างที่สุด และท้ายที่สุด ผมก็เป็นทุกข์จนมากพอ นานพอ แล้วผมก็บอกกับตัวเอง ‘ฉันจบละ นายทำอะไรฉันไม่ได้อีก ไม่มีทางทำได้อีก’” เฮิร์ตบอกกับเดอะ วอชิงทัน โพสต์ ในปี 1989 ถึงช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจเข้ารับการบำบัด

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของเฮิร์ตกับมาร์ลี แม็ตลิน นักแสดงที่คบหากันตั้งแต่ตอนที่เล่น ‘Children of a Lesser God’ ด้วยกันก็มีปัญหา แม็ตลินเขียนในหนังสือบันทึกความทรงจำว่า เฮิร์ตคุกคามทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ ซึ่งเฮิร์ตออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ในเวลาต่อมาว่า “ในความทรงจำของผมก็คือ เราต่างก็ขออภัยให้กันและกัน เราทั้งสองคนต่างเยียวยาชีวิตได้ดี ผมขอโทษ และขออภัยในความเจ็บปวดทั้งหลายที่ผมเป็นต้นเหตุ ผมรู้ว่าเราเติบโตขึ้นจากวันนั้น ผมของให้มาร์ลีและครอบครัว พบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม”

งานในยุค 1990s ของเฮิร์ตมีไม่มากนัก แต่เขาก็ได้รับคำชมจากงานใน ‘The Doctor’ หมอผ่าตัดจอมเย่อหยิ่ง ที่ชีวิตต้องเปลี่ยนไปเมื่อกับปัญหาในเรื่องสุขภาพ หากบางเรื่องก็ถูกมองข้าม เช่น ‘Second Chances’ และ ‘Until the End of the World’ ส่วนงานตลาดจ๋า ๆ อย่าง ‘Lost in Space’ ฉบับจอใหญ่เมื่อปี 1998 ก็ทำเงินไม่มากพอที่จะปั้นหนังภาคต่อออกมา ขณะที่การแสดงของเฮิร์ตก็ดูไม่เจริญหูเจริญตาตลอดทั้งเรื่อง

งานเด่นเรื่องอื่น ๆ ก็ อาทิ มินี-ซีรีส์เรื่อง ‘Dune’, ‘A.I. Artificial Intelligence’ ของสตีเวน สปีลเบิร์ก และ ‘The Village’ ของเอ็ม. ไนต์ ชยามาลาน


หลังจากยุค 2000s เฮิร์ตดูเหมือนจะปักหลักกับบทสมทบ และเขาก็ทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นจอมขโมยซีนในหนังสายลับแบบนุ่ม ๆ ‘The Good Shepherd’, คุณพ่อที่ความต้องการมากมายใน ‘Into the Wild’ และอีกหนึ่งบทที่น่าจดจำ หัวหน้าแก๊งมาเฟียจอมโหดใน ‘A History of Violence’ โดยฉากที่เขายอมรับกับน้องชายมือปืนว่า “ตอนที่แม่เอาแกกลับจากโรงพยาบาลมาบ้าน ฉันพยายามบีบคอแกให้ตายคาคอก” ถือเป็นการแสดงชั้นยอด และแสดงถึงอะไรมากมายในเรื่อง แม้ตัวเขาจะมีเวลาในหนังไม่มากนัก

เฮิร์ตแต่งงานกับนักแสดง แมรี เบ็ธ เฮิร์ต ตั้งแต่ปี 1971 – 1982 ก่อนจะแต่งงานอีกครั้งกับ ไฮดี เฮนเดอร์สัน จากปี 1989 – 1991

แปล/ เรียบเรียงจาก www.variety.com

เป็นกำลังใจให้เราด้วยการสนับสนุนได้ที่ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.