FEATURESMusic Features

อีกหนึ่งความสวยงามจากเทศกาลดนตรีวูดสต็อค คู่รักในภาพตำนานยังคงใช้ชีวิตร่วมกัน

คำพูดที่ว่าภาพหนึ่งภาพสามารถแทนคำได้นับพัน แสดงให้เห็นว่ามันน่าทึ่งเพียงใดกับการที่ภาพๆ หนึ่งสามารถจับเอาช่วงเวลาหนึ่ง แล้วนำเสนอภาพชีวิตของผู้คนออกมาได้ ต่อให้พวกเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังถูกจับภาพอยู่

นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบ็อบบีและนิค เออร์โคไลน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ชมในเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นที่ฟาร์มในเบเธล, นิว ยอร์ค เมื่อปี 1969 ที่ภาพของพวกเขาจบลงด้วยการเป็นภาพตำนานของบนปกอัลบัมบันทึกการแสดงสดเทศกาลดนตรีในครั้งนั้น ที่ใครๆ รู้จักในชื่อว่า วูดสต็อค ในเวลาต่อมาโดยไม่รู้ตัว และ อี.แอล. แฮมิลตัน จาก www.thevintagenews.com จะนำเอาเรื่องราวของทั้งสองคนมาบอกเล่าให้ฟัง

คืนวันศุกร์หนึ่งของเดือนสิงหาคม 1969 นิค เออร์โคไลน์ นั่งจิบเบียร์สดอยู่ที่บาร์ในมิดเดิลทาวน์, นิว ยอร์ค กับแฟนสาว – บ็อบบี เคลลี ที่เพิ่งคบกันได้ 10 สัปดาห์ ทั้งคู่ที่อายุราวๆ 20 ปีจดจ่ออยู่กับข่าวเทศกาลดนตรีและศิลปะ วูดสต็อค ที่จะมีขึ้นที่ฟาร์มของแม็กซ์ ยาสเกอร์ ในเมืองเบเธล, นิว ยอร์ค ไม่ไกลจากบาร์ที่นั่งอยู่สักเท่าไหร่ ในรายงานข่าวบอกว่ามีผู้คนมากมายเดินทางไปที่นั่น และการจราจรก็กลายเป็นจลาจล ถึงขั้นทางหลวงระหว่างรัฐที่มายังนิว ยอร์คต้องถูกปิด ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพียงข่าวลือ แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่รับรู้ไม่น้อย

“เราไม่มีแผนที่จะไปที่นั่นเลย” บ็อบบีเล่า “เรากำลังฟังข่าวอยู่กับเพื่อนอีกสามคน และผู้ให้ความเห็นทางวิทยุก็บอกว่า ‘มันก็แค่ศูนย์รวมความบ้าคลั่ง ถ้าคุณมีแผนที่จะไป อย่าไป!’ พอได้ยินอย่างนั้นเราเลยตัดสินใจไป เราอายุ 20 แล้ว! มันกระตุ้นความสนใจเราสุดๆ มีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นที่นั่น”

ตลอด 2-3 วันต่อจากนั้นฟาร์มของแม็กซ์ ยาสเกอร์ เต็มไปด้วยโคลนหลังสายฝนกระหน่ำ, มีศิลปินถึง 32 รายที่ขึ้นแสดงบนเวที อาทิ จิมิ เฮนดริกซ์, the Who, Crosby, Stills, Nash, and Young, โจน บาเอซ, เจนิส จอปลิน ซึ่งเป็นรายชื่อศิลปินชั้นยอดของยุค 1960s, ผู้ชมร่วมๆ ครึ่งล้าน, เตนท์และที่พักซึ่งสร้างกันเองลานตา, แคมป์ไฟ, รถที่ถูกจอดทิ้ง รวมไปถึงเศษซากของยาสารพัดชนิด

นิกกับบ็อบบีและเพื่อนอีกสามคน เดินทางไปที่ฟาร์มของยาสเกอร์ตอนเช้าวันเสาร์ พวกเขาขับรถไปไกลที่สุดได้แค่เบเธล ก่อนที่การจราจรจะนิ่งสนิท ทุกคนตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้และเดินไปกับกลุ่มพวกฮิปปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เฮอร์บี หนุ่มแคลิฟอร์เนียจากฮันติงตัน บีช ที่ถือเสาเล็กๆ มีผีเสื้อพลาสติคติดอยู่บนยอด “เราเดินไปกับคนเป็นหมื่นๆ” บ็อบบีเล่า “ไม่มีข้อมูลข่าวสารอะไรให้รับรู้ ไม่มีการส่งข้อความ, ไม่มีทวีตเตอร์ หรือการส่งภาพใดๆ ที่เราเห็นมีแค่ ทุกคนกำลังเดินตามๆ กันไปในทิศทางเดียวกัน ทุกทิศทุกทางล้วนเต็มไปด้วยผู้คน”

เมื่อเดินทางไปถึง พวกเขาก็ตัดสินใจพักกันบนพื้นที่เต็มไปด้วยโคลน “มันเหมือนเป็นทะเลคน” บ็อบบีเล่าต่อ “มีอะไรเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราเต็มไปหมด หลายๆ คนมาพร้อมกับกีตาร์, เสียงหัวเราะ, ร้องเพลง, ร้องไห้, ตะโกน คุณจะได้กลิ่นของกองไฟ, น้ำมันหอม, กัญชา อากาศก็โคตรร้อน เพราะพอฝนหยุดตกแดดก็มาแทนที่ มันร้อนจนคุณมองเห็นไอลอยมาจากตัวคน”

หนึ่งในผู้ร่วมงานวันนั้นก็คือตากล้องจากบริษัทแม็กนัม เอเจนซี – เบิร์ค อัซเซิล ที่เคยทำงานกับนิตยสารไลฟ์มาก่อน เขาบอกปัดงานที่ได้รับมอบหมายจากนิวส์วีคเพื่อมางานวูดสต็อค การทำงานด้วยตัวเองทำให้เขาสามารถถ่ายอะไรก็ได้ที่อยากถ่าย ไม่ใช่งานตามสั่งจากนิตยสาร เขามาที่นี่กับภรรยาและลูกชายอีกสองคน โดยปักหลักพักแถวๆ แม่น้ำเนเวอร์ซิงค์

เช้าวันอาทิตย์ อัซเซิลคว้ากล้องไลกาตัวเก่งคล้องไหล่ แล้วออกเก็บภาพต่างๆ ในงาน ที่ตอนนั้นเกรซ สลิคแห่ง Jefferson Airplane กำลังส่งเสียงรับแสงแดด

ชาย-หญิงคู่หนึ่งลุกขึ้นยืนแล้วกอดกัน ผ้านวมสีชมพู-ขาวที่คลุมไหล่ของทั้งคู่เปรอะโคลน ข้างๆ เป็นเสาเล็กๆ ที่มีผีเสื้อพลาสติดติดอยู่บนยอด ราวกับจะส่งเสียงสวัสดียามเช้ากับแสดงอาทิตย์ มันกลายเป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ “ผมมีเวลาพอที่จะจับภาพด้วยกล้องขาว-ดำสัก 2-3 ภาพ แล้วก็ภาพสีอีกนิดหน่อย จากนั้นแดดก็สว่างจ้าและอารมณ์ที่เกิดขึ้นก็หายไป” อัซเซิลบอก ขณะที่คู่รักหนุ่ม-สาว ไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกถ่ายภาพเอาไว้

อัลบัมแสดงสดแบบสามแผ่น Woodstock ปล่อยออกมาในช่วงปลายปี ภาพปกเป็นรูปของคู่รักห่มผ้านวมเปรอะโคลนโอบกอดกัน ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของยุค 1960s และเพื่อนคนหนึ่งที่ไปวูดสต็อคด้วยกันเป็นคนเอาอัลบัมชุดนี้มาให้บ็อบบีกับนิคที่ยังคงคบกันอยู่

“คอร์กี (จิม คอร์คอแรน) เพื่อนคนหนึ่งของเรา นาวิกโยธินที่นอนอยู่บนพื้นถัดจากเราในภาพ เป็นคนซื้ออัลบัมชุดนี้เพราะเขาเป็นพวกสารานุกรมดนตรีเดินได้” บ็อบบี เล่า “เรานั่งฟังอัลบัม แล้วก็หยิบปกอัลบัมมาดู เราจำผีเสื้อตัวนั้นที่เฮอร์บีจากฮันติงตัน บีช เอามาด้วยได้ จากนั้นเราก็รู้ว่าในรูปคือ เรา”

ซึ่งไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรในตอนนั้น เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเทศกาลดนตรีหนนี้จะกลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ดนตรี “วูดสต็อคจบไปแล้ว” บ็อบบีเล่าต่อ “เราบอกเพื่อนๆ ว่า เราได้อยู่บนปกอัลบัมเลยนะ และพวกเขาก็บอก ‘เออ… ก็ดีนี่ แล้วคืนนี้เราจะไปกินมื้อค่ำที่ไหนดีล่ะ?’” อย่างไรก็ตามบ็อบบีตัดสินใจทำเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนั้น “ฉันคิดว่า ‘บางทีฉันน่าจะบอกกับแม่นะ ว่าไปวูดสต็อค’” เอ่อ… “ใช่ ฉันอยู่ในอพารท์เมนท์ของตัวเอง” เธออธิบาย “ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็ออกมาอยู่ด้วยตัวเองกันตั้งนานแล้ว”

นิคแต่งงานกับบ็อบบีในปี 1971 มีลูกชายด้วยกันสองคน เขากลายเป็นช่างไม้และผู้ตรวจสอบอาคาร ส่วนเธอก็เป็นพยาบาล และลืมเรื่องภาพตำนานของตัวเองไปแล้ว จนกระทั่งนิตยสารไลฟ์ติดต่อกับพวกเขาในปี 1989 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 20 ปีวูดสต็อค

ปัจจุบันพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่ไพน์บุช, นิว ยอร์ค และมีหนึ่งในสามภาพที่อัดจากฟิล์มของอัซเซิลไว้ในครอบครองพร้อมลายเซ็นของช่างภาพ ซึ่งจะได้เห็นภาพของคอร์กี เพื่อนนาวิกโยธินของทั้งคู่ เมื่อพูดถึงความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่าง ภาพลักษณ์แบบฮิปปีและชีวิตจริงที่มีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว เป็นพ่อและแม่ของลูกสองคน บ็อบบีกับนิคถึงกับหัวเราะออกมา “เราไม่ใช่ฮิปปี เราก็แค่คนธรรมดาๆ เด็กๆ ที่ทำงานหนักจากเมืองเล็กๆ” บ็อบบี เผย “ฉันเคยทำงานธนาคารมาตั้งสามปี แล้วนิคก็เคยเป็นทำทั้งงานก่อสร้างและบาร์เทนเดอร์”

ชีวิตของทั้งคู่คือภาพของความจริงที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาผู้คนจากยุคเบบี บูมเมอร์ ที่เดินทางไปที่ฟาร์มของแม็กซ์ ยาสเกอร์ ในสุดสัปดาห์ของเทศกาลดนตรีวูดสต็อค เติบโต, เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และจบลงด้วยการใช้ชีวิตธรรมดาๆ ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาต่อต้านมาก่อน ซึ่งการมองย้อนกลับไปถึงอดีตอันแสนงดงามในครั้งนั้น ก็คือการมองย้อนกลับไปถึงปีแห่งสันติภาพ, ความรัก และความสุข ที่หนึ่งในสิ่งที่เป็นความโชคดีในชีวิตของครอบครัวเออร์โคไลน์ก็คือ

“ฉันรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของวูดสต็อค” บ็อบบี กล่าว “มันเป็นสิ่งที่แสนมหัศจรรย์ที่ได้ร่วมเหตุการณ์ครั้งนั้นกับใครบางคนที่คุณรักมาถึง 50 ปี สำหรับบางคนความสัมพันธ์ที่ยาวนานขนาดนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ และกับความบ้าคลั่งทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก วูดสต็อคคือเรื่องราวแห่งความสุข”

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง อีกหนึ่งความสวยงามจากเทศกาลดนตรีวูดสต็อค คู่รักในภาพตำนานยังคงใช้ชีวิตร่วมกัน คอลัมน์ หรรษา วันจันทร์ – Happy Monday หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 1 กรกฎาคม 2562

เป็นกำลังใจให้เราได้ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณให้ผู้สนับสนุนที่โชคดีเป็นประจำทุกเดือน

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.