เก้าสาขาของรางวัลออสการ์ ใครกันบ้างที่มีสิทธิ์ได้เข้าชิง

สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ หรือ The Academy of Motion Picture Arts and Sciences ได้ประกาศรายชื่อภาพยนตร์ที่มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ออกมาแล้วรวม 9 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์สารคดี, ภาพยนตร์สารคดีสั้น, ภาพยนตร์นานาชาติ, แต่งหน้า-ทำผม, ดนตรีประกอบ, เพลงประกอบ, แอนิเมชันขนาดสั้น, ภาพยนตร์คนแสดงขนาดสั้น และเทคนิคพิเศษด้านภาพ

โดยจะเปิดให้มีผู้มีสิทธิ์ได้ลงคะแนนกันตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ไปจนถึง 7 มกราคม ส่วนการโหวตในรอบสุดท้ายจะเริ่มในวันที่ 30 มกราคม และปิดการลงคะแนนในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ห้าวันก่อนหน้าจะมีประกาศผลกันในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ และนี่คือหนังที่มีโอกาสไปถึงวันนั้นจาก 9 สาขา

– ภาพยนตร์สารคดี: มีภาพยนตร์ทั้งหมด 15 เรื่อง ที่มองไปถึงเวทีรางวัลออสการ์ได้ หลังจากหนัง 159 เรื่องถูกส่งเข้ามาให้พิจารณา โดยการลงคะแนนเลือกภาพยนตร์ให้เหลืออย่างที่เห็น รวมทั้งห้าเรื่องสุดท้าย จะเป็นหน้าที่ของสมาชิกของสถาบันฯ ในสายของภาพยนตร์สารคดี และ 15 เรื่องที่ว่าก็มี “Advocate”, “American Factory”, “The Apollo”, “Apollo 11”, “Aquarela”, “The Biggest Little Farm”, “The Cave”, “The Edge of Democracy”, “For Sama”, “The Great Hack”, “Honeyland”, “Knock Down the House”, “Maiden”, “Midnight Family”, “One Child Nation”

– ภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้น: เหลือหนังเพียง 10 เรื่องที่สมาชิกสถาบันฯ ในสายหนังสารคดีต้องลงคะแนนกัน หลังโหวทคัดหนังทั้งหมด 69 เรื่องที่มีคุณสมบัติสำหรับเข้ารับการพิจารณาในสาขานี้ให้เหลืออย่างที่เห็น ซึ่งได้แก่ “After Maria”, “Fire in Paradise”, “Ghosts of Sugar Land”, “In the Absence”, “Learning to Skateboard in a Warzone (If You’re a Girl)”, “Life Overtakes Me”, “The Nightcrawlers”, “St. Louis Superman”, “Stay Close”, “Walk Run Cha-Cha”

– ภาพยนตร์นานาชาติ: มีหนังเหลือให้ได้ลงคะแนนเสียงกันเพียง 10 เรื่อง หลังมีหนังถึง 91 เรื่องที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมาให้พิจารณา ในสาขาที่ถูกเปลี่ยนชื่อมาจาก ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ โดยในรอบก่อนหน้าสมาชิกของสถาบันฯ ทุกสายงาน จะถูกเชิญให้ร่วมลงคะแนน ซึ่งจะมีภาพยนตร์ที่ผ่านขั้นตอนนี้รวม 7 เรื่อง เพื่อมารวมกับอีก 3 เรื่อง ที่คณะกรรมการในสายภาพยนตร์นานาชาติลงคะแนนเลือกกันมา

ในรอบของการหารายชื่อผู้เข้าชิง สมาชิกของสถาบันในทุกสาขา สามารถเลือกได้ว่าจะเข้ามามีส่วนลงคะแนนเสียงหรือไม่ ถ้าเลือกก็จะต้องดูหนังทั้งสิบเรื่องนี้เพื่อลงคะแนน “The Painted Bird” (สาธารณรัฐเช็ค), “Truth and Justice” (เอสโตเนีย), “Les Misérables” (ฝรั่งเศส), “Those Who Remained” (ฮังการี), “Honeyland” (มาเซโดเนีย เหนือ), “Corpus Christi” (โปแลนด์), “Beanpole” (รัสเซีย), “Atlantics” (เซเนกัล), “Parasite” (เกาหลีใต้), “Pain and Glory” (สเปน)

– แต่งหน้า-ทำผม: จะมีหนังสิบเรื่องที่เข้ามาถึงขั้นตอนนี้ ซึ่งบรรดาสมาชิกของสถาบันฯ ในสายงานแต่งหน้าและทำผมจะถูกเชิญให้ชมคลิปความยาว 7 นาทีจากหนังสิบเรื่องที่ว่า ในวันที่ 4 มกราคม 2020 เพื่อลงคะแนนให้เหลือห้าเรื่องสุดท้ายที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ โดยสิบเรื่องนี้ก็มี “Bombshell”, “Dolemite Is My Name”, “Downton Abbey”, “Joker”, “Judy”, “Little Women”, “Maleficent: Mistress of Evil”, “1917”, “Once upon a Time…in Hollywood”, “Rocketman”

– ดนตรีประกอบ: จาก 170 เรื่องที่มีสิทธิได้รับการพิจารณา มาถึงรอบนี้มีดนตรีประกอบจากหนังเพียง 15 เรื่องที่ฝ่าด่านอรหันต์จากการลงคะแนนของสมาชิกสถาบันฯ ในสายดนตรีได้สำเร็จ และสมาชิกในกลุ่มนี้ก็จะลงคะแนนเพื่อตัดให้เลือกผู้เข้าชิงรางวัลในที่สุด ซึ่งหนังที่มีโอกาสก็ได้แก่ “Avengers: Endgame”, “Bombshell”, “The Farewell”, “Ford v Ferrari”, “Frozen II”, “Jojo Rabbit”, “Joker”, “The King”, “Little Women”, “Marriage Story”, “Motherless Brooklyn”, “1917”, “Pain and Glory”, “Star Wars: The Rise of Skywalker”, “Us”

– เพลงประกอบ: เหลือเพียง 15 เพลงให้ได้ลงคะแนนกัน หลังจากมีถึง 79 เพลง ที่มีโอกาสเข้าชิงออสการ์ โดยการลงคะแนนในรอบก่อนหน้า และเพื่อหาผู้ได้เข้าชิง จะเป็นหน้าที่ของสมาชิกสถาบันฯ สายดนตรี สำหรับ 15 เพลงที่ว่า ก็มี “Speechless” จาก Aladdin , “Letter To My Godfather” จาก The Black Godfather, “I’m Standing With You” จาก Breakthrough, “Da Bronx” จาก The Bronx USA, “Into The Unknown” จาก Frozen II, “Stand Up” จาก Harriet, “Catchy Song” จาก The Lego Movie 2: The Second Part, “Never Too Late” จาก The Lion King, “Spirit” จาก The Lion King, “Daily Battles” จาก Motherless Brooklyn, “A Glass of Soju” จาก Parasite, “(I’m Gonna) Love Me Again” จาก Rocketman, “High Above The Water” จาก Toni Morrison: The Pieces I Am, “I Can’t Let You Throw Yourself Away” จาก Toy Story 4, “Glasgow” จากWild Rose

– แอนิเมชันขนาดสั้น: หลังสมาชิกสถาบันฯ ในสายภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์แอนิเมชันช่วยกันลงคะแนนเหลือหนัง 10 เรื่องจาก 92 มาแล้ว พวกเขาก็ต้องช่วยกันลงคะแนนเลือกงานที่จะไปเข้าชิงกันอีกจาก “Dcera (Daughter)”, “Hair Love”, “He Can’t Live without Cosmos”, “Hors Piste”, “Kitbull”, “Memorable”, “Mind My Mind”, “The Physics of Sorrow”, “Sister”, “Uncle Thomas: Accounting for the Days”

– หนังคนแสดงขนาดสั้น: มีภาพยนตร์เพียง10 เรื่องเท่านั้น ที่ผ่านการลงคะแนนของสมาชิกสถาบันฯ ในสายของภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์แอนิเมชัน จากที่เคยมีถึง 191 เรื่องที่มีคุณสมบัติในการพิจารณา หนังสิบเรื่องก็ได้แก่ “Brotherhood”, “The Christmas Gift”, “Little Hands”, “Miller & Son”, “Nefta Football Club”, “The Neighbors’ Window”, “Refugee”, “Saria”, “A Sister”, “Sometimes, I Think about Dying”

– เทคนิคพิเศษด้านภาพ: คณะกรรมการระดับสูงในสายงานเทคนิคพิเศษจะเป็นคนคัดภาพยนตร์ที่มีคุณสมบัติมากพอในการเข้าชิงรางวัลนี้ ให้เหลือเพียง 10 เรื่อง จากนั้นสมาชิกสถาบันฯ ในกลุ่มงานเทคนิคพิเศษด้านภาพจะถูกเชิญให้ชมคลิปความยาว 10 นาทีจากหนังแต่ละเรื่องทางออนไลน์ หรือร่วมชมจากการนำเสนอผลงานที่เตรียมไว้ผ่านดาวเทียมในดือนมกราคม 2020 หลังจากได้ชม บรรดาสมาชิกจะต้องลงคะแนนเพื่อให้เหลือเพียงห้าชื่อ โดยหนังที่เข้ามาถึงรอบนี้ก็มี “Alita: Battle Angel”, “Avengers: Endgame”, “Captain Marvel”, “Cats”, “Gemini Man”, “The Irishman”, “The Lion King”, “1917”, “Star Wars: The Rise of Skywalker”, “Terminator: Dark Fate”

สำหรับงานประกาศผลรางวัลออสการ์หรืออะคาเดมี อวอร์ดส์ ที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 92 แล้ว จะจัดกันในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ดอลบี เธียเตอร์ ในฮอลลีวูด, ลอส แองเจลีส, แคลิฟอร์เนีย โดยจะมีรางวัลทั้งหมด 24 สาขา และสำหรับรายชื่อผู้เข้าชิงจะประกาศออกมาในวันที่ 13 มกราคม ซึ่งตอนนั้นคงต้องมาดูกันว่า ใน 9 สาขานี้ มีหนังเรื่องอะไรบ้างที่จะหลุดไปถึงวันสุดท้ายของงานในปีนี้

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เก้าสาขาของรางวัลออสการ์ ใครกันบ้างที่มีสิทธิ์ได้เข้าชิง คอลัมน์ หรรษา- วันจันทร์ HAPPY MONDAY หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 22 ธันวาคม 2562