FEATURESMusic Featuresเบื้องหลังเพลง

เบื้องหลังเพลงชาติของผับ-คลับ-บาร์ ”What’s Up?” งานแจ้งเกิด 4 Non Blondes อีกหนึ่งศิลปินดังเพลงเดียวดับ

“What’s Up” ไม่ใช่แค่เป็นเพลงแจ้งเกิดให้กับวงดนตรีร็อคหญิงล้วน 4 Non Blondes ที่มีลินดา เพอร์รี นักร้อง, มือกีตาร์ และนักแต่งเพลงเป็นแกนนำคนสำคัญ หากยังเป็นเพลงฮิตไปทั่วโลก และดังระเบิดในบ้านเรา ที่เชื่อได้ว่า แม้ไม่ได้โตมากับการฟังเพลงสากล หรือไม่ใช่คอเพลงฝรั่ง ก็น่าจะเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้จักกับเพลงนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงชาติประจำคลับ-ผับ-บาร์ ที่ยังคงถูกร้อง ถูกเล่นให้ได้ฟังกันเป็นประจำในสถานบันเทิงเหล่านั้น มาจนถึงทุกวันนี้

“What’s Up?” เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบัมชุดแรกของสาว ๆ ที่ออกมาในปี 1993 ‘Bigger, Better, Faster, More!’ และทำในสิ่งที่ซิงเกิลแรก “Dear Mr. President” ทำไม่สำเร็จ นั่นก็คือกลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต เมื่อสามารถขึ้นอันดับ 14 ในชาร์ตเพลงฮิต บิลล์บอร์ด ฮ็อต 100 และถูกเปิดกระหน่ำซัมเมอร์เซลทางสถานีวิทยุ รวมถึงทำยอดขายได้ในระดับแผ่นเสียงทองคำ

นอกจากนี้ “What’s Up?” ยังขึ้นอันดับ 1 ได้ในหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย, เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, เยอรมนี, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์,เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงขึ้นอันดับ 2 ที่สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ขณะที่ในบ้านเรา ”What’s Up?” ก็ถูกเปิดถี่ยิบในสถานีวิทยุเพลงสากล เป็นมิวสิกวิดีโอที่ถูกเปิดให้ชมอยู่บ่อยครั้ง ทางสถานีโทรทัศน์ดนตรีในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น เอ็มทีวี หรือว่าแชนเนล [วี]

หากความเป็นมาของเพลงนี้ จะว่าไปแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ก่อนที่โฟร์น็อนบลอนด์สจะตั้งวงกันเสียอีก ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่นักดนตรีสองคน ต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประสบความสำเร็จในซาน ฟรานซิสโก คนหนึ่งคือ สตีเฟน เจนคินส์ นักร้องนำของ Third Eye Blind อีกคนก็คือ ลินดา เพอร์รี ที่กลายมาเป็นแกนนำของโฟร์น็อนบลอนด์สในเวลาต่อมา

ลินดา เพอร์รี

เจนคินส์เล่าว่า เขากำลังนั่งอยู่ในห้องกับเพอร์รี ที่ทำงานเป็นบริกรในร้านตามท้องถนน แล้วก็เล่นเพลงที่พวกเขาแต่งกันขึ้นมาให้อีกฝ่ายฟัง โดยเพลงที่ทั้งคู่เล่นให้กันฟัง ก็มีเพลง “Semi-Charmed Life” ฉบับแรก ๆ และแน่นอน “What’s Up?” ซึ่งทั้งคู่ต่างก็รู้สึกว่า มันน่าจะกลายเป็นเพลงฮิตสำหรับวงของตัวเองในเวลาต่อมา และเมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายทศวรรษ เจนคินส์ก็พบว่า เพลงที่เขากับเพอร์รีเล่นกันในช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัว สามารถขายรวมกันได้มากกว่า 17 ล้านเพลง

ในตอนนั้น “What’s Up?” ยังไม่มีชื่อเพลง แต่ในท่อนคอรัสมีคำว่า “what’s going on?” โดดเด่นเตะหูอยู่ เพอร์รีบอกกับนิตยสารโรลลิง สโตนว่า เธอเกลียดโปรดักชันของเพลงนี้โคตร ๆ เธอเผยอีกด้วยว่า เธอเกลียดงานฉบับที่เดวิด ทิกเกิล (โปรดิวเซอร์) เอามาทำใหม่ซึ่งเพลงจะมีเนื้อร้องที่ต่างออกไป และตั้งใจว่าจะเอามาใส่ในอัลบัมสุด ๆ และเธอก็บอกเรื่องนี้กับจิมมี ไอโอไวน์ (ผู้บริหารค่ายเพลง) ซึ่งเขาก็เห็นด้วย และชื่นชอบงานฉบับเดโมของเพอร์รีมากกว่า โดยงานฉบับของทิกเกิล ซึ่งไม่เคยถูกปล่อยออกมา และมีเป็นเพียงดนตรีบรรเลงจะมีให้ได้ยินในสารคดี ‘Behind The Music’ ที่เป็นตอนของเพอร์รี

เพลงในฉบับสุดท้ายใช้เวลาบันทึกเสียงกันเพียงวันเดียว หลังจากไอโอไวน์ตกลงให้โฟร์น็อนบลอนด์ส บันทึกเสียงเพลงฉบับเดโมของเพอร์รีกันใหม่

“โปรดิวเซอร์ของเรา ไม่รู้เลยว่าเพลงนี้เป็นเรื่องอะไร ฉันเลยไปหาค่ายเพลง แล้วบอกว่า ‘เพลงนี้ห่วยแตกมาก ๆ นี่ไม่ใช่เพลงที่ฉันแต่ง’ ฉันลากตัวทั้งวงที่อยู่ในช่วงพัก ไปที่สตูดิโอเดอะ เรคอร์ด แพลนต์ ในซอซาลิโต แล้วก็เริ่มปรับโน่นเปลี่ยนนี่ ตอนที่เดวิด ทิคเกิลโผล่เข้ามา ฉันอยู่ในช่วงที่กำลังลงเสียงร้องพอดี มันกวนใจฉันมาก แต่เราก็ทำมันจนเสร็จเป็นเพลงในแบบที่เหมือนสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง เสร็จ ๆ ไป เราลงเสียงร้องแล้วก็มิกซ์จนเรียบร้อยในคืนนั้น… และนั่นคือเพลงฉบับที่ดังไปทั่วโลก ฉันเล่าเรื่องนี้เพื่อที่ใคร ๆ จะได้รู้ว่า เดวิด ทิกเกิล ไม่ได้โปรดิวซ์เพลงนี้ มันคือฉันต่างหาก”

โฟร์น็อนบลอนด์ส

“ฉันจำได้ตอนที่ เธอ (ลินดา) เขียนเนื้อร้องเพลง ‘What’s Up?’ ได้ เธอรู้จักมันเป็นอย่างดี เธอคิดว่าเธอเคยได้ยินมันมาก่อนหน้า และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้สามารถต่อกันติดกับผู้คนมากมาย อะไรที่เธอรู้สึก เธอสามารถนำมาถ่ายทอดเป็นเพลงได้ ถ้าลองไปดูเนื้อร้องของเพลง พวกมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนะ มันเป็นเรื่องของการที่เพลงทำให้คน ‘รู้สึก’ มันเข้าถึงความเป็นมนุษย์ ก็เหมือนกับเพลงที่ง่าย ๆ เพลงอื่น ทำได้นั่นแหละ” คริสตา ฮิลล์เฮาส์ มือเบสของโฟร์น็อนบลอนด์ส เล่าถึงความเป็นมาของเพลงนี้ โดยเธอยังเสริมด้วยว่า

“ลินดาแต่งเพลงนี้ตอนเธออยู่ที่ห้องโถงด้านล่าง ส่วนฉันอยู่ในห้องนอนกำลังมีเซ็กส์ แล้วก็ต้องหยุด เพราะได้ยินเธอเล่นเพลงนี้ ฉันจำได้ว่าตัวเองวิ่งลงมาที่ห้องโถง แล้วบอกว่า ‘เพื่อน… เธอกำลังเล่นเพลงอะไรอยู่? ฉันชอบมันว่ะ’ ฉันจำได้ว่า เพลงนี้มันโดนมาก ๆ เธอหันมามองหน้าฉันแล้วบอกว่า ‘มันฟังเมื่อเพลงอะไรสักเพลงไหม? ฉันกำลังลอกเพลงของใครอยู่หรือเปล่า?’ ฉันตอบไปว่า ‘แต่งให้จบ มันเพราะมาก’ แล้วมันก็ถูกเล่นในโชว์ของเราทันที คนที่ได้ฟังก็ชอบมันเหมือนกัน”

แม้จะมีเพลงดังระเบิดไปทั่วโลก แต่ท้ายที่สุดการเดินทางของโฟร์น็อนบลอนด์สก็สิ้นสุดลงในช่วงเวลาอันสั้น เมื่อวงแยกทางกันตอนปลายปี 1994 หลังออกอัลบัมชุดที่สอง โดยเพอร์รีออกมาบอกว่า เธอไม่มีความสุขกับอัลบัม ‘Bigger, Better, Faster, More!’ และรู้สึกว่าสถานภาพทางเพศของเธอ ที่ตัวเองประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่าเป็นเลสเบียน ทำให้เกิดความตึงเครียดในวง

เพอร์รีกลายมาเป็นศิลปินเดี่ยว มีอัลบัมออกมาในปี 1995 รวมถึงแต่งเพลง, โปรดิวซ์งานให้ศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสตินา อากีเลรา, อลิเซีย คีย์ส, พิงก์, เกว็น สเตฟานี, คอร์ตนีย์ เลิฟ และเคลลี ออสบอร์น

และทำให้ “What’s Up?” ไม่ใช่เพลงดังเพลงเดียวของโฟร์น็อนบลอนด์สเท่านั้น แต่ยังเป็นคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเธอในเวลาเดียวกัน

SONG ID
เพลง: “What’s Up?” ศิลปิน: โฟร์น็อนบลอนด์ส
ซิงเกิลจากอัลบัม: ‘Bigger, Better, Faster, More!’ ของ โฟร์น็อนบลอนด์ส
เพลงหน้า บี ของซิงเกิล: “Train”
วางจำหน่าย: 11 มิถุนายน 1993
แนวเพลง: พ็อป ร็อค, อัลเทอร์เนีฟ ร็อค
ความยาว: 4:55 นาที (สำหรับเพลงในอัลบัม) และ 4:15 นาที (สำหรับเวอร์ชันเปิดทางวิทยุ)
สังกัด: อินเตอร์สโคป แอตแลนติก
ผู้แต่ง: ลินดา เพอร์รี
โปรดิวเซอร์: เดวิด ทิกเกิล
บันทึกเสียง: เดอะ แพลนต์ (ซอซาลิโต, แคลิฟอร์เนีย)

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.