FEATURESMusic Features

เมื่อสิทธิมาสเตอร์งานของเทย์เลอร์ สวิฟท์เปลี่ยนมือ และเทย์เลอร์ สวิฟท์บันทึกเสียงงานเหล่านั้นใหม่

จากรายงานของวาไรตี 17 เดือนหลังจากบริษัทอิธาคา โฮลดิงส์ แอลแอลซี ของสคูเตอร์ บรอน ซื้อบริษัทบิก แมชีน เลเบล กรุป รวมถึงบรรดางานเพลงทุกชุดของบริษัทมาไว้ในมือ ล่าสุดผู้จัดการจอมเขี้ยวและนักลงทุนมากประสบการณ์รายนี้ ก็ขายสิทธิมาสเตอร์อัลบัม 6 ชุดแรกของเทย์เลอร์ สวิฟท์ไปแล้วเรียบร้อย โดยผู้ซื้อเป็นกองทุนการเงินที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแห่งหนึ่ง และข้อตกลงในการซื้อขายครั้งนี้เชื่อกันว่า น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านเหรียญ ซึ่งสามารถปิดการเจรจาได้เรียบร้อยภายใน 2 สัปดาห์ แหล่งข่าวภายในยังเสริมด้วยว่า มูลค่าของข้อตกลงนี้อาจสูงถึง 450 ล้านเหรียญ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ ในสัญญา เช่น รายได้ที่กลับคืนมา

อิธาคาซื้อบิก แมชีน ค่ายเพลงอิสระจากแนชวิลล์ ที่สก็อทท์ บอร์เช็ทติก่อตั้งขึ้นในปี 2005 ด้วยราคากว่า 300 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนมิถุนายน 2019 ทำให้สินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบรรดาอัลบัมเก่าๆ ของเทย์เลอร์ สวิฟท์ นับตั้งแต่งานชุดแรกที่ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่ออัลบัมเมื่อปี 2006 มาจนถึงอัลบัม Reputation เมื่อปี 2017 ที่เชื่อกันว่าน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 140 ล้านเหรียญ รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ของบิก แมชีน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน, สัญญาการจัดจำหน่าย, การพิมพ์เพลง และงานมาสเตอร์ของศิลปิน ก็ถูกขายให้อิธาคาด้วย เรื่องคงไม่เป็นเรื่องสำหรับสวิฟท์ ถ้าบรอนกับเธอญาติดีกัน แต่เพราะเขามีความใกล้ชิดกับคานเย เวสท์ คู่ปากคู่ปรับคนสำคัญของเธอ นี่คือข่าวร้ายของสวิฟท์ เมื่อมาสเตอร์เพลงเก่าๆ ของเธอไปตกอยู่ในมือของคนที่ไม่น่าไว้ใจ ซึ่งอาจนำเพลงของเธอไปใช้ในทางเสียๆ หายๆ ได้ไม่ยาก

สวิฟท์เซ็นสัญญาเป็นศิลปินของบิก แมชีน เลเบล กรุป ตั้งแต่เริ่มต้นการทำงานเพลง โดยสัญญาของเธอกับที่นี่เพิ่งจบลงเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 หลังจากนั้นเธอก็เซ็นสัญญากับยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุป และในเดือนพฤศจิกายน 2020 สวิฟท์ก็สามารถนำงานเพลงจากห้าอัลบัมแรกที่ออกกับบิก แมชีน มาบันทึกเสียงใหม่ได้อย่างอิสระ ตามที่เธอบอกกับสื่อว่า สัญญาที่เซ็นกับบิก แมชีน ให้เธอสามารถบันทึกเสียงเพลงจากห้าอัลบัมแรกได้อีก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 “สัญญาของฉันบอกไว้ว่า ฉันสามารถเริ่มบันทึกเสียงเพลงในอัลบัม 1-5 ได้ตั้งแต่พฤศจิกาฯ 2020” เธอกล่าว “ฉันกำลังจะยุ่งใหญ่ละ”ขณะที่ข้อตกลงในการบันทึกเสียงของศิลปินส่วนใหญ่ในช่วงไล่เลี่ยกันกับสวิฟท์ มักระบุว่าห้ามศิลปินตัดแต่งวัตถุดิบของเพลงต่างๆ เป็นเวลานานหลายปี แต่ข้อตกลงของสวิฟท์มีการระบุไว้ในสัญญาว่า เธอสามารถนำเพลงต่างๆ มาบันทึกเสียงใหม่ได้ตามความเหมาะสม หลังจากอัลบัมแต่ละชุดจบวงจรการขาย โดยไม่ต้องรอให้จบตามสัญญาในภาพรวม และเมื่อเดือนสิงหาคม 2019 สวิฟท์ก็ออกมาเผยต่อสาธารณชนว่า เธอตั้งใจที่จะนำเพลงจากอัลบัมแรกๆ มาบันทึกเสียงใหม่

แล้วบรรดาสินทรัพย์ที่บรอนขายนั้น มีความสำคัญ และทำอะไรได้บ้าง? งานบันทึกเสียงที่เป็นมาสเตอร์ สามารถสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมิง, การฟังในรูปแบบต่างๆ, การทำแซมพลิง, การออกอากาศ รวมไปถึงใช้ในรายการโทรทัศน์, ภาพยนตร์ และโฆษณา แล้วยังเป็นสินทรัพย์สุดฮ็อทในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เช่นที่กองทุน ฮิพโนซิส ของเมิร์ซค์ เมอร์คูริอาดิส ฉกเอางานเก่าๆ ของศิลปินอย่าง ทิมบาแลนด์ และเดฟ สจวร์ท แห่งวง Eurythmics ไปจนถึงแจ็ค แอนโทนอฟฟ์ และเจฟฟ์ บาสเตอร์ มาเก็บไว้ โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 – มีนาคม 2020 บริษัทนี้ใช้เงินไปเกือบๆ 700 ล้านเหรียญกับงานเก่าๆ 42 ชุด แล้วเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2020 ฮิพโนซิสก็ซื้อหุ้นเพลงเก่าๆ ของริค เจมส์ ทั้งจากบริษัทพิมพ์เพลงและตัวศิลปินมาถือไว้รวม 50% แล้วยังไปเก็บหุ้นในงานบันทึกเสียงของเจมส์อีก 50% ด้วย โดยเพลง “Super Freak” ของเจมส์ เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกนำไปใช้และถูกแซมพลิงมากที่สุดของวงการเพลงยุคใหม่

ส่วนสินทรัพย์ที่เป็นสิทธิในการพิมพ์เพลง ก็พุ่งสูงมากขึ้นในปัจจุบัน โดยล่าสุดมีมูลค่าเพิ่มจากเดิมถึงกว่า 12 เท่า สิทธิในมาสเตอร์อาจจะมีราคาลดลงเล็กน้อยแต่คุณค่าก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนวงในรายหนึ่งแสดงความเห็นส่วนตัวถึงข้อตกลงที่เกิดขึ้นว่า “ในอีกห้าหรือว่าสิบปี มันอาจจะมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 20 เท่า และคุณค่าของมันก็ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ” นักลงทุนรายเดียวกันยังแนะนำว่าไม่ควรขายลิขสิทธิทางปัญญาในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แล้วจับตามองเรื่องการจัดการกับทรัพย์สินต่างๆ ตามนโยบายของไบเดน ซึ่งจะมีผลกับสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องในระดับสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรื่องการลงทุนและภาษีในปี 2021

แล้วการบันทึกเสียงงานเก่าๆ ของเทย์เลอร์ สวิฟท์ จะทำประโยชน์อะไรได้บ้าง? อย่างแรกก็คือทำเงินจากคนที่ซื้อ โดยย้ำว่านี่คืองานเวอร์ชันใหม่ ไม่ใช่งานที่เป็นของเดิมจากต้นสังกัดเก่าของเธอ แล้วเป็นงานที่จะถูกนำไปเปิดโดยแฟนๆ และนำไปใช้ทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา, รายการโทรทัศน์, ภาพยนตร์, เกม และในสื่อต่างๆ นอกจากนี้บริษัทที่ซื้อสิทธิมาสเตอร์ของสวิฟท์ไป ยังต้องมาเคลียร์เรื่องสิทธิในการพิมพ์เพลง เพื่อที่การอนุญาตให้ใช้งานต่างๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้

สำหรับบริษัทบิก แมชีน ยังคงอยู่ในมือของบรอนและบอร์เช็ทตา โดยศิลปินที่อยู่ในสังกัดก็มี เชอรีล โครว์, Florida Georgia Line, โธมัส เร็ทท์, Rascal Flatts และ Lady A วงทรีโอที่ชื่อเดิมคือ Lady Antebellum

ในอิธาคา ยังมีคาร์ลาล์ย กรุปเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งปี-สองปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวมายธอส สตูดิโอส์ ที่กลายเป็นคู่ค้ากับเดวิด ไมเซล ประธานผู้ก่อตั้งมาร์เวล ในการซื้อบริษัทแอทลาส พับลิชิง และเป็นคู่ค้ากับแซนด์บ็อกซ์​เอนเตอร์เทนเมนท์ ของเจสัน โอเวน แล้วในเมื่อปี 2019 บริษัทก็เปิดตัวไรส์ อิน สเปซ กองทุนเพื่อการลงทุนที่แซ็ค แค็ทซ์ อดีตประธานของบริษัทบีเอ็มจี เป็นผู้บริหาร

การขายสิทธิมาสเตอร์งานเก่าๆ ของสวิฟท์ ถูกมองว่าเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับบรอน เมื่อสามารถทำกำไรจากการลงทุนในตอนแรกได้อย่างสวยงาม แม้จะโดนสวิฟท์ตำหนิต่อสาธารณะอย่างรุนแรง ด้วยการตราหน้าว่าเป็น ‘อันธพาล’ และในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา สวิฟท์ยังบอกอีกว่า บรอนเป็น “ภาพที่ชัดเจนของผู้ชายสารพัดพิษ ที่ได้รับสิทธิพิเศษในอุตสาหกรรมของเรา”

สคูเตอร์ บรอน

เมื่อถูกถามถึงเรื่องการขายสิทธิมาสเตอร์ของเธอ สวิฟท์บอกว่า “เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น โดยปราศจากการยินยอม, การปรึกษา หรือการยอมรับจากฉัน หลังจากถูกปิดโอกาสในการซื้อผลงานของตัวเอง งานเก่าๆ ของฉันก็ถูกขายให้กับอิธาคา โฮลดิงส์ ของสคูเตอร์ บรอน ในข้อตกลงที่ฉันได้รับการบอกเล่าว่าเป็นการระดมทุนของ ครอบครัวโซรอส, 23 แคพิทัล และคาร์ลาล์ย กรุป แต่วันนี้ ไม่มีนักลงทุนพวกนั้นติดต่อฉันหรือทีมของฉันโดยตรงเลย เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินในการลงทุนของพวกเขา ที่เป็นการลงทุนของพวกเขาในตัวฉัน แล้วถ้าถามว่าฉันรู้สึกอะไรบ้างกับเจ้าของงานศิลปะของฉัน, งานเพลงที่ฉันเขียน, วิดีโอที่ฉันสร้างสรรค์, ภาพ, ลายมือ, การออกแบบอัลบัมของฉัน คนใหม่” เธอกล่าวเสริม “คำตอบก็คือ บริษัทนอกตลาดหุ้นบริษัทนี้อาจจะทำให้ผู้ชายคนนี้คิดว่า จากที่เขาโพสท์ผ่านโซเชียล มีเดียของตัวเอง คิดว่า เขาสามารถ ‘ซื้อฉัน’ ได้ แต่ฉันไม่ได้รู้สึกยินดีเลยจริงๆ

ในการพูดคุยกับวาไรตี เมื่อเดือนมกราคม 2020 สวิฟท์เผยว่า “ฉันหลับสบายในยามค่ำคืน เมื่อรู้ว่าตัวเองทำถูก และรู้ว่าในอีก10 ปี สิ่งที่ฉันพูดเกี่ยวกับสิทธิที่ศิลปินพึงมีต่อผลงานของพวกเขา จะกลายเป็นสิ่งดีๆ ซึ่งจะนำไปสู่การสนทนาอย่าง ข้อตกลงในการบันทึกเสียงควรมีระยะเวลาในสัญญาสั้นลงไหม? หรือเราต้องทำยังไงถึงช่วยศิลปิน ที่ไม่ได้รับสิทธิเป็นคนแรกๆ ที่สามารถปฏิเสธการซื้อ-ขายผลงานของพวกเขาได้?”

บรอนดูเหมือนพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะก่อให้เกิดการปะทะกันผ่านสื่อ แต่เขาเคยบอกกับวาไรตีในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2019 เอาไว้ว่า “ผมไม่รู้ว่าเราไปเจอเรื่องยุ่งยากระหว่างการเจรจากันตอนไหน ในสิ่งที่เราตัดสินใจทำอย่างถูกต้องและสุภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการสร้างความขัดแย้ง ในความเป็นมนุษย์ผู้คนเติบโตขึ้น, พวกเขามีการเจรจา, พวกเขาเปลี่ยนใจกันได้, พวกเขาสามารถเปลี่ยนจากการไม่ชอบหน้าใครคนหนึ่งแล้วชอบขึ้นมาได้ แล้วในทางตรงข้ามกันก็ทำได้ แต่คุณจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยการคร่ำครวญใส่คนอื่นๆ คุณจะทางแก้ปัญหาก็ต่อเมื่อปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นด้วยความเคารพ และสนทนากัน”

ในตอนที่รู้ข่าวเรื่องการขายสิทธิมาสเตอร์อัลบัมเก่าๆ ให้กับบริษัทการเงินที่ไม่เป็นที่เปิดเผย โดยสคูเตอร์ บรอน เทย์เลอร์ สวิฟท์ออกมายืนยันว่า การตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม กับบริษัทที่เธอเผยในเวลาต่อมาว่าเป็น แชมร็อค โฮลดิงส์ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า เธอไม่โอเคกับการที่สิทธิในมาสเตอร์ของตัวเธอ ถูกขายเป็นคำรบสอง โดยที่เธอไม่ได้ยินยอมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเลย

สวิฟท์เสริมด้วยว่า เธออยู่ในระหว่างการเจรจากับตัวแทนของสคูเตอร์ บรอน ก่อนที่สิทธิในมาสเตอร์จะถูกขายต่อไปให้บริษัทดังกล่าว ซึ่งบรอน “ไม่เคยเสนอราคากับทีมฉันเลย”

นอกจากนี้ สวิฟท์ก็เริ่มทำงานบันทึกเสียงเพลงเก่าสมัยที่ยังอยู่กับบิก แมชีนทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามที่เธอเคยบอกไว้ โดยหวังว่าแฟนๆ จะเลือกฟังงานเพลงที่เธอเป็นคนดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง

จากรายละเอียดที่สวิฟท์ทวีต เธอบอกว่ารู้เรื่องการขายสิทธิมาสเตอร์เมื่อเดือนตุลาคมจากแชมร็อค โฮลดิงส์ แต่ก็หลังจากการเจรจาผ่านฉลุยไปแล้ว โดยบริษัทหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับเธอผ่านผลงานเพลงเก่าๆ ในอนาคต ซึ่งตอนแรกสวิฟท์ก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการร่วมงาน แต่เมื่อรู้ว่าบรอนยังมีสัญญาผูกพัน ที่ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากผลงานของเธอ นอกเหนือไปจากยอดขายอยู่ เธอก็ปฏิเสธการร่วมงานที่เป็นไปได้ในอนาคต

ก่อนหน้านี้ อะไรก็ตามที่ทำให้สวิฟท์มีโอกาสเจรจาซื้อมาสเตอร์ผลงานเก่าๆ เธอจะทำ เช่นที่แสดงออกมาในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิทธิที่เธอสามารถทำได้ โดยเธอเผยว่า ตัวแทนของบรอนแจ้งกับเธอว่างานเก่าๆ เหล่านั้นมีไว้ขาย แต่เธอถูกขอให้เซ็นข้อตกลงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งมีเงื่อนไขว่าเธอไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์บรอนได้อีก ก่อนจะได้ตรวจสอบสัญญาของบิก แมชีน หรือเสนอราคา และเธอก็ออกแถลงการณ์ผ่านทวิตเตอร์ว่า “ทีมของฉันพยายามที่จะเจรจากับสคูเตอร์ บรอน แต่ทีมของเขาต้องการให้ฉันเซ็นข้อตกลงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งย้ำว่าฉันไม่สามารถพูดอะไรก็ตามเกี่ยวกับสคูเตอร์ บรอนได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องในแง่บวก ก่อนที่จะไปดูเรื่องบันทึกทางการเงินของบิก แมชีน เลเบล กรุป (ซึ่งมักจะเป็นก้าวแรกในการซื้อขายตามปกติ) ทำให้ฉันต้องเซ็นเอกสารเพื่อให้ตัวเองเงียบไปตลอดกาล ก่อนจะมีโอกาสต่อรองราคางานของตัวเอง”

การเจรจาเลยไม่เกิดขึ้นเพราะการที่ต้องเซ็นข้อตกลงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ “เขาไม่เคยเสนอราคาให้กับทีมของฉัน มาสเตอร์เหล่านั้น ไม่ได้มีไว้ขายให้ฉัน” เธอสรุป

เธอยังเขียนไว้อีกว่า “สอง-สามสัปดาห์ก่อน ทีมของฉันได้รับจดหมายจากบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชื่อ แชมร็อค โฮลดิงส์ แจ้งให้เราทราบว่าพวกเขาซื้องานของฉัน เพลง, วิดีโอ และงานอาร์ทของอัลบัมจากสคูเตอร์ บรอนไปแล้ว 100% เป็นครั้งที่สองแล้วที่งานของฉันถูกขายโดยที่ฉันไม่รู้เรื่อง จดหมายระบุด้วยว่า พวกเขาอยากแจ้งให้ฉันรู้ก่อนที่การขายจะเสร็จเรียบร้อย แต่ทางสคูเตอร์ บรอนขอว่าอย่าติดต่อกับฉันหรือทีมของฉัน ไม่งั้นการเจรจาต้องยุติลง”

ก่อนสวิฟท์จะรับรู้ว่า บรอนยังทำกำไรจากงานเก่าๆ ของเธอต่อไปได้อีก เธอ “หวังและเปิดกว้างในความเป็นไปได้ที่จะทำงานกับแชมร็อค” เธอกล่าว “แต่การที่สคูเตอร์ยังมีส่วนร่วม มันทำให้ฉันไม่สามารถเริ่มต้นได้”

สำหรับแฟนๆ สวิฟท์บอกด้วยว่า “ฉันเริ่มทำงานบันทึกเสียงงานเก่าๆ ของฉันใหม่แล้ว และมั่นใจได้ว่า มันมีทั้งความน่าตื่นเต้นและการเติมเต็มทางความคิดสร้างสรรค์ ฉันมีเรื่องน่าประหลาดใจเพียบเลยที่รออยู่”

นอกจากนี้สวิฟท์ยังโพสท์ข้อความในจดหมายที่เธอส่งให้แชมร็อค โฮลดิงส์ ซึ่งลงวันที่ 28 ตุลาคม เอาไว้ด้วย

“ฉันรู้สึกว่าต้องแสดงความโปร่งใสกับคุณ” เธอเขียนบอกกับแชมร็อค “ฉันกำลังเดินหน้าไปตามตารางการบันทึกเสียงงานเก่าของฉันใหม่ และจะเริ่มบันทึกเสียงในเร็วๆ นี้ ฉันรู้ว่าการทำแบบนี้จะเป็นการลดคุณค่างานมาสเตอร์เดิมของฉัน แต่ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจว่า นี่เป็นเป็นทางเดียวที่ฉันจะกอบกู้ความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งฉันเคยมียามได้ยินเพลงจากหกอัลบัมแรก และสามารถทำให้แฟนๆ ได้ฟังงานเหล่านั้นโดยไม่รู้สึกผิดจากการทำให้สคูเตอร์ได้รับผลประโยชน์”

ทางแชมร็อคตอบกลับจดหมายของสวิฟท์ว่า “เทย์เลอร์ สวิฟท์ เป็นศิลปินเยี่ยมยอดจากงานเพลงเก่าๆ ที่ไร้กาลเวลา” บริษัทระบุในแถลงการณ์ “เราจัดการลงทุนในเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อในคุณค่ามหาศาล และโอกาสมากมายที่จะเกิดขึ้นจากงานของเธอ เราให้ความเคารพและสนับสนุนการรตัดสินใจของเธออย่างเต็มที่ และหวังว่าเราจะเป็นคู่ค้าอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งเรารู้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และเราต้องมาพิจารณากัน เราให้ความชื่นชมการสื่อสารที่เปิดเผยและความเป็นมืออาชีพที่เทย์เลอร์มีกับเรา ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราหวังที่จะเป็นคู่ค้ากับเธอในรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต และยังคงมุ่งมั่นลงทุนศิลปินด้วยผลงานของพวกเขา”

เทย์เลอร์ สวิฟท์ ที่ไปออกรายการ Good Morning America ยังได้พูดถึงการบันทึกเสียงงานเก่าๆ ของเธอ เมื่อผู้ดำเนินรายการ จอร์จ สเตฟาโนปูลอส บอกสวิฟท์ว่า บรรดาลูกสาวของเขาเป็นแฟนตัวยงของเธอ และหนึ่งในจำนวนนั้นถามว่า เพลงไหนที่เธอตื่นเต้นที่สุด เมื่อได้บันทึกเสียงใหม่

“ฉันมีความสุขมากกับการบันทึกเสียงงานเพลงเก่าของฉันอีกครั้ง และคิดว่าคำตอบคือ… เท่าที่ได้บันทึกเสียงเพลงเก่าขึ้นใหม่ในตอนนี้ ฉันคิดว่าฉันสนุกมากกับการบันทึกเสียงเพลง Love Story เพราะมันเป็นเพลงที่เก่ามาก เสียงร้องของฉันก็เป็นเสียงเด็กวัยรุ่นมากๆ บางครั้งเวลาได้ยินเพลงเก่าๆ ของตัวเอง ที่เสียงเป็นสาวรุ่น มันทำให้ฉันรู้สึกแบบ… ตอนนี้ฉันเป็นนักร้องที่แตกต่างจากเดิม มันเลยเป็นความสนุกสุดๆ ที่ได้กลับไปบันทึกเสียงเพลงพวกนั้น ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกว่า สามารถปรับปรุงเพลงต่างๆ เท่าที่สามารถทำได้จริงๆ มันกลายเป็นการผจญภัยที่สนุกสนาน และน่าทึ่ง” เธอกล่าว

สวิฟท์บันทึกเสียงงานเก่าๆ ของเธอสมัยอยู่กับบิก แมชีนใหม่ หลังจากสคูเตอร์ บรอนซื้อสิทธิมาสเตอร์ของเธอแล้วขายต่อให้แชมร็อค โฮลดิงส์ บริษัทนอกตลาดหุ้น ซึ่งการนำงานเก่ามาบันทึกเสียงใหม่ ทำให้สวิฟท์สามารถเป็นเจ้าของเพลงเหล่านั้นอีกครั้ง และปล่อยออกมาให้แฟนๆ โดยอยู่ในการดูแลของเธออย่างที่เธอต้องการ

ขณะที่แชมร็อค โฮลดิงส์ อาจจะกลายเป็นเพียงหนึ่งในเส้นทางการทำกำไรของสคูเตอร์ บรอน จากงานเก่าๆ ของเทย์เลอร์ สวิฟท์เพียงเท่านั้น และผลลัพธ์ที่ทางบริษัทได้รับ อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่คิด กว่าจะได้รับผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.