By Sadaos
ปลายปี 1979 Black Sabbath เตะนักร้องนำของวง ออซซี ออสบอร์น ออกไป สำหรับการปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อไม่ยอมทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว และพวกเขาอยู่ในระหว่างการทำงานอัลบัมชุดแรกกับอดีตนักร้องนำของวง Rainbow – รอนนี เจมส์ ดิโอ ในช่วงเดียวกันนั้น แต่เป็นที่แคลิฟอร์เนีย ลีนน์ เคอร์ลี-จิตรกร กำลังเปิดแสดงงานชุดภาพวาดชื่อ ‘Masque’ ที่เดอะ ดันอะเวย์ แกลลอรี ในซานทา มอนิกา ซึ่งเจ้าของร่วมของแกลเลอรีไม่ใช่ใครอื่น นางแบบ-นักแสดงสาว เฟย์ ดันอะเวย์
ท่ามกลางภาพวาดมากมายของเคอร์ลี มีภาพหนึ่งชื่อว่า ‘Smoking Angels’ ซึ่งเป็นภาพของนางฟ้าสามองค์ ถือไพ่และสูบบุหรี่ ตอนนั้นเองที่เคอร์ลีได้รับโทรศัพท์จากวอร์เนอร์ บราเธอร์ส เรคอร์ดส์ ซึ่งชอบภาพปกอัลบัมชุด ‘Agents of Fortune’ ของวง Blue Oyster Cult เมื่อปี 1976 ที่เขาวาดมาก และบังเอิญเหลือเกินที่ภาพนี้ก็มีไพ่เหมือนกัน “พวกมันเข้ากันได้พอดี” เคอร์ลีเล่าถึงสองภาพดังกล่าว “แบล็ก ซับบาธ กำลังจะออกอัลบัมใหม่ชื่อ ‘Heaven and Hell’ ตัวภาพปกยังไม่ได้ทำ และบางคนก็ตัดสินใจโทรมาหาผม ถามว่าผมพอมีอะไรที่พวกเขาอาจจะใช้ได้บ้างไหม เพราะว่าจังหวะเวลาในการทำงานมันสั้นมาก ๆ” เคอร์ลีส่งภาพ ‘Smoking Angels’ ให้พวกเขาไป แล้ววอร์เนอร์ฯ ก็ส่งเช็คให้เขากลับมา
‘Heaven and Hell’ ออกมาในช่วงต้นปี 1980 และสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของวงที่ไม่ค่อยดีนัก จากสองอัลบัมสุดท้ายที่ทำกับออซซี ออสบอร์น ‘Technical Ecstasy (1976) ที่ดูด้อยกว่า และ ‘Never Say Die (1978) ที่ตัวงานดูวกวน ได้สำเร็จ เพลงอย่างงานเปิดอัลบัม “Neon Knights”, “Die Young” และ เพลงที่เป็นชื่ออัลบัม ไปต่อได้และกลายเป็นงานเพลงเมทัลคลาสสิก ขณะที่แฟน ๆ ก็ทึกทักเอาว่า ตัวปกอัลบัมนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง แต่แน่นอนนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเป็นประเด็นอะไรมากมาย เพราะ ‘Smoking Angels’ เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่วอร์เนอร์จะโทรมาหาเคอร์ลีซะอีก “ความคิดตั้งต้นสำหรับภาพนี้ มาจากภาพในหนังสือพิมพ์ของใครก็ไม่รู้ที่หลังเวทีงานประกวดงานหนึ่งในช่วงคริสต์มาส” เคอร์ลีเล่า “แล้วผมก็เอารูปร่างของปีกมาจากภาพอีแร้งที่กำลังกินซากศพ”
จากที่เขาเล่า เคอร์ลีใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการจบภาพ ‘Smoking Angels’ “มันเป็นภาพสีอะครีลิกบนผ้าใบ และขนาดก็อยู่ที่ 4 X 6 ฟุต” เขาบอก “ผมวาดโดยใช้แปรงมาตรฐาน พิถีพิถันกับงานเต็มที่ ไม่มีการใช้แอร์บรัช เนื่องจากภาพเสร็จเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว มันเลยไม่ฟิตพอดีกับกรอบภาพปกอัลบัม ดังนั้นภาพทางด้านขวาเลยต้องถูกตัดออก ซึ่งในภาพเต็ม ๆ จะเห็นปีกทั้งหมดของนางฟ้าองค์นั้น”
ภาพถูกขายในอีกหลายปีต่อมา “ผมคิดว่าคงเป็นคนที่อินกับวงด้วยอะไรบางอย่างเป็นคนซื้อไป แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นใครจริง ๆ สาบานได้ เพราะบันทึกการทำธุรกิจของผมจากช่วงเวลานั้นมันหายไปหมดแล้ว” เคอร์ลี เล่า
ถึงแม้ว่า ในเวลาต่อมาเคอร์ลีจะได้ค่าคอมมิชชันจากผู้จัดการวง The Police เพื่อวาดภาพเหมือนของสมาชิก ที่จะถูกนำไปใช้เป็นปกอัลบัม แต่ภาพดังกล่าวก็ไม่เคยถูกนำมาใช้ ดังนั้น ภาพปก ‘Agents of Fortune’ กับ ‘Heaven and Hell’ จึงเป็นเพียงสองภาพของเคอร์ลี ที่กลายมาเป็นปกอัลบัม
ทุกวันนี้เคอร์ลีเป็นนักเขียนและผู้เขียนภาพประกอบหนังสือสำหรับเด็ก “ผมไม่ใช่ศิลปินที่ทำงานเพื่อขาย หรือเป็นนักวาดภาพประกอบในช่วงเวลานั้น” เขาอธิบาย “ผมไม่เคยมองหางานอะไรทำนองนั้น ผมทำงานเพื่อโชว์ตามแกลเลอรีต่อจนกระทั่งกลายเป็นนักเขียน-นักวาดภาพประกอบ ว่ากันตามตรง โอกาสได้เขียนภาพปกสองอัลบัมนั้น มันตกมาถึงผมเอง
“จริง ๆ แล้ว ผมมองว่า ‘Agents of Fortune’ เป็นปกที่มีความสมบูรณ์แบบทางศิลปะมากกว่า เนื่องจากมันถูกวางแผนไว้แล้วว่าจะเป็นปกอัลบัม ส่วน ‘Heaven and Hell’ เป็นภาพที่โดนความรู้สึกผู้คนมากกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า แบล็ก ซับบาธ เป็นวงดัง ส่วนบลู ออยสเตอร์ คัลต์ ไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้น” เขาเสริม “ผมทึ่งกับความสำเร็จของภาพนะ มันกลายเป็นภาพที่ผมอ้างถึงชื่อเสียงในวงการเพลงร็อกแอนด์โรลล์ได้เลย”
แปลและเรียบเรียง จาก นิตยสาร Revolver ฉบับ The Art of Hard Rock & Heavy Metal
สนับสนุนเราได้ที่ -:> https://facebook.com/becomesupporter/Sadaos/ หรือที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
What is your reaction?
