“ดนตรีที่เปี่ยมด้วยวิญญาณ” และ “บทเพลงที่คัดสรรเป็นอย่างดี ซึ่งเต็มไปด้วยจินตนาการที่เป็นไปตามธรรมชาติกับเสียงกีตาร์อะคูสติค เป็นสรรพเสียงของชายหนุ่มที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง กับความทรงจำและเสียงกีตาร์ของเขา”
คำวิจารณ์ส่วนหนึ่งของสตีเฟน เอ็ม. ดอยสเนอร์ จากนิตยสารพิทช์ฟอร์ค ว่าเอาไว้ถึง For Emma, Forever Ago อัลบัมชุดแรกจาก Bon Iver วงดนตรีในแบบวันแมนแบนด์ (ในตอนนั้น) ของจัสติน เวอร์นอน ที่ออกมาเมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นผลพวงจากการปลีกวิเวกเพื่อทำงานตามลำพังในกระท่อมทางตะวันตกเฉียงเหนือของวิสคอนซิน และนี่คือจุดเริ่มต้นของวงดนตรีเล็กๆ ที่กลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งของวงการเพลงในยุค 2000s เมื่อชุดนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักวิจารณ์และคอเพลงที่ต้องการสัมผัสกับงานเพลงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ
ขณะที่อัลบัมชุดต่อมา Bon Iver ซึ่งเวอร์นอนไม่ได้บันทึกเสียงเพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว ไปได้ไกลยิ่งกว่างานเปิดตัว เมื่อทำให้วงคว้ารางวัลแกรมมีปี 2012 ในสาขา ศิลปินหน้าใหม่และอัลบัมดนตรีอัลเทอร์เนถีฟยอดเยี่ยมมาครอง
ส่วนงานชุดที่สามและสี่ 22, A Million ในปี 2016 กับ I, I ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง ก็ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์และเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงเช่นกัน ซึ่งทำให้บอง อิแวร์ หยั่งรากฝากใบได้มั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ ในวงการเพลง รวมไปถึงกลายเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม เห็นได้ชัดจากยอดขายอัลบัม, ซิงเกิล หรือการสตรีมิงเพลงของพวกเขา ที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ขณะที่การแสดงสดของวง ก็ไม่ใช่ในคลับเล็กๆ หรือโชว์ต่อหน้าคนดูไม่กี่คนอีกต่อไป แต่เป็นในเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ หรือในสนามกีฬาขนาดยักษ์
แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้จากการแสดงของพวกเขา โดยไม่มีวันหายไปไหนก็คือ ‘พลัง’ และ ‘อารมณ์’ ที่อัดแน่นอยู่ในบทเพลง “ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเมื่อสิบปีก่อน ที่มีคนดูแค่หลักสิบ หรือตอนนี้ที่มีคนกว่า 10,000 คนชม ในสนามกีฬา การแสดงของเรายังเต็มไปด้วยพลังมหาศาลเหมือนเดิม แล้วตอนนี้เราพยายามออกแบบการแสดงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้คนดูได้ประสบการณ์การชมในรูปแบบใหม่ๆ อย่างสมบูรณ์ที่สุด”
ซึ่งใครๆ ที่ได้ชมการแสดงของบอง อิแวร์ ล้วนบอกออกมาว่า นี่คือการแสดงที่สุดแสนซาบซึ้ง และตราตรึงอยู่ในความทรงจำตราบนานเท่านาน
และ 15 มกราคม 2563 จัสติน เวอร์นอน และเพื่อนๆ ในนามบอน อิแวร์ ได้แก่ ฌอน แครีย์, แอนดรูว์ ฟิทซ์แพทริค, ไมค์ ลิวอิส และ แม็ทท์ แม็คคัฟแกน จะมาเปิดการแสดงครั้งแรกในเมืองไทย โดยการจัดของวิจิคอร์ป ในคอนเสิร์ท Singha Corporation presents Bon Iver live in Bangkok 2020 ที่มูนสตาร์ สตูดิโอ
งานนี้ ทางวงจะขนโปรดัคชันชุดใหญ่มาด้วย เพื่อมอบการแสดงในแบบที่หยั่งลึกถึงจิตวิญญาณ จากเสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองที่ลึกซึ้งและสวยงาม ซึ่งจะทำให้เกิดมิติใหม่แห่งแสงและเสียงที่สวยงาม ที่คลุกเคล้าไปกับอารมณ์จากบทเพลงได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
สำหรับบัตรชมคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของ บอง อิแวร์ จะเปิดจำหน่ายในวันที่ 26 กันยายนนี้ ในราคา 2,230 บาท เพียงราคาเดียวเท่านั้น โดยซื้อได้ที่ www.ticketmelon.com/VIJI/BONIVER
ด้วยสถานที่ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก งานนี้บัตรเข้าชมมีจำกัดซื้อไว้อยู่ในมือไว้ก่อนย่อมดีที่สุด เพราะโอกาสที่จะได้สัมผัสกับวงดนตรีที่กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการเพลงยุคใหม่แบบนี้ มีไม่บ่อยครั้งแน่ๆ
โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณจากจัสติน เวอร์นอน และ Bon Iver คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 20 กันยายน 2562