ดูมาแล้ว Kung Fu Yoga หยุดเวลาเอาไว้แล้วไปสนุกกับเฉินหลง

KUNG FU YOGA: นานแล้วที่ไม่มีหนังเฉินหลงฉายรับตรุษจีน และนอกจากจะเป็นการเปิดตัวในช่วงเทศกาลสำคัญ Kung Fu Yoga ยังเป็นหนังเฉินหลงเรื่องที่สองเข้าไปแล้วในปีนี้

จากเรื่องสมัยสงครามโลกหนที่สอง ในหนังเรื่องก่อน เฉินหลงกลายมาเป็นนักโบราณคดีในแบบอินเดียนา โจนส์ ที่ถูกนักโบราณคดีชาวอินเดียมาชวนให้ออกไปตามหาสมบัติของกองทัพที่สาบสูญในอดีต ซึ่งก็เป็นไปตามสูตรว่าต้องมีการแย่งชิงกันไปมา มีเงื่อนงำบางอย่างที่อยู่เบื้องหลัง

ซึ่งต้องบอกกันเลยว่า ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย บทจะคลี่คลายทุกอย่างก็ถูกเผยออกมาด้วยตัวเองก็ว่าได้ โดยมีจุดขายอยู่ที่การเดินทางผจญภัยไปในที่ต่างๆ ของตัวละคร อารมณ์ขันของหนัง และแน่นอนว่าฉากแอ็คชัน

แต่หนังเฉินหลงยุคนี้ ไม่ใช่หนังเฉินหลงในยุคก่อน ที่เฮียแกยังสด แข็งแรง ใน Kung Fu Yoga เองง คงต้องบอกว่า ในเรื่องของฉากแอ็คชัน ถ้าไม่วางมือก็ต้องบอกว่าใกล้เคียงเต็มที จะหวังพึ่งนักแสดงรุ่นใหม่ร่วมจอ ดูแล้วก็ขาดเสน่ห์ และความน่าสนใจ ยิ่งเรื่องความสามารถด้วยแล้ว เทียบกับเฉินหลงในช่วงวัยเดียวกันไม่ติด ส่วนเรื่องอารมณ์ขันก็เป็น มุขตลกเจ็บตัวแบบการ์ตูน ที่หากไม่ได้เสียงพากย์ไทยมาอุ้ม Kung Fu Yoga มีสิทธิเป็นหนังแอ็คชัน-เบาสมองชืดๆ ได้เลบ

ตัวหนังเองก็เหมือนงานปะชุนเอาฉากเด่นๆ จากหนังฮอลลีวูดหลายๆ เรื่องมาเย็บรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังชุด Indiana Jones ที่ตัวละครในเรื่องบอกตรงๆ ว่า ศรัทธากันเลย ส่วนฉากไล่ล่าที่ดูไบ ก็ทำให้นึกถึง Fast & Furious แต่ดูหลอกกว่าด้วยเทคนิคพิเศษด้านภาพที่ไม่เนียนนัก ยังดีที่มีสิงโตมาช่วยขยับเสียงฮา ทำให้ฉากนี้ไม่ดูนิ่งจนเกินไปนัก ก่อนจะปิดด้วยอารมณ์แบบงานบอลลีวูด ที่โดดๆ ออกจากเรื่องยังไงๆ อยู่

ส่วนคนที่สงสัยว่า แล้วกังฟูโยคะคืออะไร ตอนต้นหนังเหมือนจะเอาทั้งสองอย่างมาผสมผสานกัน แต่ในที่สุดก็เลือนหาย แล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอีกเลย ส่วนเรื่องของบทก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากมาย ซึ่งมาถึงตอนนี้ กับจุดขายที่เคยมีในหนังเฉินหลง นอกจากเจ้าตัวจะไม่ไหว ก็ยังกลายเป็นของที่เหมือนกับหยุดเวลา เอาไว้ให้ไปถวิลหาอดีตกันแล้ว

ควรชมหากชอบ: หนังชุด Indiana Jones, Fast & Furious, Armor of God

โดย นพปฎล พลศิลป์

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่