SCARY STORIES TO TELL IN THE DARK: ระหว่างชมก็รู้สึกตะหงิดๆ อยู่ว่า ทำไมหนังที่ปะหน้าว่าเป็นงานสยองขวัญเรื่องนี้ ถึงเล่นกับอารมณ์คนดูได้หน่อมแหน้มเหลือเกิน จนได้มารู้ข้อมูลถึงที่มาของนิยายที่เป็นต้นทางของหนัง ก็เลยเข้าใจ เพราะเป็นนิยายชุดสยองขวัญสำหรับเด็กนั่นเอง
เรื่องความเข้มข้น ดุเดือด ในการเล่นกับความรู้สึกของผู้ชมเลยตกไป เพราะเมื่อต้นทางเป็นนิยายสำหรับเด็กๆ ตัวหนังเองก็ไม่น่าจะหวังผู้ชมไกลกว่าหนังสือ แล้วหากชมด้วยสายตาของผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจริงๆ แล้ว Scary Stories to Tell in the Dark ก็ไม่น่าจะขี้เหร่มากนัก การสร้างบรรยากาศ การวางจังหวะช็อคคนดูของหนังก็พอได้อยู่ ซึ่งก็ถือว่าดูพอสนุกใช้ได้ แม้ในเรื่องความเข้มข้น จริงจังแบบหนังสยองขวัญสำหรับผู้ใหญ่จะไปไม่ถึงก็ตามที
เรื่องราวก็เหมือนกับน่าจะเป็นการเอาเรื่องสั้นหลายๆ เรื่องมาร้อยต่อกัน ซึ่งก็เชื่อมได้ดีทำให้หนังมีจุดเริ่มต้น จุดจบที่ลงตัว โดยมีตัวละครที่เป็นแกนกลางสำคัญ ที่ผู้ชมสามารถเกาะติดและเอาใจช่วยไปด้วยได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้เรื่องราวมีความหลากหลาย ทั้งสถานการณ์และสถานที่ ที่ตัวละครต้องเจอ ทั้งภูตผีปีศาจที่มีลักษณะแตกต่างกันไป ซึ่งจากการออกแบบก็ไม่พ้นทำให้รู้สึกถึงอิทธิพลของกีเยร์โม เดล โตโร ผู้อำนวยการสร้างของหนังเรื่องนี้
จังหวะการเล่าเรื่องก็ถือว่าใช้ได้ ทำให้หนังดูเพลินๆ ลื่นไหลไปได้เรื่อย แต่จะสะดุ้ง ตกใจ หรือหลอนไปกับสารพันต่างๆ ที่มี โดยส่วนตัวแล้ว ไม่รู้สึกอะไรตรงนี้นัก แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ชมเด็กๆ ก็น่าจะตรงกันข้ามก็เป็นไปได้ 😀
หนังจบลงในแบบที่มีเปิดท้ายเอาไว้สำหรับสร้างภาคต่อ ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จก็น่าจะเดินหน้าไปได้อย่างที่ตั้งใจ แต่จากที่เห็นในหนังเรื่องนี้ หน้าตาของหนังไม่ได้เข้าตาผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย แล้วผู้ชมที่อายุมากกว่านั้น ก็ไม่รู้สึกสนุกไปกับหนัง ด้วยความที่หน้าตาทำออกมาในเชิงจริงจัง มากกว่าจะเป็นที่เล่นทีจริงอย่างที่หนังนำเสนอ ทั้งที่หากมองในเรื่องของคุณภาพแล้ว Scary Stories to Tell in the Dark ถือว่าทำได้ไม่แย่เลยก็ตามที
โดย นพปฎล พลศิลป์