By Sadaos
เมื่อวานพาไปทำความรู้จักกับเพลงรักหวานเลี่ยน ที่รู้จักกันดีแล้ว 5 เพลง คือ Heaven ของไบรอัน อดัมส์, สตีวี วอนเดอร์ กับเพลง I Just Called to Say I Love You, ไลโอเนล ริชี และเพลง Hello, More Than Words ของวงร็อคเอ็กซ์ตรีม และ บ็อบบี ดาริน กับ If I Were a Carpenter (คลิกอ่านตอนแรกได้ที่ http://bit.ly/1c6YlSO)
วันนี้จะพาไปรู้จักกับอีกห้าเพลงที่เหลือ ที่หวานเจี้ยบ จับใจ
เริ่มที่วงแจ็ซซ์-ร็อค ชิคาโก กับเพลง You’re the Inspiration ที่กับคนไม่ชอบอะไรเลี่ยนๆ ถึงกับออกปากว่า เพลงนี้นั้น หวานหยดเป็นสองเท่าของเพลงอื่นๆ อย่างแรกก็จากเนื้อร้องที่มาแบบสุดๆ อย่างที่สองก็คือเสียงร้องหลบสูงของปีเตอร์ เซเทรา ทำให้เพลงนี้ฉ่ำยิ่งกว่าเดิม ไม่แปลกที่อะไรเลี่ยนๆ แบบนี้จะกลายเป็นเพลงฮิต และนึกดูซิว่าจะฉ่ำยิ่งกว่าขนาดไหน ถ้าได้เสียงอย่างเคนนี โรเจอร์มาร้อง
พูดถึงเคนนี โรเจอร์แล้ว ก็ต้องมีเพลงของคุณลุงเขาซะหน่อย และจะเป็นเพลงอะไรไม่ได้เลยนอกจาก Lady ที่เป็นการทำงานร่วมกันของสองสุดยอดเจ้าของเพลงหวาน หนึ่งคือเจ้าของเสียงร้อง สองคือนักแต่งเพลงที่ชื่อ ไลโอเนล ริชี
ว่ากันที่นักร้องหญิงบ้าง เบ็ทท์ มิดเลอร์ กับเพลงอมตะเพลงหนึ่งของวงการเพลง และของตัวเอง Wind Beneath My Wings นี่เป็นเพลงกระแทกความรู้สึกอีกเพลง ที่อยู่ในหนังที่เรียกน้ำตาเป็นบ้าเป็นหลัง ซึ่งออกฉายเมื่อปี 1988 เรื่อง Beaches ที่มาครบ จัดเต็ม ทั้งเรื่องราวของหนัง ที่ว่าด้วยเพื่อนรักสาวที่แย่งผู้ชายคนเดียวกัน, มีความอิจฉาริษยาทางอาชีพ และป่วยเป็นโรคร้าย แล้วก็ได้การแสดงชั้นยอด เพลงบัลลาดบาดจิตชั้นเยี่ยมที่เต็มไปด้วยนัยมากมายมาเสริมอารมณ์ นี่คือเพลงที่เป็นที่สุดเพลงหนึ่งของเพลงหวานเลี่ยนก็ว่าได้
พูดถึงเพลงหวาน ไม่มีเพลงของแอร์ ซัพพลายเลยก็น่าเกลียด และ The One That You Love คือเพลงที่อยู่เหนือทุกเพลงของพวกเขาในเรื่องความหวาน ดูโอคู่นี้ได้ชื่อว่าเป็นคนที่สร้าง และทำให้งานดนตรีแบบ “ซอฟท์ ร็อค” ลงหลักปักฐาน เป็นรูปเป็นร่าง ด้วยงานเพลงฮิตมากมายในยุค 80s ซึ่งล้วนแล้วแต่ขุดค้นหาความรักในแต่ละแง่มุมมาปั้นแต่งเป็นเพลง จนแทบจะครบทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น Lost in Love, All Out of Love, Making Love Out of Nothing at All และ The Power of Love
ปิดท้ายด้วยเพลงของคริส เดอ เบิร์กห์ ที่ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มโรแมนติคของวงการเพลง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเพลงที่ทำเพลงกวี และเพลงที่มีความหมายทางสังคมมาตลอด แต่ Lady in Red ก็เปิดโลกใบใหม่ให้กับเดอ เบิร์กห์ และสำหรับเพลงนี้ มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่เดอ เบิร์กห์ร้องเพลงนี้ต่อหน้าเจ้าหญิงไดอานา ก่อนที่เจ้าหญิงจะเสียชีวิต หลังการแสดงจบเจ้าหญิงไดอานาก็ขอบคุณเดอ เบิร์กห์ที่แต่งเพลงเกี่ยวกับเธอ เพราะเป็นที่รู้กันดีสำหรับเจ้าหญิงว่าชอบเสื้อผ้าสีแดง และเพลงนี้ก็น่าจะเป็นเพลงเกี่ยวกับเธอ แต่…. เอาเข้าจริงๆ เพลงนี้เดอ เบิร์กห์แต่งให้กับภรรยาของเขาที่ชื่อ ไดแอน ต่างหาก
จากเรื่อง 10 เพลงรักเลี่ยนๆ หวานเอียนจับใจ (ตอนจบ) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่
What is your reaction?
