(อ่านตอนแรกได้ที่ http://bit.ly/1uTVFje ตอนที่ 2 ได้ที่ http://bit.ly/1qf2V1x ) นอกจากจะเป็นข่าวใหญ่ และสร้างเซอร์ไพรส์ ตลอดจนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้วงการเพลงแล้ว การให้ฟรีอัลบั้มชุดใหม่ กับลูกค้าไอทูนส์ของยูทูว์ ยังส่งผลกระทบต่อร้านค้าแผ่นและร้านขายเพลงแบบดิจตอลด้วยเช่นกัน เมื่อมีสิทธิ์วางขาย Songs of Innocence หลังไอทูนส์ถึง 5 สัปดาห์
ซึ่งทางอินเตอร์สโคป และยูนิเวอร์แซล ต้นสังกัดของยูทูว์ มีข้อเสนอพิเศษมาให้ทดแทน โดยร้านขายซีดี จะได้วางจำหน่ายอัลบั้มในแบบดีลักซ์ ที่จะมีเพลงเพิ่มให้อีก 4 เพลง และเพลงในฉบับอะคูสติคอีกราวๆ 2-7 เพลง (ซึ่งยังไม่มีการแจ้งจำนวนออกมาอย่างเป็นทางการ) สำหรับราคาขายนั้น ราคาส่งจะเป็น 12.90 เหรียญ ราคาหน้าปกจะอยู่ที่ 19.98 เหรียญ และราคาขายจริงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 16 เหรียญ บรรดาร้านค้าแผ่นใหญ่ๆ และบริการฟังเพลงสตรีมมิง รวมไปถึงดาวน์โหลดทั้งหลายจะได้สิทธิพิเศษในการขายอัลบั้มแบบดีลักซ์รวม 5 สัปดาห์ เท่าๆ กับที่ไอทูนส์ได้สิทธิในการให้ลูกค้าของตัวเอง หลังจาก 5 สัปดาห์ไปแล้ว เพลงแถมทั้งหลายก็จะถูกนำไปขายในไอทูนส์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้บรรดาร้านค้าปลีกยังได้ข้อเสนอพิเศษ ในการขายงานเก่าๆ ของยูทูว์ด้วยราคาลดอีกด้วย ทำให้อัลบั้มที่ผ่านๆ มาของวงราคาน่าจะลดลงจากเดิมราวๆ 3 เหรียญ ในช่วงเวลาหนึ่ง ขณะที่ทางไอทูนส์ก็จะขายงานเก่าๆ ของยูทูว์ในราคาลดด้วย เป็นไปได้อย่างมากว่า ลูกค้าของไอทูนส์จะทำให้อัลบั้มทั้ง 20 ชุดของวง กลับไปติดชาร์ต iTunes top 200 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความต้องการงานของวงเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า สิ่งที่อินเตอร์สโคป และยูนิเวอร์แซล มิวสิคมอบให้ร้านค้าทั่วๆ ไป ไม่สามารถสร้างความพึงพอใจได้ 100% ซึ่งมีการพูดคุยในกลุ่มร้านค้าเหล่านี้แล้วว่า จะวางจำหน่ายงานของยูทูว์ดีหรือไม่ หากย้อนไปในตอนที่บียอนเซ่ขายอัลบั้มเซอร์ไพรส์ของเธอผ่านไอทูนส์ ทางร้านขายซีดีอย่าง ทาร์เก็ทก็ปฏิเสธที่จะขายงานชุดนี้ ส่วนอะเมซอนก็ขายแต่อัลบั้มในแบบเอ็มพีธรี แต่ไม่มีการขายซีดี หรือแผ่นเสียง ซึ่งหนนี้ทั้งสองร้านใหญ่ยังไม่แสดงความเห็นออกมาว่าจะทำยังไงกับ Songs of Innocence
นอกเหนือไปจากร้านค้า ผู้บริหารค่ายเพลงบางแห่งก็มองว่า นี่คือการลดคุณค่าของดนตรี “ผมไม่แน่ใจว่า การแจกฟรีแบบนี้เป็นเรื่องดีกับธุรกิจ” หนึ่งในผู้บริหารค่ายเพลงแห่งหนึ่งกล่าว ขณะที่บางรายก็บอกว่า นี่จะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับศิลปินรายเล็กๆ ที่ยังต้องพึ่งรายได้จากการขาย
แต่วงในของยูนิเวอร์แซลออกมาตอบโต้ว่า ใครก็ตามที่มีความคิดแบบนั้น ไม่ได้สัมผัสกับตลาดเพลงจริงๆ นี่คือรูปแบบของการทำให้งานเพลงถูกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ในอุตสาหกรรมดนตรียุคใหม่ แสดงให้เห็นว่าอัลบั้มได้สูญเสียการเป็นผู้นำในการสร้างรายได้ ให้กับการออกทัวร์ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการสตรีมมิงไปแล้ว
ลี ทริง ผู้จัดการของคิด ร็อค มองเรื่องนี้ด้วยการคิดถึงการขายงานในรูปแบบเดิมๆ “ยูทูว์สร้างจุดระเบิดครั้งใหญ่ แอปเปิลได้เป็นที่จดจำสำหรับการปล่อยงานระดับมโหฬารครั้งนี้” เขากล่าว “เราต้องหยุดคร่ำครวญซะที วันเก่าๆ มันจบไปแล้ว ดนตรีเป็นของฟรี และการได้มาของอัลบั้มเป็นเรื่องฟรีๆ ในวิธีการที่แตกต่างกันไป”
(พรุ่งนี้มาดูรายละเอียดของจดหมายเปิดผนึกที่โบโน ส่งถึงแฟนเพลง)
จากเรื่อง ดีลประวัติศาสตร์วงการเพลง Songs of Innocence ของยูทูว์ และแอปเปิล (3) โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 17 กันยายน 2557
เพื่อไม่ให้ตกหล่นความบันเทิงจากหนังและเพลง คลิกไลค์เพจสะเด่าส์ได้ทันทีที่นี่