ฟังไปแล้ว – เพลงของ Queen ในหนังของพวกเขา Bohemian Rhapsody

ถึงหนังไม่ได้ลงลึกมากมายในเรื่องราวของควีน รวมไปถึงโฟกัสของเรื่องเองก็ดูแกว่งๆ ว่าที่สุดแล้วจะเล่าเรื่องราวของใคร วงดนตรีหรือว่าชีวิตของนักร้องนำคนสำคัญของพวกเขา – เฟร็ดดี เมอร์คิวรี ที่อย่างหลังก็จับเพียงผิวๆ มากกว่าจะเจาะลึกในแบบสำรวจความเป็นไปของตัวละครอีกต่างหาก ทำให้ Bohemian Rhapsody เป็นเพียงการเล่าเรื่องของควีนในแบบที่แฟนๆ หลายคนรู้ดี และอาจจะรู้ลึกมากกว่าที่หนังว่าเอาไว้ด้วยซ้ำไป

แต่สิ่งหนึ่งที่หนังทำได้ดี นอกจากการเลือกนักแสดงมารับบทตัวละครที่มีตัวตนจริงๆ ในเรื่อง ที่ต้องบอกว่า ‘เป๊ะมาก’ จนหลายๆ ฉากรู้สึกเหมือนกับได้เห็นสมาชิกวงควีน ยกวงมาเล่นเองยังไงยังงั้น ก็คือเรื่องของเพลง ทั้งการเลือกเพลง และใส่เพลงเข้ามาในหนัง ที่ทำให้ไม่ต่างไปจากงานรวมเพลงของควีน ที่มีทั้งเพลงจากการแสดงสด, เพลงฮิตๆ ของพวกเขาในเวอร์ชันที่แตกต่างไปจากที่เคยได้ยิน รวมไปถึงเพลงจากสตูดิโออัลบัม ขณะที่ดนตรีประกอบก็เป็นหน้าที่จอห์น อ็อตแมน ที่ทำงานร่วมกับไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับของหนัง (ที่ทำงานได้ราวๆ 2 ใน 3 ของงานทั้งหมดแล้วก็ถูกไล่ออกไป)

โดยในอัลบัมซาวนด์แทร็คของหนัง ที่มีไบรอัน เมย์ มือกีตาร์กับโรเจอร์ เทย์เลอร์ สองสมาชิกของวงที่ยังทำงานดนตรีอยู่เป็นโปรดิวเซอร์ จะบรรจุเพลงทั้งหมดถึง 22 เพลง และมีเพลงของควีนที่ไม่เคยนำออกเผยแพร่มาก่อน 11 เพลง ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ 5 เพลงจากการแสดง 21 นาทีบนเวทีคอนเสิร์ต ไลฟ์เอด เมื่อเดือนกรกฎาคม 1985 ที่ไม่เคยมีการปล่อยออกมาในรูปแบบของเสียงเพลงเลยก่อนหน้านี้ ที่นอกจากจะเป็นไฮไลท์สำคัญของอัลบัมซาวนด์แทร็คแล้ว ฉากการแสดงในไลฟ์เอดของวงก็ยังเป็นไฮไลท์ หรือไคลแม็กซ์สำคัญของหนังด้วยเช่นกัน ที่หากชมกันในโรงไอแมกซ์แล้ว “Bohemian Rhapsody”, “Radio Ga Ga”, “Ay-Oh”, “Hammer To Fall” และ “We Are The Champions” ที่ทางวงเล่นบนเวทีในสนามกีฬาเวมบลีย์ จะทำให้รู้สึกขนลุกและเต็มตื้นกับความยิ่งใหญ่ของพวกเขาจริงๆ รวมไปถึงแสดงให้เห็นความเยี่ยมยอดในการเอนเตอร์เทนผู้ชมของวง โดยเฉพาะเฟร็ดดี เมอร์คิวรี ที่ชวนผู้ชมเล่นไล่เสียงไปกับเขาอย่างสนุกสนาน

สำหรับเพลงที่เป็นเวอร์ชันต่างไปจากเดิม ก็อย่าง “Doing All Right” ซึ่งเป็นเพลงในสมัยที่ทางวงยังใช้ชื่อว่า วง Smile ซึ่งโรเจอร์ เทย์เลอร์ กับไบรอัน เมย์ เป็นสมาชิกหลัก และมีทิม สตาฟเฟลล์ เป็นนักร้องนำ ที่ในเวอร์ชันนี้บรรดาสมาชิกของวงสไมล์กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งเพื่อใช้ในหนัง แล้วยังมี “20th Century Fox Fanfare” ที่ทำออกมาในสไตล์ของวงควีน ซึ่งก็ฟังแปลกหูไปอีกแบบ

เพลงอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่น “Love Of My Life” ฉบับแสดงสดที่ริโอ เดอ จาไนโร ที่ได้ยินผู้ชมร้องเพลงคลอไปกับพวกเขากระหึ่ม, “We Will Rock You” ฉบับที่มิกซ์เข้ากับเหตุการณ์และภาพในเรื่อง ที่ขาดไม่ได้ก็คือเพลงที่เป็นชื่อหนัง “Bohemian Rhapsody” ที่มีให้ฟังกันเต็มๆ แบบงานสตูดิโอ อัลบัมไปเลย

ถือได้ว่าเป็นงานรวมเพลงของควีน ในฉบับพิเศษจริงๆ และกับการใช้งานในภาพยนตร์ ก็ทำให้ได้เห็นความสำคัญของเพลงเหล่านี้ ที่อยู่ในแต่ละช่วงชีวิตของวง นอกเหนือไปจากทำให้รู้สึกกับหนังได้มากขึ้น หากเพลงเหล่านี้ของควีน คือเพลงที่อยู่ในช่วงชีวิตต่างๆ ของเราด้วยเช่นกัน

TRACKLIST: 1. “20th Century Fox Theme” 2. “Somebody To Love” 3. “Doing All Right… revisited” (Performed By Smile) 4. “Keep Yourself Alive” (Live At The Rainbow) 5. “Killer Queen” 6. “Fat Bottomed Girls” (Live In Paris) 7. “Bohemian Rhapsody” 8. “Now I”m Here” (Live At Hammersmith Odeon) 9. “Crazy Little Thing Called Love” 10. “Love Of My Life” (Rock In Rio) 11. “We Will Rock You” (Movie Mix) 12. “Another One Bites The Dust” 13. “I Want To Break Free” 14. “Under Pressure” 15. “Who Wants To Live Forever” 16. “Bohemian Rhapsody” (Live Aid) 17. “Radio Ga Ga” (Live Aid) 18. “Ay-Oh” (Live Aid) 19. “Hammer To Fall” (Live Aid) 20. “We Are The Champions” (Live Aid)” 21. “Don’t Stop Me Now… revisited” 22. “The Show Must Go On”

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เพลงของ Queen ในหนังของพวกเขา Bohemian Rhapsody คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ ไทยโพสท์ วันที่ 26 ตุลาคม 2561