Seeking a Friend for the End of the World
โดย สกก์บงกช ขันทอง
จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151147837135904&set=a.10151147837105904.432361.650825903&type=3&theater
(เห่าหนัง: เป็นการวิจารณ์/ แสดงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์ ในรูปแบบเดียวกับการสนทนาถึงภาพยนตร์ที่ได้ดูมากับเพื่อนๆ โดยเน้นถึงความบันเทิง ที่สัมผัสได้จากอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก อาจจะไม่สุภาพ แต่ก็จริงใจ และตรงไปตรงมา)
บางครั้ง…เราไม่ควรเชื่อใจเรื่องย่อสองบรรทัด
และหลายครั้ง มันก็ทำให้เรียนรู้ว่า หนังที่คอนเซ็ปท์ดีก็ใช่ว่ามันจะเอาเราอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่รู้ว่าดีไม่ดี ที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้หลังวันที่ 21 ธันวา
มันทำให้หนังโลกแตกเรื่องนี้กลายร่างเป็นหนังที่ตลกเพิ่มขึ้นไปอีก…ทั้งๆ ที่ความตลกแ-่งหายากพอๆกับโบนัสสิ้นปี
เนื้อเรื่องก็ ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ก่อนโลกแตก
ในขณะที่มนุษยชาติต่างพากันทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ดูดปุ๊น / ก่อจลาจล และเอากันเป็นหมู่คณะ
แต่พระเอกของเรากลับอยากไปสานสัมพันธ์กับคนรักในอดีต
โดยเดินทางไปกับนางเอกที่บ๊องค์ๆ ที่เลือกจะหยิบแผ่นเสียงไปฟังก่อนตาย
โถ…อีน้องสลิ่มโลกสวย ต่อให้กระพ้มรักในเสียงดนตรีขนาดไหน ก็ไม่ขนแผ่นหนีตายไปด้วยหรอก
แล้วมันก็ดำเนินไปเหมือนกินมาม่าที่ทิ้งไว้สองช่วงโมง จืดชืด อืดอาด ไม่สนุก
สตีฟ คาร์เรลครับ คุณมึงจะรับบทนำเป็นคนหน่ายชีวิตนี้ไปอีกกี่เรื่องวะ ?
นับวันเห็นหน้าแล้วอยากเอาวิคซอลพิงค์ไปกรอกปากให้มันจบๆไปเลย
ส่วนอีหนูเคียร่า ถ้านางรับบทในโลกปัจจุบันแล้วทำหน้าแบ๊วๆ เหมือนไม่เคยผ่านผู้ชายมา
โปรดเล่นหนังจักรๆ วงศ์ๆ ของนางไปตลอดกาลเหอะ
ขนาดหมาในเรื่อง คนรักหมาอย่างกระพ้มยังรู้สึกแ-่งไม่น่ารักเอาซะเลย
ที่สนุกสุดคือการไปถามเหล่านักแสดงว่า จะเปิดเพลงอะไรก่อนโลกแตก…ซึ่งมันอยู่ในฟีเจอร์ของแถม
หนังเต็มเปี่ยมไปด้วยสายตาที่สุดกระแดะเหมือนคนบางจำพวกที่สวดมนต์ข้ามปีเพราะอยากหาที่เช็คอินคูลๆ
จนรู้สึกว่า ถ้าโลกแตกจริงๆ คนที่น่าตายก่อนใครเพื่อนก็คือ พวกนี้แหละ…ห่านจิก