
ถ้าเป็นคอเพลงฝั่งอังกฤษ น่าจะคุ้นกันดีกับคำว่า บริท-ป็อป ซึ่งเป็นนิยามถึงงานของศิลปินจากเกาะอังกฤษ ที่เริ่มเป็นที่รู้จักกันราวๆ ปี 1991 และมาถึงจุดสูงสุดในปี 1994 เมื่อ Oasis และ Blur ต่างก็ออกอัลบั้มชุดสำคัญของตัวเองออกมา หลังจากนั้นบริท-ป็อป ก็ถึงขาลง เมื่อสาวๆ Spice Girls ประสบความสำเร็จ และ The Verve วงดนตรีอีกวงของยุคนี้ ถูกฟ้องเรื่องลอกเพลงโดย The Rolling Stones
แม้จะเกิดขึ้นและจบลงภายในเวลาแค่ 5 ปี แต่ความลุ่มหลง ความนิยมกลับไม่หายไปไหน นิตยสารโรลลิง สโตนของอเมริกา จึงทำโพลล์ให้แฟนๆ หนังสือ เลือกเพลงจากยุคบริท-ป็อป ที่ชอบที่สุดขึ้นมา และนี่คือ 10 เพลงที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดจากแฟนนิตยสารโรลลิง สโตน
10 Blur, Coffee & TV: 13 อัลบั้มชุดที่ 6 ของเบลอร์ ออกมาในช่วงที่วงการเพลงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ศิลปินเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้ง Britney Spears, Eminem และ Korn ที่ครองชาร์ทเพลง ซึ่งตรงกันข้ามกับบริท-ป็อป ที่ดูเอาท์ๆ เบลอร์ก็เหมือนจะแตกกระเด็นเซ็นซ่านกลายๆ เพราะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องทิศทางดนตรีของวง Damon Albarn ไปสนุกกับการเริ่มต้น Gorillaz งานไซด์ โปรเจ็คท์ ที่ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา แกรห์ม ค็อกซอนเลยกลายเป็นคนแต่งเพลงที่โดดเด่นเพลงนี้ Coffee & TV ที่ว่าด้วยการพยายามเลิกเหล้า ด้วยการดื่มกาแฟขณะดูโทรทัศน์ และคนที่ร้องเพลงนี้ก็คือเขาเอง นี่คือเพลงที่ซาวนด์เหมือนเป็นงานของเบลอร์ตอนกลางยุค 90 มากกว่าเพลงอื่นๆ ในชุด เป็นเพลงโปรดของแฟนๆ ในงานชุดนี้ และด้วยอะไรบางอย่าง นี่คือเพลงที่เป็นสัญลักษณ์ถึงการจบสิ้นของยุคยริท-ป็อป
9 Oasis, Champagne Supernova: เพลงสุดท้ายในอัลบั้ม (What’s the Story) Morning Glory? ที่เป็นงานไซคีดีลิค ความยาว 7 นาทีระดับมาสเตอร์พีซ ที่กลายเป็นหนึ่งในเพลงลายเซ็นของโอเอซิส แม้จะไม่เคยมีการตัดเป็นซิงเกิลในอังกฤษก็ตาม แถม Noel Gallagher ที่แต่งเพลงนี้ ก็ยอมรับตรงๆ ว่า ไม่รู้ความหมายของเนื้อร้องเพลงนี้อีกต่างหาก โดยบอกว่า พวกเขาตั้งใจให้เพลงนี้เป็นเหมือนการรวบรวมภาพสวยๆ และวลีฉลาดๆ แต่เมื่อแฟนเพลงที่กำลังกรึ่มได้ที่ แล้วชูมือขึ้นมาพร้อมกับร้องเพลงนี้ วลีฉลาดๆ ภาพจากตัวอักษรสวยๆ ก็ดูมีความหมายได้แบบสุดโต่งเหมือนกัน
8 Blur, Song 2: เบลอร์ไม่เคยมีเพลงดังเปรี้ยงๆ ในอเมริกา พวกเขาเจอปัญหาแบบเดียวกับที่ the Kinks เจอเมื่อหลายทศวรรษก่อน คือ พวกเขาไม่ได้ออกทัวร์ที่นี่มากนัก และเพลงของพวกเขาก็ใช้คำได้ไม่ดี, มีความเป็นอังกฤษสูง บรรดาเพลงคลาสสิคของเบลอร์ ที่แฟนเพลงชาวอังกฤษทุกรุ่น ทุกคน รู้จักดี กลับสร้างความคุ้นเคยกับแฟนเพลงอเมริกันไม่ได้ ยกเว้นเพลงนี้ Song 2 จากปี 1997 ถ้าเจอใครที่บอกว่าไม่เคยได้ยินเพลงนี้ ให้บอกไปง่ายๆ ว่า ก็เพลงที่ร้องว่า ‘วู้-ฮู้’ เขาก็จะร้อง ‘อ๋อ’ ในทันที ในคอนเสิร์ทล่าสุดโปรโมทอัลบั้มใหม่ The Magic Whip ที่ลอนดอน เบลอร์ไม่เล่นเพลงนี้ในโชว์ แต่กับการแสดงที่บรูลีน พวกเขาเลือกเล่นเพลงนี้ในช่วงสุดท้ายของการอองกอร์ ไม่ต้องห่วงทุกคนในฮอลล์พากันร้อง ‘วู้-ฮู้!” ดังสนั่น
7 Oasis, Wonderwall: เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่เพลงนี้ไม่ได้ติดอันดับสูงกว่านี้ เพราะเวลาใครๆ คิดถึงโอเอซิส พวกเขาจะคิดถึง Wonderwall นี่คือเพลงที่ Jay Z เอาไปร้องสนุกๆ ในเทศกาลดนตรีกลาสตันเบอรี หลังโนล กัลลาเกอร์บอกว่า เขาไม่เหมาะกับเทศกาลดนตรีนี้ ชื่อเพลงเป็นการนำชื่องานเดี่ยวในปี 1968 ของ George Harrison มาใช้ และกลายเป็นเพลงฮิตทั่วโลกในปี 1995 ซึ่ง MTV เปิดเพลงนี้ออกอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้างของอเมริกา โน้ทที่เปิดเพลง สามารถทำให้ผู้คนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งได้ แต่กับการออกทัวร์ในช่วงหลังๆ โนลมักจะไม่เล่นเพลงนี้ ขณะที่ Liam Gallagher กับวง Beady Eye ของเขา เอาเพลงนี้ไปร้องในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิคที่ลอนดอน เมื่อปี 2012
6 Blur, Parklife: หนึ่งในข้อโต้แย้งถึงจุดสูงสุดของบริท-ป็อป ว่าน่าจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 1994 เมื่อโอเอซิสออกอัลบั้ม Definitely Maybe และเบลอร์มี Parklife ที่เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มถูกตัดเป็นซิงเกิลด้วย เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากสวนสาธารณะไฮด์ ปาร์คของลอนดอน ที่ดูเป็นงานเพลงที่ทำขึ้นมาเพื่อดึงแฟนเพลงชาวอังกฤษแท้ๆ โดยมี Phil Daniels (ที่รับบทเป็นจิมมี ในหนังเรื่อง Quadrophenia) มาร่ายเรื่องราว ส่วนดามอน อัลบาร์นจะร้องท่อนคอรัส ขณะที่ตัวมิวสิค วิดีโอก็น่าจะโดนใจตัวการ์ตูนจอมแสบ Beavis และ Butt-head จนเอาไปล้อในรายการ “เขาพูดภาษาอะไรวะแก?” บัทท์-เฮดถาม ก่อนที่บีวีส์จะแสดงความเห็นที่น่าสับสนออกมา “ข้าพอได้ยินคำอเมริกันในเพลงว่ะ” เขาพูด “แต่บอกแกไม่ได้ว่า เขาร้องว่าอะไร” ทำให้บัทท์-เฮดต้องสรุป “อังกฤษห่วย แกรู้จัก the Beatles ไหมวะ? ไอ้พวกนี้ ทำลายวงการเพลง”
(ยังมีต่อ)
จากเรื่อง 10 สุดยอดเพลงจากยุคบริท-ป็อป โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 15 กรกฎาคม 2558
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่