นอกจากจะมีซีรีส์ใหม่ๆ เปิดตัวให้ได้ชมกันแล้ว ในปี 2015 ที่ผ่านมา ก็ยังมีซีรีส์อีกหลายๆ เรื่องที่กลับมาออกอากาศต่อจากปีก่อนๆ หน้า และนี่คือ 20 ซีรีส์ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวที่คั่งค้างไว้ และได้รับการยกย่องว่าเป็นการกลับมาได้อย่างงดงาม จากนิตยสารวาไรตี
Banshee (ช่องซีนีแม็กซ์): ซีรีส์ดรามาที่ถูกประเมินค่าต่ำเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในรายการสร้างความบันเทิง ที่ผู้ชมให้การติดตามอย่างเหนียวแน่น การกลับมาในปี 2015 Banshee มาพร้อมกับมาตรฐานที่น่าทึ่ง, ใช้ฟิล์ม, เป็นหนังฉกที่ลงทุน, มีความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนความน่าตื่นเต้นมากขึ้น และการทำงานที่ดูมีความสุขมากกว่าหนังใหญ่ลงทุนสูง
Broad City (ช่องคอมมิดี เซ็นทรัล): มีรายการโทรทัศน์น้อยเรื่อง ที่จะหยิบเอามิตรภาพของสาวๆ มานำเสนอ และนั่นทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นเพียงหนึ่งเดียวคนนี้ ความโดดเด่นจากการทำให้ความไม่สมดุลกลายเป็นความสมดุล ส่งให้ Broad City มีศักยภาพในการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง, มีจิตวิญญาณของการสร้างสรรค์ และมีทัศนคติในแบบ ‘อะไรก็เกิดขึ้นได้’ ซึ่งทำให้กลายเป็นซีรีส์ที่มีความแข็งแรง และเมื่อรู้สึกอ่อนล้า การได้ชมเรื่องราวที่ ‘โดน’ จะก่อให้เกิดความปิติซ้ำแล้วซ้ำเล่า
Brooklyn Nine-Nine (ช่องฟ็อกซ์): งานเบาสมองที่น่าชื่นชมเรื่องนี้ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยก็ต้องมาถึงครึ่งหลังของฤดูฉายแรก และกับฤดูที่สองของการออกอากาศ ความแข็งแกร่งก็ยิ่งมากขึ้น ทีมดาราที่มาร่วมงานกันมีครบ ทั้งความหลากหลายและความสามารถในการสร้างความบันเทิงได้อย่างน่าทึ่ง แถมรายการเองก็ยังไม่มีปัญหากับการผสมผสานตัวละครและสานต่อเรื่อง
Doctor Who (ช่องบีบีซี อเมริกา): ในช่วง 2-3 ฤดูฉายที่ผ่านๆ มา ซีรีส์เรื่องนี้ดูไม่ค่อยมีความต่อเนื่อง และดูลวกๆ แต่การกลับมาในฤดูฉายนี้ ไม่ใช่การทำงานที่ดูสะเปะสะปะ และจัดการนำเสนอออกมาได้ดี และกลายเป็นความประหลาดใจที่น่าชื่นชม รวมทั้งทำให้รู้สึกสนุกอีกครั้ง ที่ได้เห็นเจนนา โคลแมน และปีเตอร์ คาพาลดี ซึ่งนอกจากจะมีความเยี่ยมยอดในตัวของแต่ละคนแล้ว ยังมาพร้อมกับเคมีที่ลงตัว ที่เปรียบได้กับการเริ่มต้นใหม่ได้อย่างงดงาม
The Flash (ช่องซีดับเบิลยู): บางส่วนของเรื่องในฤดูฉายที่สอง ที่เป็นการนำไปสู่ซีรีส์เรื่องใหม่ DC’s Legends of Tomorrow อาจจะทำให้หงุดหงิดใจอยู่บ้าง เพราะไม่ต่างไปจากการถูกแทรกแซงจากซีรีส์เรื่องอื่น ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่อง แต่ The Flash ยังคงเป็นงานที่ดูสนุก แล้วกับตอนจบแบบกระชากน้ำตาของฤดูฉายแรก ก็แทบจะทำให้กลายเป็นงานที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้นตัวซีรีส์ก็ไม่มีปัญหาเรื่องของตัวละครอีกด้วย
Game of Thrones (ช่องเอชบีโอ): มาถึงตอนนี้ Game of Thrones เป็นที่รู้จักมากกว่าแค่ซีรีส์ฮิตเรื่องหนึ่ง และแฟนๆ ก็รู้สึกรำคาญกับสารพัดสารพันที่ซีรีส์ทำให้เกิดขึ้นนอกจอ หรือพอมองหาเหตุผลที่พอยอมรับได้ สำหรับหลายๆ ตอนที่เรื่องราวเป็นที่ถกเถียง แม้ในหลายๆ ครั้งรายการที่ดูชาญฉลาดระดับนี้ น่าจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ตามที แต่เมื่อไหร่ที่ซีรีส์เดินหน้าเต็มสูบไม่ว่าจะจากการตัวละครที่ถูกเล่าออกมาได้อย่างคมคายและน่าทึ่ง หรือเป็นฉากการรบที่ยิ่งใหญ่ นี่คือหนึ่งรายการที่ทำให้ตะลึงงันได้มากที่สุดในโลกของโทรทัศน์
The Good Wife (ช่องซีบีเอส): มีหลายๆ อย่างในฤดูฉายที่ผ่านมา ที่ทำให้แฟนๆ เหมือนกับวิญญาณออกจากร่าง เมื่อรายการพาโฮเวิร์ดกับแจ็คกีไปเดทกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนซีรีส์เรื่องนี้อยากเห็น? นี่คือรายการที่มีความโดดเด่นในเรื่องตัวละครและพลังขับเคลื่อนมายาวนาน แต่กลับต้องมาขายเรื่องราวแบบนี้ เล่นเอาแฟนบางรายกังวลว่าอาจจะมีกำจัดตัวละครบางตัวออกไป ในแบบเดียวกับตัวละครของแม็ทธิว กูด และอาร์ชี ปันจาบี แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังมีอะไรให้เปิดมาชมในทุกๆ สัปดาห์ และเมื่อเรื่องไปได้ดี อย่างที่ได้ชมกันในบางตอน ก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะการนำเสนอความขัดแย้งของความเป็นผู้ใหญ่ ที่รักในงานของตัวเอง และมีอะไรหลายๆ อย่างซับซ้อนในตัว การแสดงของจูเลียนา มาร์กูลีส์ ยังคงเป็นความมหัศจรรย์ของรายการ ขณะที่คัช จัมโบก็ถูกเสริมเข้ามาได้อย่างลงตัวและน่าทึ่ง แล้วยังมีมาร์โก มาร์ติงเกล และอลัน คัมมิง ที่พยายามออกมาจากหลืบเงาของคนอื่นๆ อีก และทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงควรค่ากับการรับชม
Girls (ช่องเอชบีโอ): เดินทางมาถึงฤดูฉายที่สี่ ที่น่าจะกลายเป็นฤดูฉายที่เรื่องราวลงตัวที่สุด และน่าประทับใจที่สุด เหมือนๆ กับตัวละครในเรื่อง ที่ต่างก็พบกับการเติบโตในอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะตัวละครสำคัญๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์หวานอมขมกลืนและต้องใช้ความคิด ขณะที่พวกเขาเติบโตมากขึ้น และพยายามจะแก้ไขความผิดพลาดครั้งเก่าก่อนของตัวเอง ที่สำคัญมันยังคงสนุก และทำให้หัวเราะดังๆ ได้อย่างที่เคยเป็น
Halt and Catch Fire (ช่องเอเอ็มซี): แทนที่จะเขี่ยรายการที่ในฤดูฉายเรทติงนิ่งเงียบ และนักวิจารณ์ไม่ชอบใจทิ้งไป ซึ่งง่ายกว่าเยอะ เอเอ็มซีกลับทำต่อ และที่ยิ่งไปกว่านั้นยังพบมนต์ขลังของตัวเองจนได้ในฤดูฉายที่สอง เมื่อหันไปให้ความสนใจกับตัวละครหญิงเจ็บๆ ของเรื่องมากขึ้น จนผู้ชมไม่มีทางตื่นเต้นไปมากกว่า กับการได้เห็นว่ามีอะไรที่เกิดขึ้นบ้างกับตัวละครแก๊งนี้ ที่ใช้ชีวิตในซิลิคอน วอลเลย์กลางยุค 80
The Knick (ช่องซีนีแม็กซ์): นี่คือซีรีส์ที่มี ในสิ่งที่ซีรีส์ดรามาใจไม่ถึงขาด ความมีชีวิตชีวา และความรู้สึกถึงอันตราย นักแสดงที่คัดมาทำหน้าที่ได้อย่างเยี่ยมยอด และตัวละครก็เดินเรื่องไปได้อย่างลื่นไหล แต่สิ่งที่ทำให้รายการนี้มีเสน่ห์ก็คือ ความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องของผู้อยู่เบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความกระหายใคร่รู้ ที่ชื่อว่า สตีเวน โศเดอร์เบิร์กห์
Manhattan (ช่องดับเบิลยูจีเอ็น): ซีรีส์เท่ๆ และเปี่ยมไปด้วยความคิดเกี่ยวกับราคาของความโอหังและความทะเยอทะยานทางความคิด ในช่วงสงคราม Manhattan อาจจะเป็นหนึ่งในรายการที่มีแนวโน้มหลงหายไปในช่วงเวลาที่พีคที่สุดของโทรทัศน์ แต่ก็เป็นรายการที่ควรค่ากับการเสาะหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฉายที่สอง ที่มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม
New Girl (ช่องฟ็อกซ์): นี่คือซีรีส์เบาสมองที่ทำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ และมีการดำเนินการเป็นอย่างดี ที่ทำให้ผู้ชมสนุกสนานไปด้วยได้ในทุกๆ สัปดาห์
Justified (ช่องเอฟเอ็กซ์): เมื่อพูดถึงการขึ้นไปอยู่ในช่วงที่พีคที่สุด บางรายการ ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับฤดูฉายสุดท้ายของตัวเอง ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ดี ซีรีส์ดรามาหลายต่อหลายเรื่องในยุคนี้ ดูจะขาดอารมณ์ขัน, การเดินเรื่องที่ลื่นไหล จะทำกันก็แค่ให้น้ำหนักกับใจความสำคัญ แต่การเล่าเรื่องของ Justified ที่ดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบ คือสิ่งที่เห็นได้อย่างเด่นชัด และยากจะหารายการไหนที่ผสมผสานการแสดงชั้นยอด การเล่าเรื่องชั้นเยี่ยม และไม่พยายามสร้างความบันเทิงจนดูฟูมฟาย และนี่คือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นงานที่ห้ามพลาด
(ยังมีต่อ)
จากเรื่อง 20 ซีรีส์ปีต่อมา ที่ดีที่สุดของปี 2015 โดย นายสะเด่าส์ คอลัมน์ ดูหนังที่บ้าน เอนเตอร์เทนฉบับที่ 1201 ปักษ์แรกกุมภาพันธ์ 2559
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่