เนื่องจากขาดทุนสร้างราว ๆ 3 ล้านเหรียญ ทำให้ผู้กำกับ/เขียนบท แดเมียน ชาเซลล์ ต้องหาทางหาทุนสร้าง ‘Whiplash’ และเขาก็เลือกที่จะทำหนังสั้นความยาว 18 นาทีออกมา โดยเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์เมื่อปี 2013
โดยตัวหนังจะตัดเอาบางส่วนในบทออกมาทำ แต่ก็เป็นฉากที่แสดงให้เห็นถึงอารมณ์อังถั่งท้นที่หลากหลายของตัวละครเฟล็ทเชอร์ ที่รับบทโดยซิมมอนส์ ในขณะเดียวกับก็นำเสนองานด้านภาพ การตัดต่อ รวมไปถึงการแสดงของซิมมอนส์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสถานการณ์ต่าง ๆ ในหนังสั้นเรื่องนี้ จะได้เห็นกันในฉบับหนังใหญ่ โดยที่ต่างออกไปก็คือ ไม่มีความต่อเนื่องทางอารมณ์ และตัวหนังไม่ได้ย้อมสีเหลือง
ที่สำคัญที่สุดนักแสดงที่มารับบทแอนดรูว์ นีแมน นั้นไม่ใช่ไมลส์ เทลเลอร์ แบบที่เห็นในหนังฉบับเต็มๆ แต่เป็น จอห์นนี ซิมมอนส์ จาก ‘The Perks of Being a Wallflower’ ซึ่งในท้ายที่สุดเมื่อได้ทุนสร้างตามที่ต้องการ ชาเซลล์ก็เปลี่ยนนักแสดงที่มารับบทนี้ ซึ่งจากที่เห็น ไม่ได้มีอะไรที่ผิดพลาดแต่ประการใด
‘Whiplash’ เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 รางวัล และได้รางวัลมาถึง 3 รางวัลได้แก่ ตัดต่อ, ผสมเสียง และสมทบชาย ขณะที่หลายๆ คนสงสัยว่า ทำไมหนังถึงเข้าชิงรางวัลสาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยม ไม่ใช่ใช่บทดั้งเดิม ก็เพราะหนังสั้นเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น
สำหรับงานฉบับหนังสั้นนั้น กลายเป็นงานฮิตในเทศกาลหนังซันแดนซ์ปี 2013 โดยคว้ารางวัล Short Film Grand Jury และทำให้ชาเซลล์ได้ทุนสร้างที่ต้องการเพื่อขับเคลื่อนหนังต่อ และในปีต่อมาเขาก็กลับมาที่งานอีกครั้งพร้อมกับหนังฉบับเต็ม แล้วก็ได้รับรางวัลสำคัญถึง 2 รางวัลคือ Grand Jury Prize และ Audience Award
และอีกหนึ่งปีต่อจากนั้น ‘Whiplash’ ก็ไปเฉิดฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ, งานลูกโลกทองคำ และในที่สุด ออสการ์
กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์คลาสสิค ที่น่าจดจำในโลกภาพยนตร์ไปในที่สุด
สนับสนุนเราได้ที่ -:> https://facebook.com/becomesupporter/Sadaos/ หรือที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่