การตามหัวใจแห่งทอง ของนีล ยัง จากเพลงอันดับ 1 เพลงเดียวในอเมริกาของเจ้าตัว “Heart of Gold”

“Heart of Gold” นอกจากจะเป็นเพลงดังของนีล ยัง ศิลปินนักร้อง-นักแต่งเพลง ชาวแคนาดา ซึ่งอยู่ในอัลบัมคลาสสิก งานชุดที่ 4 ของเจ้าตัว ‘Harvest’ แล้ว เพลงนี้ยังเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาฯ เพียงเพลงเดียวของยัง ขณะที่ในบ้านเกิด เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 เมษายน 1972 ทำให้ยังมีทั้งเพลงอันดับ 1 และอัลบัมอันดับ 1 ในคราวเดียวกัน

เมื่อถึงสิ้นปี 1972 บิลล์บอร์ด “Heart of Gold” กลายเป็นเพลงอันดับ 17 ของปี และเมื่อปี 2004 โรลลิง สโตน ให้เพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 297 ในรายชื่อ 500 เพลงยอดเยี่ยมตลอดกาล และเมื่อมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ในปี 2010 เพลงนี้มาอยู่ในอันดับที่ 303 และ 259 ในปี 2021

ที่มาถึงปี 2022 “Heart of Gold” ก็อายุอานามมาถึงครึ่งศตวรรษพอดิบพอดี และเป็นช่วงเวลาที่นีล ยัง ตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อถอนเพลงทั้งหมดออกจากบริการสตรีมมิง สปอติฟาย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แตกต่างไปจาก 50 ปีก่อน เพราะในตอนนั้น ใคร ๆ ก็รู้จักนีล ยังจากเสียงเพลง “Heart of Gold” ที่ดังมาจากลำโพงวิทยุ หรือเครื่องเล่นแผ่นเสียง จนกลายเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงเดียวของศิลปินระดับตำนานรายนี้ในสหรัฐอเมริกาฯ

เพลงที่เริ่มต้นด้วยการสตรัมกีตาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของยัง ตามด้วยเสียงหีบเพลงปากที่ไม่ถึงกับฟังลื่นไหล ก่อนที่เนื้อร้องจะเข้ามารับ
“I wanna live, I wanna give. I’ve been a miner for a heart of gold.
Hard work-plus-love. Is there anything more Heartland?
It’s these expressions that I never give.
That got me searching for a heart of gold!”

ในฉบับสตูดิโอของ “Heart of Gold” เสียงร้องแบ็กอัพ ก็คือเสียงร้องของสองตำนานแห่งวงการเพลง เจมส์ เทย์เลอร์ และลินดา รอนสตัดต์ และกับการเขียนเพลงนี้ของยัง เกิดขึ้นเพราะอาการปวดหลังทำให้เขาไม่สามารถยืนได้นาน ๆ ซึ่งส่งผลให้ยังไม่สามารถเล่นกีตาร์ไฟฟ้า ทางเลือกของยังก็คือ วางกีตาร์ไฟฟ้าลง แล้วหยิบอะคูสติกกีตาร์ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เขานั่งเล่นได้ และเพลงนี้ก็คือหนึ่งในเพลงอะคูสติกนุ่ม ๆ ที่ยังเขียนขึ้นมาในช่วงเวลานั้น

แล้วที่เหลือก็คือ “ตำนาน”

“Heart of Gold” เป็นเพลงที่บันทึกเสียงในช่วงแรก ๆ ของการทำอัลบัมตำนานของยัง ‘Harvest’ ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1971 ราว ๆ วันที่ 6-8 ที่ควอดราโฟนิก ซาวนด์ สตูดิโอ ในแนชวิลล์, เทนเนสซี ขณะที่ทั้งรอนสตัดต์และเทย์เลอร์อยู่ที่เมืองแห่งดนตรีเมืองนี้ในตอนนั้น เพื่อเตรียมเล่นในรายโทรทัศน์ของจอห์นนี แคช และคนที่จัดการให้ทั้งสองคนมาลงเสียงร้องแบ็กอัพก็คือ เอลเลียต มาเซอร์ โปรดิวเซอร์ของอัลบัม ‘Harvest’ โดยในเวลาต่อมารอนสตัดต์ก็นำเพลง “Love Is a Rose” ของยังไปคัฟเวอร์

แต่ก่อนหน้าที่จะบันทึกเสียง ยังเคยเอา “Hear of Gold” ไปเล่นในการแสดงเดี่ยวของตัวเองเมื่อปี 1971 วันที่ 19 มกราคม ที่แมสซีย์ ฮอลล์ ซึ่งกลายมาเป็นอัลบัมแสดงสด ‘Live at Massey Hall 1971’ ของยัง ที่ออกมาเมื่อปี 2007 หากเขาเล่นด้วยเปียโน และเริ่มจากการเล่นเพลง “A Man Needs a Maid” ก่อนที่จะนำเข้าสู่เพลงนี้ โดยในช่วงที่ออกอัลบัม ‘Harvest’ เขาแยกการแสดงเพลงนี้ออกจากกัน และเล่น “Heart of Gold” ด้วยกีตาร์และหีบเพลงปาก

จากที่ยังเขียนไว้ในปกอัลบัมรวมเพลงชุด ‘Decade’ เมื่อปี 1977 เขาบอกว่า เพลงนี้พาตัวเองไปถึงสถานภาพทางความคิดสร้างสรรค์ จุดที่เขาเลิกเดินทางไปถึงหลังจากนั้น เมื่อเพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตระเบิด และทำให้เขาได้รับคำชื่นชมมากมาย กลายเป็นศิลปินในกระแส ซึ่งดูไม่เหมาะกับตัวเอง

“(‘Heart of Gold’) ส่งผมไปอยู่ท่ามกลางท้องถนน การเดินทางไปไม่นานช้าก็กลายเป็นความน่าเบื่อ ผมเลยดินไปหาคูน้ำ เส้นทางที่ขรุขระ แต่ผมมองว่า มันมีคนที่น่าสนใจมากกว่าตรงอยู่ตรงนั้น”

เพลงฮิตอันดับ 1 ทำให้ทำแบบนั้นได้ แล้วยังทำให้ความสำเร็จเป็นเรื่องที่ง่ายดาย รวมไปถึงการตามหาในเส้นทางที่แตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน ยังย้ำด้วยว่า เพลงนี้ รวมไปถึง “Harvest” และ “Out on the Weekend” จากอัลบัม ‘Harvest’ เป็นเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากความรักที่เขามีต่อนักแสดงสาว แคร์รี สน็อดเกรสส์ กำลังผลิบาน

ขณะที่ตำนานร่วมสมัยไม่ต่างไปจากยัง บ็อบ ดีแลน ก็รู้สึกบางอย่างกับ “Heart of Gold” ด้วยเช่นกัน เขาเคยบอกกับนิตยสารสปินในปี 1985 ว่าเขาสงสัยว่า ทำไมเพลงนี้ไม่ใช่เพลงของเขา?

“เพียงครั้งเดียว ที่การได้ยินเสียงใครบางคนที่ฟังเหมือนผม แล้วทำรู้สึกรำคาญใจ” ดีแลนกล่าว “ก็คือตอนที่ผมอยู่ที่ฟีนิกซ์, อะริโซนา ราว ๆ ปี ’72 แล้วเพลงฮิตในตอนนั้นก็คือ ‘Heart of Gold’ ผมเคยเกลียดมันตอนได้ยินออกมาจากวิทยุนะ ผมชอบนีล ยัง แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรกวนใจทุกครั้ง เวลาฟัง ‘Heart of Gold’ ผมจำได้ว่า มันขึ้นอันดับหนึ่งอยู่นานเลยล่ะ แล้วผมก็… ‘เชี่ย… นั่นมันผม ถ้ามันฟังเหมือนผม มันก็ควรจะเป็นเพลงผมซิวะ'”

ในเพลง ยังพูดถึงการอยู่ในฮอลลีวูด (Hollywood) และป่าแดง (Redwood) รวมทั้งการข้ามน้ำข้ามทะเลไปค้นหาหัวใจแห่งทอง แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เพลงพูดถึงก็คือ การไถ่บาป การไถ่ถอน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งทำให้เขาได้ทรัพย์สิน ที่เป็นไปได้ทั้งการอุปมาอุปมัย และที่เป็นทรัพย์สินจริง ๆ แล้วแต่จะคิดกันไป

บางทีเจ้าการอุปมาอุปมัยกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการแต่งเพลงนี้ ก็อาจเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดจากการเจ็บหลัง หรือบางทีเป็นเพราะอาการปวดมันไปถึงจุดที่ทำให้เขาหลุดอะไรแบบนี้ออกมาจากปาก เพราะต้องการอะไรบางอย่าง

“I’ve been in my mind, it’s such a fine line.
It keeps me searching for a heart of gold. And I’m gettin’ old…”

ในวัย 76 ปี (2022) ตำนานจากโทรอนโท อาจจะยังไม่พบหัวใจแห่งทอง แต่ที่แน่ ๆ เพลงนี้ทำให้เขาได้รับรู้รสชาติของความสำเร็จทางธุรกิจ มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่จะว่าไปสิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่ศิลปินควรเสาะหา ซึ่งแตกต่างไปจากความซื่อสัตย์

และยัง ก็แสดงให้เห็นว่า เขาคือ ศิลปิน ที่ยังค้นหาหัวใจแห่งทอง เหมือนเช่นที่เคยเป็นเมื่อ 50 ปีก่อน

SONG ID
เพลง: “Heart of Gold” ศิลปิน: นีล ยัง
ซิงเกิลจากอัลบัม: ‘Harvest’ ของนีล ยัง
เพลงด้านบี: “Sugar Mountain”
ออกจำหน่าย: มกราคม 1972 ในสหรัฐอเมริกา
บันทึกเสียง: 6-7 กุมภาพันธ์ 1971 ที่ควอดราโฟนิก ซาวนด์, แนชวิลล์, เทนเนสซี
แนวเพลง: ร็อก, คันทรี ร็อก, ซอฟต์ ร็อก
ความยาว: 3:07 นาที
ผู้แต่ง: นีล ยัง โปรดิวเซอร์: เอลเลียต เมเซอร์, นีล ยัง

เป็นกำลังใจให้ www.facebook.com/Sadaos ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณให้ผู้สนับสนุนที่โชคดีเป็นประจำทุกเดือน

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่