ALPHA: เป็นหนังที่เลื่อนวันฉายไปมาจนน่าเวียนหัว เมื่อทีแรกวางแผนไว้ว่าจะฉายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปลายปี 2017 แล้วก็ขยับมาเป็นต้นปี 2018 แต่ก็ไม่เข้าที่อีก เลื่อนมาเป็นกันยายน 2018 หรือ 1 ปีพอดีจากกำหนดฉายครั้งแรก ซึ่งก็ยังไม่ใช่กำหนดฉายที่แท้จริง เพราะไปๆ มาๆ ก็เลื่อนมาฉายเร็วขึ้นอีกหนึ่งเดือน เป็นสิงหาคม 2018
ชื่อหนังเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน จากตอนแรกที่ใช้ชื่อว่า The Solutrean ซึ่งที่มาจากคำว่า Solutré ที่หมายถึงเผ่าพันธุ์ในหนัง ก็กลายมาเป็น Alpha อย่างที่เห็น
จากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา หนังที่ถูกโยกวันฉายย้ายไปย้ายมาแบบนี้ บอกเลยว่าชะตากรรมไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แล้วตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก็ยิ่งตอกย้ำความคิดที่ว่าซ้ำ ทั้งเรื่องราวที่ง่ายต่อการคาดเดา การนำเสนอจากที่เห็นในตัวอย่างก็ไม่มีอะไรทำให้ประหลาดใจ หรือตื่นเต้นได้
แต่ท้ายที่สุดเมื่อได้ชมจริงๆ กับตา ก็ต้องบอกว่า ถึงเนื้อหาจะเปิดหน้ามาก็เดาตอนจบได้ (น่าจะไม่ผิด) แต่ Alpha ก็มีเสน่ห์จากงานด้านภาพ ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะหากชมกันบนจอยักษ์ไอแม็กซ์ จะรู้สึกตื่นตาและตื่นหูจากภาพและเสียงที่ใหญ่โตและเต็มอิ่มได้ไม่ยาก จนไม่รู้สึกเบื่อกับเรื่องราวที่ไม่ได้มีพลิกผันหักมุมอะไร
หนังเป็นเรื่องของชนเผ่าในยุโรปเมื่อ 20,000 ปีก่อน ที่ออกตามล่าไบซัน โดยหนึ่งในจำนวนนั้นคือ เคดา ลูกชายของหัวหน้าเผ่าที่ออกล่าเป็นครั้งแรก แต่หลังจากถูกไบซันขวิดตกหน้าผา ทุกคนคิดว่าเขาเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางกลับ ปล่อยร่างไร้ชีวิตของเด็กหนุ่มไว้กับชะง่อนผา เมื่อฟื้นขึ้นมาเคดาพยายามหาทางกลับเผ่า แต่ถูกตามล่าจากฝูงหมาป่า เขาเอาตัวรอดมาได้แต่ก็ทำร้ายหมาป่าตัวหนึ่งบาดเจ็บ ด้วยความสงสารเลยตัดสินใจดูแลมัน และเมื่อหายดีหมาป่าตัวนี้ก็กลายเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของเขาเพื่อกลับบ้าน ที่ต้องเจออุปสรรคนานา ไม่ว่าจะเป็นความหนาวเหน็บของพายุหิมะในฤดูหนาวที่มาถึง สัตว์ร้ายนานาชนิด และสภาพแวดล้อมที่ยากจะดำรงชีพ
ด้วยเรื่องราวแค่นี้ เชื่อว่าต่อให้ไม่ได้เห็นตัวอย่าง คอหนังหลายๆ คนก็คงมองบทสรุปของหนังเรื่องนี้ออกสบายๆ แต่ถึงกระนั้นก็พอจะมีเซอร์ไพรส์อยู่บ้างกับความเป็นไปของหมาป่า ที่สามารถสานต่อไปถึงความสัมพันธ์ของคนและสัตว์ รวมไปถึงวิวัฒนาการในการออกล่าสัตว์ของมนุษย์รุ่นต่อๆ ไป ซึ่งถือว่าหนังพยายามทำให้ตัวเองมี ‘อะไร’ มากกว่าการเป็นหนังผจญภัยธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ในขณะเดียวก็พยายามนำเสนอตัวเองในแบบที่สมจริง เมื่ออุตส่าห์สร้างภาษาเฉพาะขึ้นมาให้กับชนเผ่าสมมติในเรื่อง และใช้สุนัขจริงเล่นร่วมกับนักแสดง
ด้วยความตั้งใจและพยายามอย่างที่เห็น บวกกับการไม่ทำอะไรเกินตัวในเรื่องเนื้อหา เน้นขายจุดเด่นทางด้านภาพที่ทำออกมาได้ดีจริงๆ เต็มที่ ส่งให้ Alpha เป็นงานที่ดูสนุกได้ในระดับหนึ่ง และจะมากขึ้นหากได้ชมบนจอไอแมกซ์สามมิติ ที่รีดศักยภาพงานด้านโปรดัคชันได้อย่างเต็มที่
จะว่าไปแล้ว หนังก็น่าจะถูกใจผู้ชมพอสมควร เมื่อดูจากรายได้ทั่วโลกที่ทำไป 98 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 51 ล้านเหรียญ แม้จะไม่มากในระดับทำให้เห็นกำรี้กำไรทันที แต่กับหนังที่น่าจะมีปัญหาเนื่องจากเลื่อนฉายหลายครั้ง เนื้อหาธรรมดาๆ นักแสดงไม่สามารถขายได้ ตัวเลขระดับนี้ ก็ถือว่าไม่แย่นัก แล้วหากรวมกับรายได้จากโฮม เอนเตอร์เทนเมนท์ ก็น่าจะทำให้ผู้สร้างยิ้มออกมาได้
และอย่าลืมว่า หนังยังมีปัญหากับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์ หลังจากไบซันจำนวน 5 ตัวถูกฆ่าตายระหว่างถ่ายทำ จนไม่สามารถใช้ข้อความว่า “ไม่มีสัตว์ถูกทำร้าย” กับหนังได้ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหนังฉายแค่ 2 วัน ทางพีตา (PETA) ก็ออกมาเรียกร้องให้บอยคอทท์ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
หันมาดูนักวิจารณ์ หนังถือว่าได้คะแนนที่ดี ในเว็บมะเขือเน่าหนังได้เรทติง 79% จากบทวิจารณ์ 119 ชิ้น และคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 จากคะแนนเต็มสิบ ส่วนที่เมตาคริติคหนังได้ 63 จากคะแนนเต็มร้อย โดยนักวิจารณ์ 26 คน ส่วนซีนีมาสกอร์ที่เป็นคะแนนจากผู้ชมที่เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ อยู่ที่บีบวก แม้ไม่ใช่คะแนนที่ดี แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร
สำหรับหนัง Alpha ที่ขายในแบบดิจิตอล ดาวน์โหลดบนไอทูนส์ สโตร์ มาพร้อมภาพที่คมชัด เนียนกริบจริงๆ แต่ก็รู้สึกเสียของนิดๆ เมื่อต้องชมจากจอโทรทัศน์ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตเหมือนจอภาพยนตร์ ที่สามารถสร้างความตื่นตาทางด้านภาพได้มากกว่า แล้วก็มีหนังให้ชมถึงสองเวอร์ชันคือ ฉบับฉายโรงตามปกติ กับฉบับผู้กำกับตัด ที่จะว่าไปแล้วแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย เมื่อฉบับฉายโรงจะยาวกว่าฉบับผู้กำกับตัดเพียงราวๆ 75 วินาทีเท่านั้นเอง และฉากที่หายไปก็เป็นเหมือนกับการเล็มออกไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่ส่งผลอะไรต่อการเล่าเรื่องเลย
นอกจากจะมีหนังให้ชมสองเวอร์ชัน ก็ยังมีไอทูนส์ เอ็กซ์ตรามาให้ชมด้วยสองหมวด คือ Deleted Scenes และ Behind the Scenes
ตัว Deleted Scenes จะมีทั้งหมด 5 ฉากความยาวรวมกัน 9 นาทีครึ่ง และเลือกชมได้สองแบบคือ แบบที่มีและไม่มีความเห็นของผู้กำกับ ซึ่งการชมแบบมีความเห็นของผู้กำกับเป็นเรื่องที่ดีกว่าแน่ๆ แม้ไม่มีบรรยายไทยแต่ก็มีภาษาอังกฤษให้มาด้วย โดยฉากที่น่าสนใจ ก็เป็นฉากเปิดและฉากปิดเรื่องอีกแบบหนึ่ง ที่แตกต่างไปจากที่ชมในโรงภาพยนตร์ ส่วนฉากอื่นๆ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก
มาถึง Behind the Scenes จะมีเรื่องย่อยให้ชมทั้งหมด 4 เรื่อง เริ่มที่ Boy & Wolf ที่จะพาไปดูความสำคัญระหว่างคนกับสุนัข ที่ในเรื่องนี้ใช้สุนัขจริงชื่อชัค ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมระหว่างสุนัขทั่วไปกับหมาป่า ของสาธารณรัฐเช็ก ทำให้ต้องมีการสร้างความคุ้นเคยกันระหว่างโคดี สมิท-แม็คฟี กับชัค เพื่อการแสดงที่ออกมาจะได้ดูสมจริง แล้วตัวชัคก็ต้องมีการทดสอบบทว่าสามารถแสดงร่วมกับนักแสดงในเรื่องได้ไหม ไม่ต่างไปจากนักแสดงที่เป็นคนทั่วไปเช่นกัน สำหรับหนังเรื่องนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขกับคนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตัวเรื่องตั้งใจจะให้พาดพิงมาถึงความสัมผัสของคนและสุนัขในปัจจุบันด้วย
เรื่องที่สอง Building the World นักแสดงและทีมงานจะมาเล่าถึงการทำงานเพื่อสร้างโลกเมื่อ 2 หมื่นปีก่อนให้ปรากฏบนจอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้ได้ภาพโลกยุคน้ำแข็งที่ดูตื่นตา สวยงาม สมจริง การสร้างภาษาขึ้นมาใหม่ การทำอุปกรณ์ต่างๆ ของคนในยุคนั้นรวมไปถึงเสื้อผ้าให้ออกมาถูกต้องมากที่สุด โดยได้เจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์ของอังกฤษมาให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ
A Hero’s Journey จะลงลึกไปถึงตัวละครเคดา ที่รับบทโดยโคดี สมิท-แม็คฟี งานนี้เจ้าตัวจะมาอธิบายถึงตัวละครที่เล่นด้วยตัวเอง ตั้งแต่คอนเส็ปท์ตั้งต้น และพัฒนาการที่เกิดขึ้นในหนัง ตลอดจนความรู้สึกที่ได้รับบทนี้
เรื่องสุดท้ายเป็น Meet Chuck: The Wolf Behind Alpha ทำความรู้จักกับนักแสดงอย่าง ชัค สุนัขพันธุ์ผสมที่รับบทอัลฟา ตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของหนังร่วมกับเคดาของสมิท-แม็คฟี เนื้อหาพิเศษเรื่องนี้จะเผยถึงอาหารที่ชัคชอบกิน, กิจกรรมที่มันชอบทำระหว่างพักผ่อน ถือว่าเป็นเรื่องเบาๆ ที่เอามาปิดท้ายได้อย่างลงตัว
สำหรับเนื้อหาพิเศษในหมวด Behind the Scenes ไม่มีบรรยายไทย แต่มีบรรยายภาษาอังกฤษ
หนังอาจจะไม่ถึงกับเป็นงานที่ต้อง ‘ดู’ เนื้อหาพิเศษก็ให้แบบพอประมาณ แต่ถ้าจะดูเพื่อความบันเทิง ในอารมณ์แบบงานกึ่งๆ สารคดีแล้วก็ Alpha ก็ให้ความสนุกสนานได้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ชอบภาพสวยๆ หนังจัดเต็มได้อย่างที่ตั้งใจให้เป็นจุดขายจริงๆ
รายละเอียดภาพยนตร์ – ผู้กำกับ: อัลเบิร์ท ฮิวจ์ส ผู้เขียนบท: แดเนียล เซบาสเตียน ไวเดนฮอพท์ เรื่อง: อัลเบิร์ท ฮิวจ์ส นำแสดง: โคดี สมิท-แม็คฟี, โยฮานน์ส ฮอเคอร์ โยแฮนน์สสัน ดนตรีประกอบ: โจเซฟ เอส. เดอะบีซี กำกับภาพ: มาร์ติน กชแลคท์ ตัดต่อ: ซานดรา กรานอฟสกี จัดจำหน่าย: โซนี พิคเจอร์ส ฉาย: 17 สิงหาคม 2018 (สหรัฐอเมริกา) ความยาว: 96 นาที เสียงต้นฉบับ: ภาษาที่สร้างขึ้นใหม่ รูปแบบ: ไฟล์ดิจิตอล ไอทูนส์ สโตร์ เนื้อหาพิเศษ: 1. Deleted Scenes 2. Behind the Scenes [2.1. Boy & Wolf 2.2. Building the World 2.3. A Hero’s Journey 2.4. Meet Chuck: The Wolf Behind Alpha]
โดย นายสะเด่าส์ คอลัมน์ แกะกล่องหนังแผ่น นิตยสารเอนเตอร์เทนฉบับที่ 1275 ปักษ์แรก มีนาคม 2562