Now You See Me (2013): อาชญากล..ซ่อนแค้น!
โดย เกรียนหนัง
ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=192298207593180&set=a.113215048834830.20429.112834835539518&type=1&theater
ถือว่าเป็นผู้กำกับหนังสไตล์มือไวใจเร็วจริงๆ สำหรับคุณพี่ หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์ ที่ทำหนังออกมากี่เรื่องๆ คุณพี่แกต้องเดินหน้ากระหน่ำคนดูด้วยการเล่าเรื่องแบบปรู๊ดปร๊าด ฉับไว ทุกครั้งไป
ซึ่งผลงานของพี่หลุยส์นอกจากความกระชับฉับไวแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นหนังในแนวทางเว่อร์ๆ ที่มีความเป็น “หนัง” อยู่ในตัวสูง ชนิดที่หากดูแบบนำตรรกะความจริงเข้ามาจับก็จะพบกับความไม่สมเหตุสมผล ความบังเอิญ ปรากฏขึ้นในเรื่องมากมายก่ายกอง
แต่หากว่ามองตามตรรกะของความเป็น “หนัง” แบบรวมๆ แล้ว ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และตอบโจทย์เรื่องของความบันเทิงได้ชะงัดนัก หนังโคตรมันส์ยุคแรกอย่าง The Transporter (ภาค 1 และ 2) หรือ The Incredible Hulk, Clash of the Titans ล้วนเป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเรื่องล่าสุดอย่าง Now You See Me ก็อยู่ในข่ายที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน
หลุยส์ พาคนดูไปพบกับเรื่องราวของนักมายากล (และนักต้มตุ๋น) สี่คนที่ได้รับการ์ดเชิญลึกลับให้มารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายโดยใครคนหนึ่ง ก่อนที่ทั้งสี่จะหายตัวไปและกลับมาอีกครั้งในหนึ่งปีถัดมาภายใต้ฉายา The Four Horseman แก๊งอาชญากลกับมายากลขั้นเทพที่เปิดการแสดงสุดท้าทาย ด้วยโชว์พิสดารปล้นเงินล้านจากธนาคารมาแจกจ่ายให้กับผู้ชม
ทำเอาบรรดาเจ้าหน้าที่เอฟบีไอปั่นป่วนไปตามๆ กัน เนื่องจากไม่อาจหาหลักฐานมามัดตัวเอาผิดนักมายากลทั้งสี่ได้เลย แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นต่อหน้าประจักพยานมากมายมหาศาลก็ตาม
แรกเริ่มหนังสร้างความสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของมายากลเว่อร์ๆ ที่ว่านี้ ก่อนที่กลเม็ดทั้งหมดจะถูกเฉลยในเวลาต่อมา ด้วยตัวละครอย่าง แบรดลี่ (มอร์แกน ฟรีแมน) นักจับผิดมายากลมืออาชีพ และนำเรื่องราวของหนังเดินหน้าไปสู่การชิงไหวชิงพริบ ขับเคี่ยวกันระหว่าง ฝ่ายตามจับ (เอฟบีไอ และแบรดลี่) กับ แก๊งอาชญากล
ซึ่งเปิดช่องให้ หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์ ไว้ลายความเป็นผู้กำกับหนังแอ็คชั่นด้วยการใส่ฉากต่อสู้ระยะประชิด ฉากไล่ล่า และระเบิดตู้มต้ามเข้ามาในเรื่องจนได้ ก่อนที่จะไปสรุปปิดท้ายตอบประเด็นสำคัญของหนังจริงๆ ว่าที่สุดแล้วการแสดงของแก๊งอาชญากลถูกคิดขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อะไร และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด
การหักมุมจบในช่วงท้ายของหนังไม่ถึงกับเด็ดขาดจนทำให้คนดูหัวคว่ำขมำหงาย หรือเป็นมุกใหม่เสียทีเดียว แต่หลอกล่อ ซ่อนเร้นอำพรางผู้ร้ายตัวจริงไว้ได้มิดชิด และก็มาพร้อมแรงจูงใจที่มีนำ้หนักน่าเชื่อในระดับหนึ่ง รวมถึงเนื้อหาบางส่วนก็อิงความเป็นหนังแฟนตาซีอยู่เล็กๆ
ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว หนังไม่ได้มีปมประเด็นอะไรทิ้งไว้ให้ขบคิดเหมือนกับหนังที่ว่าด้วยมายากล/เรื่องเหนือธรรมชาติเรื่องเยี่ยมก่อนหน้านี้อย่าง The Prestige (2006) หรือ Red Lights (2012) แต่อย่างใด เพราะสิ่งที่ หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์ ตั้งใจมอบให้คนดูใน Now You See Me คือหนังเพื่อความบันเทิงล้วนๆ เหมือนเรื่องที่ผ่านๆ มาของพี่แกนั่นแหละ
คะแนน : สามดาวจ้า
(หนังฉายพรุ่งนี้ 30 พ.ค. นี้ เป็นหนังบันเทิง เพื่อความบันเทิงแท้ๆ และที่สำคัญเดินเรื่องได้เร็วทันใจมาก)