ตามย้อนอดีต เลดี้ กาก้า กับคนเขียนหนังสืออัตชีวประวัติเล่มใหม่ของเธอ ตอนจบ

[one_two][/one_two]

อ่านตอนแรกได้ที่ http://bit.ly/1d8U1xF

เบรนแดน เจย์ ซุลลิแวน นักเขียน, ดีเจ และบาร์เทนเดอร์ จากย่านโลเวอร์ อีสท์ ของนิว ยอร์ค คือเจ้าของหนังสือ Rivington Was Ours: Lady Gaga, the Lower East Side and the Prime of Our Lives ซึ่งจะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเลดี้ กาก้า ในช่วงเวลา 1 ปี ก่อนที่จะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างที่เห็น

เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากๆ กับการที่ใครสักคน กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่คนทั่วโลกรู้จักภายในเพียงปีเดียว ถ้าไม่ฟลุ้ค ก็ต้องมีปัจจัยหนุนส่งที่สุดยอดมากๆ “อือ ฮือ… มีหลายอย่างที่ผมรู้เกี่ยวกับเธอซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่อะไรสลักสำคัญในตอนที่เราเด็กกว่านี้ ที่กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอในเวลาต่อมา อย่างมูลนิธิ Born This Way ของเธอ เธอเลือกที่จะเล่นบทคนที่มีสำนึกในเรื่องสังคม ในสังคมทุกวันนีิ แล้วก็ทำเป็นตัวอย่าง” ที่แน่ๆ การทำตัวประหลาด และสร้างการแสดงที่มีลักษณะเฉพาะ รวมไปถึงการที่เธอควบคุมแฟนๆ ได้อย่างอยู่หมัด ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ซุลลิแวนรู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกัน

แต่ขณะที่หลายๆ คนมักจะหยุดเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่กาก้าไม่ ที่น่าสนใจก็คือ ในหนังสือของซุลลิแวนที่พูดถึงชีวิตของกาก้าที่เป็นเด็กสาวธรรมดาๆ คนหนึ่ง กลับไม่พูดถึงเรื่องราวตรงนี้ ซึ่งเจ้าตัวเองบอกว่า “ผมอยากจะเป็นคนชี้นำเรื่องราวตรงนี้มากกว่า” แล้วกับการเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา ซุลลิแวนเองก็มีหนังสืออีกเล่มที่เป็นแรงบันดาลใจ “มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ที่ผมหยิบมาอ่านมากกว่าเล่มอื่น เวลาที่ต้องการกำลังใจสำหรับการถึงเรื่องที่ยากๆ นั่นก็คือ A Moveable Feast ของเออร์เนสท์ เฮมมิงเวย์ เขาไม่ได้เขียนถึงเรื่องวิถีที่สิ่งต่างๆ เป็นไป แต่เขาเขียนถึงวิถีที่สิ่งต่างๆ เคยเป็น

“ผมรู้สึกเหมือนกำลังเล่นกับชีวิตของตัวเองตอนเขียนหนังสือเล่มนี้ และเขาก็เขียนถึง เอฟ สก็อทท์ ฟิทซ์เจอรัลด์อย่างตรงไปตรงมาในหนังสือเล่มนั้น บางส่วนของมันคือการอุปมาอุปมัยของเฮมมิงเวย์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟิทซ์เจอรัลด์ กับอาการป่วยของเขา คุณสามารถบอกได้เลยว่า เฮมมิงเวย์น่ะอิจฉาพรสวรรค์ และไหวพริบของฟิทซ์เจอรัลด์ อย่าง วิธีที่เขาเปลี่ยนเรื่องเล็กน้อย เพื่อทำให้ขายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเฮมมิงเวย์ไม่ทำแบบนั้น ดังนั้นเขาเลยมองฟิทซ์เจอรัลด์เป็นพวกช่างคิด แล้วจากนั้นก็มองฟิทซ์เจอรัลด์ค่อยๆ กลายเป็นบ้า”

พูดแบบนี้ก็ไม่ต่างไปจากการที่ซุลลิแวนมองตัวเองเป็นเฮมมิงเวย์ที่ทำหน้าที่รายงาน และกาก้าก็คือฟิทซ์เจอรัลด์ “(หัวเราะ) ถูกเผง”

ที่สำคัญ นอกเหนือปจากเรื่องราวของตัวเองกับกาก้า หนังสือของซุลลิแวนก็มีบางอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาะจากการอยู่เบื้องหลังเคาน์เตอร์ ในฐานะบาร์เทนเดอร์

“การเป็นบาร์เทนเดอร์ ก็เหมือนกับเป็นนักข่าวชีวิต คุณรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะมา ใครจะไป ใครเลิกกับใคร มันเป็นเหมือนการใช้ชีิวิตในห้องนักข่าว”

และหากใครอยากรู้เรื่องราวของเลดี้ กาก้า ที่รวมไปถึงแวดวงดนตรีในนิว ยอร์ค รวมไปถึงแรงขับที่ทำให้เลดี้ กาก้าพุ่งสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างที่เห็น ก็คงต้องหยิบหนังสือ Rivington Was Ours: Lady Gaga, the Lower East Side and the Prime of Our Lives มาอ่านกันดู

จากเรื่อง รู้จักกับเจ้าของหนังสือย้อนอดีตเลดี้ กาก้า โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556