หลังคีธ อีเมอร์สัน เพื่อร่วมวงดนตรี อีเมอร์สัน, เลค แอนด์ พาลเมอร์ (อีแอลพี) เจ้าของชื่ออีเมอร์สัน เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเมื่อ 11 มีนาคมปีนี้ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เกร็ก เลค เจ้าของชื่อ เลค ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง ในวัย 69 ปี ที่ลอนดอน
เลค ถือเป็นหนึ่งผู้มีอิทธิพลในการนำดนตรีร็อคแบบยุโรป มาผสมผสานกับดนตรีคลาสสิคัล แล้วนำเสนอด้วยความสง่างามจากดนตรีซิมโฟนิค โดยอัลบั้ม In the Court of the Crimson King งานชุดแรกของวง King Crimson ที่เลคเป็นสมาชิคนหนึ่ง มักถูกยกให้เป็นอัลบั้มเพลงโพรเกรสสีฟ ร็อคชุดแรกเสมอๆ และกลายเป็นแม่แบบให้ศิลปินในแนวทางนี้ ที่มาถึงจุดสุดยอดด้วยงานของอีแอลพี ที่นำการเรียบเรียงดนตรีแบบคลาสสิคัลและเพลงยาวๆ มาถ่ายทอดเป็นการแสดงสุดอลังการบนเวที
เลคเป็นทั้งนักร้องนำ, มือเบส, มือกีตาร์ในวง รวมทั้งโปรดิวซ์อัลบั้มที่ประสบความสำเร็จของวง รวมทั้งเขียนเนื้อร้องส่วนใหญ่ ขณะที่ทำนองมักจะเป็นผลงานของเอเมอร์สัน
“เสียงร้องที่พุ่งทะยานของเกร็ก และทักษะในการเป็นนักดนตรีของเขา จะได้รับการจดจำจากทุกคนที่รู้จักเพลงของเรา คาร์ล พาลเมอร์ มือกลองของวง กล่าวยกย่องอดีตเพื่อนร่วมวง
เลค มีชื่อเต็มว่า เกรกอรี สจวร์ท เลค เกิดเมื่อ 10 พฤศจิกายน 1947 ที่พูล เมืองชายทะเลในดอร์เซ็ท, อังกฤษ พออายุ 12 แม่ก็ซื้อกีตาร์ให้เล่น และปีนั้นเองเขาก็แต่งเพลงโฟล์คบัลลาด Lucky Man ที่ต่อมากลายเป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้มชุดแรกของอีแอลพี
โรเบิร์ท ฟริปป์ เพื่อนที่เลคไปเจอตอนเรียนกีตาร์ ขอให้เขาเล่นเบสและร้องเพลงให้คิง คริมสันวงดนตรีที่เขากำลังฟอร์มขึ้นมา ร่วมกับอดีตสมาชิกของ Giles, Giles and Fripp วงเก่าของฟริปป์ ที่เคยเล่นงานฟรีคอนเสิร์ตที่ไฮด์ ปาร์ค ในลอนดอน งานเดียวกับ the Rolling Stones ที่มีผู้ชมถึง 400,000 คน แต่เมื่อคิง คริมสันไปเล่นในงานเดอะ ฟิลล์มอร์ เวสท์ ที่ซาน ฟรานซิสโก เลคได้เจออีเมอร์สัน มือคีย์บอร์ดของวง the Nice และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของอีเมอร์สัน, เลค แอนด์พาลเมอร์ ที่ได้คาร์ล พาลเมอร์ จากวง the Crazy World of Arthur Brown และ Atomic Rooster มาร่วมงานในฐานะมือกลอง
“ผมคิดว่ารากฐานของวงก็คือ คีธกับผมที่มีความเชื่อว่า มีดนตรีร็อคที่มาจากดนตรีบลูส์, โมทาวน์, กอสเพล, คันทรี และตะวันตก ซึ่งล้วนเป็นอิทธิพลดนตรีอเมริกัน มากเกินไปแล้ว” เลคกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
วงใหม่ของเลคแจ้งเกิดได้อย่างรวดเร็ว ได้เล่นงานดิ ไอส์ล ออฟ วิกท์ กับ the Who และ Jimi Hendrix รวมไปถึงเซ็นสัญญากับแอตแลนติค ค่ายเพลงระดับเมเจอร์ โดยอัลบั้มที่ปล่อยออกมา อย่าง Emerson, Lake and Palmer, Tarkus, Trilogy และ Brain Salad Surgery ล้วนขายได้ในระดับแผ่นเสียงทองคำขาว “มีพวกนักข่าวที่ไม่ชอบเรา” เลคกล่าว “แต่ผู้คนชอบเรา”
หลังอีแอลพีแยกทางกันในปี 1979 เลคออกอัลบั้มเดี่ยว Greg Lake และ Manoeuvres ในปี 1981 และ 83 ตามลำดับ แล้วยังไปร่วมงานกับวง Asia วงโพรเกรสสีฟ ร็อคซูเปอร์กรุ๊ปในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับการมาทำงานกับอีเมอร์สัน ในนาม Emerson, Lake and Powell ที่มีโคซี พาเวลล์ มาแทนที่พาลเมอร์ ซึ่งเกิดขึ้นไม่มากนัก
อีแอลพีกลับมาทำอัลบั้ม Black Moon ร่วมกันในปี 1992 แต่รอยร้าวของวงยากจะประสาน ทำให้ทัวร์คอนเสิร์ตรียูเนียนไปไม่รอด แต่พวกเขาก็กลับมาเล่นด้วยเป็นหนสุดท้ายในปี 2012 ในเทศกาลดนตรี เดอะ ไฮท์ โวลเทจ ร็อค ที่ลอนดอน
ที่น่าสนใจก็คือ เลคไม่เคยแคร์การมีตราโพรเกรสสีฟ ติดตัวเลย เขาบอกกับนักข่าวว่า “มันฟังดูล้ำ และเท่มากๆ” เขากล่าว “แต่นั่นไม่ใช่อะไรที่เราพยายามทำ เราแค่พยายามแตกต่าง จริงๆ นะ”
และความแตกต่างนั้น ก็ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำมาจนถึงวันนี้ และตลอดไป
จากเรื่อง เกร็ก เลค มือเบสและผู้ก่อตั้งวง Emerson, Lake & Palmer ผู้จากไป คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ โดย นพปฎล พลศิลป์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 13 ธันวาคม 2559
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่