วันนี้ในโลกดนตรี 28 มีนาคม

1970: เพลง “Bridge Over Troubled Water” ของ Simon and Garfunkel ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงฮิตของอังกฤษ

เพลงนี้เป็นเพลงอันดับ 1 บนเกาะอังกฤษเพลงเดียวของดูโอคู่นี้ และเป็นเพลงที่ร้องโดย อาร์ต การ์ฟังเกล เพียงคนเดียว

1981: เพลง “Rapture” ของ Blondie ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงฮ็อต 100 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นการสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการเพลง เมื่อเพลงนี้คือเพลงอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงแรกที่มี ท่อนแร็ป

แร็ปสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตัวเองในปี 1980 เมื่อเคอร์ติส โบลว์ ทำยอดขายระดับแผ่นเสียงทองคำเพลงแรกให้กับดนตรีแนวนี้ ด้วย “The Breaks” ขณะที่ The Sugarhill Gang ก็พาเพลง “Rapper’s Delight” เข้าไปติดชาร์ตท็อปโฟร์ตี ซึ่งเป็นเพลงแร็ปเพลงแรกที่ทำได้ แต่เพลงแร็ปเพลงแรกที่ขึ้น 1 กลับไม่ใช่เพลงจากแร็ปเปอร์ แต่เป็นเพลงจากวงที่ทำเพลงในแบบดิสโก อย่าง บลอนดี ที่นักร้องนำของวง เด็บบี แฮร์รี ร่ายเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มจากดาวอังคาร ที่เดินทางมายังโลกด้วยความหิวที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น และนี่สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเขายิงใครบางคนตาย แล้วจัดการเขมือบศีรษะซะ

“And then you’re in the man from Mars. You go out at night eatin’ cars. You eat Cadillacs, Lincolns too Mercurys and Subarus.”

“Rapture” เป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 4 ของบลอนดีในชาร์ตฮ็อต 100 ซิงเกิลหมายเลขที่ 20 ของวงเพลงนี้ อยู่ในอัลบัม ‘Autoamerican’ ขึ้นอันดับ 1 อยู่นาน 2 สัปดาห์ และสร้างปรากฏการณ์ด้วยการเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงแรกที่มีท่อนแร็ป ขณะที่ตัวดนตรีเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีนิวเวฟและดิสโก แล้วก็มีการร่ายแร็ปโดยเด็บบี แฮร์รี นักร้องนำหญิงของวง เพลงนี้เป็นงานที่ฟังสนุก เช่นเดียวกับเพลงแร็ปเพลงอื่น ๆ ในยุคนั้น ที่มักจะมีความคึกคะนองอยู่ในเนื้อร้อง และเล่าเรื่องที่ฟังขำ ๆ เช่นใน “Rapper’s Delight” ที่เนื้อร้องส่วนหนึ่งก็คือ

“While the stinky foods steamin’. Your mind starts to dreamin’. Of the moment that it’s time to leave. And then you look at your plate. And your chickens slowly rottin’. Into something that looks like cheese..”

หลาย ๆ คนในอุตสาหกรรมดนตรี มักคิดว่าแร็ปเป็นแค่เรื่องแฟชัน ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สนอกสนใจงานแนวนี้แล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป แต่บลอนดีไม่ใช่ พวกเขาคือหนึ่งในวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก มีเพลงอันดับ 1 ทั้งสองฟากฝั่งแอตแลนติกอย่าง “Heart Of Glass”, “Call Me” และ “The Tide Is High” ทำให้ “Rapture” ได้รับการเปิดทางสถานีวิทยุ แม้จะเป็นมีท่อนแร็ป และกลายเป็นการแนะนำดนตรีแนวนี้ให้กับคนฟัง

บลอนดีไม่ได้เป็นคนหาประโยชน์จากดนตรีฮิปฮ็อป แต่แสดงความชื่นชม และเฉลิมฉลอง ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของศิลปินในนิวยอร์ก ซิตี ที่ทำงานพังก์และดิสโก พวกเขายังคงได้รับความสนใจ ในตอนที่ฮิปฮ็อปกำลังเริ่มได้รับความนิยม โดยในเพลงมีการพูดถึงคนที่เป็นผู้บุกเบิกสิ่งต่่าง ๆ ในวัฒนธรรมฮิปฮ็อป อย่าง แฟ็บไฟว์เร็ดดี ศิลปินกราฟิตี หนึ่งในมิตรสหายของวง ที่มีส่วนร่วมสำคัญกับแวดวงฮิปฮ็อป

“Fab 5 Freddy told me everybody’s fly. DJs spinning, I said “my, my.”

แล้วยังมี ดีเจ แกรนด์มาสเตอร์ แฟลช ที่สร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับวงการ โดยเฉพาะการใช้แซมเปิลในเพลง “The Adventures of Grandmaster Flash on the Wheels of Steel”

“Flash is fast, Flash is cool”

แฟ็บไฟว์เร็ดดี ยังปรากฏตัวในมิวสิก วิดีโอเพลงนี้ด้วย รวมถึงจิตรกร ฌอง-มิเชล บาสเกต์ ที่ใส่สูทสีหวาน กับหมวกทรงสูง) และมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นมิวสิกวิดีโอเพลงแร็ปเพลงแรก ที่ออกอากาศทางเอ็มทีวี

สำหรับสิ่งที่ศิลปินฮิปฮ็อปรุ่นบุกเบิกอย่าง แฟลช สร้างขึ้น ก็คือ การใช้บีตที่มีอยู่แล้ว ซึ่งที่ทำกันบ่อย ๆ ก็เป็นการยกบีตจากเพลงดิสโกมาใช้ เช่น เพลง “Rapper’s Delight” ก็สร้างขึ้นจากเพลง “Good Times” ของ Chic แต่ “Rapture” เป็นงานแบบต้นฉบับ ไม่มีแซมเปิล และสำหรับคนฟังจำนวนไม่น้อย นี่คือการแนะนำให้รู้จักกับดนตรีแร็ป และเป็นประตูที่นำไปสู่ Run-D.M.C.

การที่ศิลปินผิวขาว กลายเป็นเจ้าของเพลงอันดับ 1 ซึ่งเป็นงานในแนวทางของศิลปินผิวดำ ดูเหมือนน่าจะสร้างปัญหาบางอย่างให้เกิดขึ้น แต่การแสดงความยกย่องต่อบรรดาบรรพบุรุษของดนตรีฮิปฮ็อป บลอนดีทำให้ปัญหาต่าง ๆ จบไป “เราไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรในแบบการลอกเลียน” คริส สไตน์ มือกีตาร์และนักแต่งเพลงของวง กล่าว “พวกเราตั้งใจที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น และมีความคิดในแง่บวกสำหรับรูปแบบที่เป็นไป”

แต่หลังจากนั้น ก็ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่แร็ปจะกลับมายืนหนึ่งได้อีกครั้ง ในช่วงปลายยุค ’80 เพลง “Red Red Wine” จาก UB40 และ “The Look” โดย Roxette ซึ่งมีช่วงแร็ปแทรกในเพลงขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต แต่ก็ยังเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นเพลงแร็ป จนกระทั่งปี 1990 ถึงมีเพลงที่ร่ายแร็ปตั้งแต่ต้นจนจบขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต แต่ก็เป็นเพลงจาก วานิลลา ไอซ์ ศิลปินผิวขาว “Ice Ice Baby”

โดยศิลปินผิวดำคนแรกที่พาเพลงแร็ปแท้ ๆ ขึ้นอันดับ 1 ก็คือดูโอวัยทีน Kris Kross กับเพลง “Jump” ในปี 1992

1982: เดวิด ครอสบี สมาชิกของวง Crosby Stills & Nash ถูกจับหลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนไฮเวย์ในซาน ดิเอโก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบโคเคน และปืนพกในรถของครอสบี

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถามครอสบีว่า ทำไมเขาถึงต้องพกพาอาวุธปืนด้วย เขาตอบว่า “จอห์น เล็นน็อน”

1986: วันเกิดของ สเตฟานี โจแอนน์ แอนเจลินา เจอร์มาน็อตตา หรือ เลดี กากา นักร้อง, นักแต่งเพลง และนักแสดงหญิง ชาวอเมริกัน ที่มีเพลง “Just Dance” ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษในปี 2008

ขณะที่เพลง “Poker Face” ของเธอก็ขึ้นอันดับ 1 ถึงใน 20 ประเทศ

ในปี 2012 กากาเป็นศิลปินที่ทำเงินมากเป็นอันดับ 4ของปี 2011 จากการจัดอันดับของบิลล์บอร์ด เมื่อเธอมีรายได้มากกว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

1992: เกิดความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ กับ เดอะ เออร์ไวน์ มีโดว์ส แอมฟิเธียเตอร์, แคลิฟอร์เนีย เมื่อออซซี ออสบอร์น เชื้อเชิญผู้ชมที่อยู่ในสองแถวแรกขึ้นไปบนเวที ซึ่งมีผู้ชมหลาย ๆ คนรีบฉวยโอกาสนี้จนทำให้เกิดความวุ่นงาย และทางวงก็ต้องออกไปจากเวที

1995: ศิลปินคันทรี ไลล์ โลเว็ตต์ เข้าพิธีแต่งงานกับนักแสดงสาว จูเลีย โรเบิร์ตส์ และทั้งคู่ประกาศแยกทางกันหลังใช้ชีวิตสมรสร่วมกันเพียงแค่ 21 เดือน

2001: ฌอน คอมบ์ส ศิลปินฮิปฮ็อป, โปรดิวเซอร์ และผู้บริหารค่ายเพลง ที่ใช้ชื่อในการทำงานเพลงว่า ฟัฟฟี และพัฟฟ์ แดดดี บอกกับเอ็มทีวีว่า ในอนาคต เขาอยากเป็นที่รู้จักในชื่อ พี. ดิดดี

และในเดือนสิงหาคม 2005 เขาก็เปลี่ยนชื่อที่ใช้ในการแสดงอีกครั้ง โดยใช้ชื่อง่าย ๆ ว่า ดิดดี

สนับสนุนเราได้ที่ -:> https://facebook.com/becomesupporter/Sadaos/ หรือที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่