การแสดงในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 56 เป็นการขึ้นเวทีของเหล่าศิลปินฮิป-ฮ็อป ที่ประกอบด้วย เอ็มมิเน็ม, ดร. เดร, สนูปด็อกก์, เคนดริก ลามาร์ และที่เป็นเซอร์ไพรส์ของงาน ฟิฟตีเซ็นต์ ที่มาเขย่าอารมณ์ของบรรดาแฟนอเมริกันฟุตบอลที่โซไฟ สเตเดียม ในอินเกิลวูด, แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นการแข่งขันระว่าง ลอส แอนเจลีส แรมส์ และซินซินเนติ เบกอลส์ โดยมีเจ้าแม่เพลงฮิป-ฮ็อป, โซล แมรี เจ. ไบลก์ มาร่วมแจม
แต่หากจะถามว่าใครคือตัวพ่อ ตัวจริงบนเวที คำตอบคือ ดร. เดร โปรดิวเซอร์, แร็ปเปอร์ วัย 56 ปี ที่เป็นคนรับผิดชอบโชว์ในวันนี้ ที่วางตัวบนเวทีไม่ต่างไปจากบอสใหญ่ของงาน ซึ่งจะว่าไปแล้วตัวจริงของเดรก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะนอกจากจะเป็นตัวแทนแร็ปเปอร์ของแคลิฟอร์เนียตั้งแต่วันแรกแล้ว เขายังเป็นคนที่ทำให้ดนตรีแร็ปฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกามีพื้นที่ในวงการเพลง โดยไม่ต้องพูดถึงการร่วมงานกับศิลปินอีกมากมาย
เดรเปิดการแสดงด้วย “The Next Episode” ร่วมกับสนูป ที่ก็คือการรียูเนียนกลาย ๆ แล้วก็ตามด้วย “2001” ที่ส่งให้ทั้งคู่ซึ่งเป็นเด็กแคลิฟอร์เนียกลายเป็นหัวใจของโชว์ในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อหยิบ “California Love” เพลงอันดับ 1 มาเล่น และสนูปก็คือเป็นคนเติมเต็มช่องว่างที่หายไปซึ่งการเสียชีวิตของทูพัก ชาเคอร์ ทิ้งเอาไว้ ที่ทำให้ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วโซไฟ สเตเดียม เดรและสนูปกลับมาแจมกันอีกในตอนท้ายกับ “Still D.R.E.” ซึ่งราวกับจะตอกย้ำว่า ใครคือตัวพ่อของดนตรีฮิป-ฮ็อปยุค ‘90s
แม้จะมีศิลปินบนเวทีไม่น้อย แต่หนุ่มแคลิฟอร์เนีย เคนดริก ลามาร์ ก็ยังสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองได้ ที่น่าสนใจก็คือ แทนที่จะเล่นเพลงฮิตในปี 2017 ของตัวเอง “Humble” ลามาร์กลับเลือกเพลงที่มีนัยทางสังคม “Alright” แทน แล้วก็ได้แดนเซอร์ในชุดสีดำ ท่าเต้นเข้มแข็ง ขึงขัง มาทำให้โชว์แตกต่างไปจากศิลปินคนอื่นในวันนี้
ขณะที่การเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวก็ทำให้ไบลจ์แตกต่างอยู่แล้ว และกับการเลือกเพลงดัง “Family Affair” งานที่เดรโปรดิวซ์มาเล่น รวมถึงอารมณ์ของเพลงที่แตกต่าง ตลอดจนเสื้อผ้าหน้าผม ก็ทำให้การแสดงของเธอโดดเด่นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการโชว์พลังเสียงในงานบัลลาด “No More Drama” ที่น่าจะทำให้ลืมไปเลยว่า เพลงของเธอผิดแผกไปจากคนอื่น ๆ ยังไง
อารมณ์ของงานถูกปลุกขึ้นมาแบบสุด ๆ ด้วย เอ็มมิเน็มกับเพลงฮิตอันดับ 1 รางวัลออสการ์ “Lose Yourself” ที่เนื้อหาเรื่องราวเหมาะเจะกับเกมใหญ่ ๆแบบนี้เหลือเกิน และการแสดงของเอ็มมิเน็มก็อยู่ในระดับทำทัชดาวน์
ไม่ใช่แค่ศิลปิน 5 ราย เดร, สนูป, ไบลจ์, ลามาร์ และเอ็ม ยังมีแขกอย่าง ฟิฟตีเซ็นต์ มาสร้างเซอร์ไพรส์ ที่ไม่เซอร์ไพรส์ 😀 ที่มาร้องอีกหนึ่งเพลงฮิตจากการโปรดิวซ์ของเดร “In Da Club” ที่หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า หากให้ลามาร์ร้องน่าจะโอเคกว่า แต่กับค่ำคืนที่ไม่ต่างไปจากการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของเดร มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เป็นฟิฟตีเซ็นต์
บรรยากาศของการแสดงในปีนี้ แตกต่างไปจากปีที่แล้วที่เป็นการโชว์เดี่ยวของเดอะ วีคเอนด์ บนเวทีใหญ่บึ้มกลางสนาม และอารมณ์ก็ต่างไปจากการแสดงในปี 2020 ที่เป็นโชว์พลังแดนซ์ของสาว ๆ เจนนิเฟอร์ โลเปซ และชากีรา แต่ที่แน่ ๆ ทุกโชว์ที่มีไม่ต่างกันก็คือ ขายความเป็นตัวของตัวเอง ที่มีชัดเจน เฉพาะตัว แบบไม่ต้องพยายาม
กับคนที่ได้ประโยชน์จากการแสดงในปีนี้คงไม่พ้น ไบลจ์ นักร้องวัย 51 ปี ที่เพิ่งปล่อยอัลบัมใหม่ “Good Morning Gorgeous” มาเมื่อวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ และการแสดงช่วงพักครึ่งน่าจะสร้างกระแสให้กับงานของเธอ ไบลจ์เป็นเจ้าของเพลงฮิต “Family Affair” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันกับเดร ขณะที่เอ็ม, สนูป และลามาร์ ต่างก็เคยร่วมงานกับเดร เช่นเดียวกับฟิฟตีเซ็นต์ เพราะฉะนั้นทุกคนบนเวทีวันนี้ล้วนมีความเชื่อมโยงกันผ่านเดร
the 2022 Super Bowl halftime show setlist: 1. “The Next Episode” – สนูป ด็อกก์ 2. “California Love” – ดร. เดร 3. “In Da Club” – ฟิฟตีเซ็นต์ 4. “Family Affair” – แมรี เจ. ไบลจ์ 5. “No More Drama” – แมรี เจ. ไบลจ์ 6. “M.a.a.D City” – เคนดริก ลามาร์ 7. “Alright” – เคนดริก ลามาร์ 8. “Lose Yourself” – เอ็มมิเน็ม 9. “Still D.R.E.” – ดร. เดร และสนูป ด็อกก์ Snoop Dogg
ข้อมูลประกอบการเขียน รายงานของชัก อาร์โนลด์ ใน https://nypost.com
เป็นกำลังใจให้เราได้ ด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณให้ผู้สนับสนุนที่โชคดีเป็นประจำทุกเดือน
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่