เมื่อหนังไปลงแผ่นเกม หนังเรื่องไหนกลายเป็นเกมดีๆ บ้าง คัดกันมา 10 ที่สุดให้รู้จักกัน (2)

หนังและวิดีโอเกม ต่างก็มีความเกี่ยวพันกันไม่น้อย ในปีนี้มีหนังที่สร้างจากวิดีโอเกมอย่าง Warcraft: The Beginning หรือ Angry Birds The Movie และหากย้อนไปดูก็ยังมี Street Fighters, Tomb Raider หรือว่า Resident Evil แแต่ก็หายากมากๆ ที่ผลลัพธ์ออกมาดี เพราะมักจะได้หนังอย่าง Bloodrayne, Alone in the Dark, Double Dragon หรือ House of the Dead

ที่นี้ลองมองย้อนกลับกัน ไปหาวิดีโอ เกมที่มาจากภาพยนตร์ เมื่อหนังอย่าง Friday the 13th ยังเคยเป็นวิดีโอเกมมาแล้ว หนังที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนอย่าง Iron Man จะเหลือเหรอ ไหนยังมีหนังครอบครัว ที่สามารถผลิตสินค้าพ่วงออกมาด้วยมากมายอีกละ กระทั่งหนังแอ็คชัน Bad Boys ยังมีเกม Bad Boys: Miami Takedown ออกมา

แน่ละว่าหลายๆ เกมอยู่ในขั้นไม่เอาอ่าว เอาทะเลกันเลย เช่น E.T. ที่กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมห่วยแตกตลอดกาล แต่ก็มีหลายๆ เกมที่มีที่มาจากภาพยนตร์ และได้รับการยกย่องว่าทำออกมาดี ซึ่งคอรี โกลเวอร์ จากเว็บ Moviepilot ได้จัดอันดับเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จากอันดับ 10-6 ที่ เริ่มต้นด้วย Scott Pilgrim vs. The World: The Game (2010), Ghostbusters: The Video Game (2009), Aladdin (SNES) (1993), X-Men Origins: Wolverine (2009), GoldenEye 64 (1997) นี่คือ 5 อันดับที่เหลือ

5. The Warriors (2005)
The Warriors เป็นเกมที่สร้างความสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิม หากได้เล่นกับเพื่อนๆ เพราะ The Warriors เป็นเหมือนการเล่นมอชพิทกลุ่มใหญ่ ในคอนเสิร์ตร็อค จุดขายของเกมอยู่ที่การต่อสู้ข้างถนนที่มีรั้วรอบขอบชิด และการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ซึ่งเคยเป็นที่สิ่งที่นิยมกันจากหนังในยุค 70 ตัวเกมจากตามติดแก๊งข้างถนนที่ชื่อว่า เดอะ วอร์ริเออร์ส (The Warriors) ที่ถูกคุกคามโดยแก๊งข้างถนนกลุ่มอื่นๆ อย่าง เดอะ โรกส์ (The Rogues) หรือ ดิ ออร์แฟนส์ (The Orphans) และพวกเขาก็พยายามปกป้องพื้นที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ นั่นคือความเป็นไปในเกม ซึ่งพล็อตจริงๆ ของหนังจะไม่มาเป็นส่วนหนึ่งของเกม จนกระทั่งมาถึงองก์สุดท้ายในการเล่น ที่พวกเดอะ วอร์ริเออร์ ถูกทิ้งให้อยู่ห่างไกลจากเขตของตัวเอง และกลายเป็นอาชญากรสังคมหมายเลข 1 หลังจากถูกกล่าวหาว่า สังหารหัวหน้าแก๊งอีกแก๊งหนึ่ง

ในเกมThe Warriors จะเต็มไปด้วยฉากแอ็คชันที่เป็นการทำงานร่วมกัน และมีการเคลื่อนไหวอย่างอิสระตามท้องถนน ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าไปสำรวจตรวจค้นย่านแออัดต่างๆ แล้วต่อสู้กับสมาชิกแก๊งคู่อริ รวมไปถึงทุบทำลายรถ, ขโมยวิทยุ และทำร้ายร่างกายคนอื่นๆ รวมไปถึงทำทุกอย่างเจ๋งๆ แบบเกม Grand Theft Auto ที่ทางบริษัทร็อคสตาร์เป็นผู้ผลิตเหมือนกันทำได้

4. Peter Jackson’s King Kong: The Official Game of the Movie (2005)
แตกต่างไปจากเกมอื่นๆ ในลิสท์ นี่คือเกมที่เต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจ เป็นเกมที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็น แจ็ค ดริสคอลล์ ผู้เขียนบทที่ต้องวิ่งไปมาเพื่อเผชิญหน้ากับแมงมุมยักษ์, สัตว์ประหลาดบินได้, แร็พเตอร์ และที-เร็กซ์ ตัวมหึมา เพื่อปกป้องสาวสวย แอนน์ ดาร์โรว์ ที่ตกอยู่ในอันตราย โดยที่ต้องพึ่งพาสรรพวุธทั้งจากยุคใหม่ และในยุคหิน ไม่ว่าจะเป็นหอก, กระดูกคมๆ หรือไม้ที่เหลาจนแหลม นอกจากนี้ในเกมยังมีช่วงเวลาที่ผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็นคิงคอง ที่ต้องชก-ทุบ-ตี กับที-เร็กซ์ เพื่อปกป้องแอนน์ ที่อยู่ในอุ้งมือของคุณ ยังมีด่านที่เกมเมอร์ต้องสู้กับแร็พเตอร์ด้วยหอก จากนั้นก็ต้องยิงแมลงยักษ์ ที่พยายามจะพุ่งเข้ามากัด ก่อนที่จะต้องวิ่งหนีแบบสุดชีวิตจากการไล่ล่าของที-เร็กซ์ เพื่อไม่ต้องกลายเป็นอาหารจานเด็ดของมัน

King Kong เป็นเกมที่เยี่ยมยอดและน่ายกย่อง รวมไปถึงยากที่จะได้เห็นและได้เล่นในทุกวันนี้ แต่ถ้ามีโอกาสได้เล่น นี่คือเกมผจญภัยที่แสนน่าทึ่ง ที่สามารถเล่นจนจบได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

3. Chronicles of Riddick: Escape from Butcher Bay (2004)
เชื่อหรือไม่ จริงๆ แล้วหนังเรื่อง Pitch Black ถูกวางเอาไว้ให้เป็นวิดีโอ เกม แต่โชคไม่ดีที่ต้องใช้งบที่สูงจนเกินไป เลยต้องกลายไปเป็นหนังบล็อคบัสเตอร์อย่างที่เห็น 4 ปีกับหนัง Riddick ที่กลายเป็นหายนะหนึ่งเรื่องผ่านไป ในที่สุดคอเกมก็ได้สัมผัสกับเกม ที่น่าจะเป็นเกมที่มีผู้กล่าวขานถึงมากที่สุดของปี 2004 โดยพื้นฐานแล้ว นี่ก็คือเกมแหกคุกขนาดใหญ่ ที่มีรูปแบบการเล่นมากมายซ่อนเอาไว้, มีการตามหาไอเท็ม, การพูดคุยกับตัวละครต่างๆ ในเรื่อง ที่ไม่ใช่ผู้เล่นเกม ซึ่งน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเกม Skyrim

เกมนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในซีรีส์ Riddick ซึ่งรวมไปถึงหนัง 3 เรื่อง, หนังแอนิเมชัน 1 เรื่อง และนี่คือเกมที่หากเป็นแฟนของตัวแสบอย่างริดดิค ห้ามพลาด!!!

2. Spider-Man 2: The Game (2004)
นี่คือเกมที่ไม่ใช่แค่เป็นหนึ่งในเกมจากหนังที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่ยังเป็นหนึ่งในเกมจากหนังสือการ์ตูนที่ดีที่สุดตลอดกาลไปพร้อมๆ กัน เกม Spider-Man 2 ให้ในสิ่งที่แฟนๆ ต้องการให้มีในเกมเกี่ยวกับ Spider-Man ไม่ว่าจะเป็นการโหนใยไป-มาได้อย่างอิสระ การต่อสู้ที่กินวงกว้าง และความสนุกจากการหยุดอาชญากรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าทึ่ง นี่ยังเป็นเกมของ Spider-Man เกมเดียว ที่ทำให้ไอ้แมงมุมได้ทำอะไรมากกว่าชกผู้ร้าย จนกระทั่งพวกมันเคลื่อนไหวไม่ได้ เมื่อในเกมผู้เล่นสามารถไปส่งพิซซา, ไปเที่ยวกับแมรี เจน และหยุดเหตุการณ์ร้ายๆ สารพัด เช่น การปล้นอาวุธ, ฉกชิงวิ่งราว, ช่วยคนที่ตกจากที่สูง หรือตามเก็บลูกโป่งที่ลอยไปในอากาศมาคืนเด็กๆ กระทั่งหลังจากการต่อสู้กับตัวร้ายหลักๆ ของเรื่อง ซึ่งมีทั้ง มีสเตอรีโอ, ช็อคเกอร์, แบล็คแค็ท, ไรห์โน ฯลฯ เกมเมอร์ก็ยังมีความสนุกจากการสำรวจไปทุกซอกทุกมุมของเมือง และช่วยเหลือผู้คนได้อีก

หนังสือการ์ตูน Spider-Man มักจะแสดงให้เห็นภาพของไอ้แมงมุมแกว่งไกว โจนทะยาน ไปทั่วนิว ยอร์ค เพื่อปลดปล่อยความวุ่นวายในจิตใจ และกับผู้เล่นเกมนี้ นี่คือครั้งแรก ที่สามารถทำได้ในแบบเดียวกัน ใครก็ตามที่ได้เล่นเกมแสนน่าทึ่งเกมนี้ ยากที่จะไม่บอกใครๆ ว่า รักและชื่นชอบเกมๆ นี้เพียงใด กับการที่ผู้พัฒนาเกม ไม่ได้ทำเกมของ Spider-Man ที่มีเพียงแค่การเอาชนะเหล่าร้ายเพียงเท่านั้น

1. The Godfather: The Game (2006)
หากพูดกันถึงเรื่อง การนำวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มีมาใช้ทำอะไร The Godfather เป็นเกมที่จะเกาะติดกับตัวละครที่ตุณสร้างขึ้น ที่ด้วยกรรมวิธีการบางอย่างจะพาไปสานเข้าด้วยกันกับบรรดาเหตุการณ์หลักๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ อาทิ การตายของลูกา บราซี, การช่วยก็อดฟาเธอร์ให้รอดพ้นจากการลอบสังหาร, การปกป้องทอม เฮเกน จากพวกซอลลอซโซ และอีกหลายๆ เหตุการณ์ แล้วในขณะเดียวกัน ตัวเกมก็ยังเติมเรื่องราวข้างเคียงเข้ามาแบบไม่มีอะไรยุ่งยาก ให้ตัวละครของเกมเมอร์ได้เป็นก็อดฟาเธอร์แห่งครอบครัวบาร์ซินี ที่มีพ่อซึ่งคอยทำโทษเขาในตอนที่เป็นเด็กๆ เรื่องราวต่างผสมผสานเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี ขณะที่สไตล์และรูปแบบการเล่นเกม ก็เหมาะเจาะกับสิ่งที่ภาพยนตร์เซ็ทเอาไว้ได้อย่างลงตัว

การเล่นเกมจะคล้ายๆ กับเกม Grand Theft Auto อยู่บ้าง โดยผู้เล่นสามารถไปไหนมาไหน ทำอะไรได้อย่างอิสระในนิว ยอร์ค ตอนยุค 1940 เช่น ขโมยรถที่จอดอยู่ริมถนน อย่างไรก็ตาม ตัวเกมยังเอื้อให้เล่นอะไรได้มากกว่านั้น เมื่อทำให้ผู้เล่นตั้งแก๊งเรียกค่าคุ้มครองจากเจ้าของธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะพาให้ตัวละครของคุณไปเผชิญหน้ากับแก๊งของครอบครัวคู่ปรับ นอกจากนี้ยังสามารถปฏิบัติภารกิจของมือปืน หรือทำในสิ่งที่ทำให้ได้เงิน หรือความเคารพนับถือมากขึ้นได้ เพื่อที่จะสามารถไต่เต้าไปตามระดับชั้นของครอบครัวคอร์ลีโอเน ซึ่งเป็นก็อดฟาเธอร์แห่งนครนิว ยอร์ค และหากสงสัยว่า ควรจะเล่นเกมนี้ด้วยเครื่องเล่นอะไร The Godfather เป็นเกมที่เล่นได้สนุกในแทบทุกเครื่องเล่น ไม่ว่าจะเป็น วี (Wii), เพลย์ สเตชีน 3 (PS3) หรือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ลองหามาเล่นดู แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจ

จากเรื่อง 10 ยอดวิดีโอเกม ที่มาจากจอภาพยนตร์
คอลัมน์ สกูปพิเศษ นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1208 ปักษ์หลังพฤษภาคม 2559