Man on a Ledge [2012]: โดดลงมาเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
โดย สกก์บงกช ขันทอง
จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151275233940904&set=t.785586662&type=3&theater
มาอีกแล้วจร้าาา หนังไอเดียดี คอนเซปท์เจ๋ง แต่เก๋าเจ้งในความเป็นภาพยนตร์ หลังจากที่ดูหนังดีแล้วหลับมาหลายค่ำคืน หนังเรื่องนี้ก็ช่วยถ่างตาตื่นให้ผมพบเจอกับฝันร้ายอย่างไม่ได้เจอมานานอีกครั้ง สมใจอยากเอ็งแล้วจร้า หนังตะกวดๆ ที่ตามหามานานแสนนาน ช่างระทึกขวัญฝันผวาจนอยากจะบันจี้จัมป์ลงจากตึกใบหยกสองโคตรๆ ไงล่ะ…หนังไฮคอนเซ็ปท์มาอีกแล้ว เลวร้ายอีกแล้ว กิ๊วกิ๊ว
เนื้อเรื่องเล่าถึงพระเอกที่มาเปิดห้องที่โรงแรม สั่งแชมเปญจน์มาล้างคอ เขียนอะไรยุกยิก หลังจากนั้นก็เปิดหน้าต่าง และจัดการพาร่างตัวเองไปยืนอยู่บนระเบียงตึกอันสูงลิบลิ่ว ผู้คนต่างแตกตื่นกับการกระทำอันแสนจะสิ้นคิด มันเรียกร้องให้นางเอกที่เป็นนักเจรจาให้มาคุยด้วย ท่ามกลางผู้คนที่มุงดูอย่างใจจดจ่อ นักข่าวที่มาทำข่าวเพื่อหวังเรียกเรตติ้ง ชายหนุ่มท้อแท้ใจในโชคชะตา พูดคุยกับนางเอกที่ค่อยๆ เริ่มเห็นใจในชะตากรรม ในความผิดที่ไม่ได้ก่อของเขา หลังจากนั้นนางเอกจึงร่วมยืนริมระเบียงพร้อมกัน จากนั้นความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดแล้วทั้งสองก็กระโจนลงจากตึกประชดกฏหมายอันแสนเต็มไปด้วยรูโหว่ สังคมที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ร่างของทั้งสองเละไม่เป็นชิ้นดี แต่ก็ทำให้คนที่มามุงดูต่างตระหนักถึงชีวิตอันแสนงดงาม นักข่าวลาออกเพื่อให้รายการตอบโจทย์กลับยังไทยพีบีเอสอีกครั้ง …
แหม่…ถ้ามันดำเนินเรื่องได้อย่างสวยงามอย่างนี้ Argo อาจจะไม่ได้งาบออสการ์นะครับ บังเอิญไอ้ที่เขียนข้างต้นมันไม่ใช่อ่ะ
เรื่องจริงคือไอ้พระเอกมันเป็นนักโทษที่แหกเรือนจำซิงซิง (ชื่อเรือนจำโคตรฮา) หลังจากนั้นหนังก็ค่อยๆ บอกว่าจริงๆ แล้วพระเอกคือตำรวจเก่าที่เป็นแพะ มันเลยจัดการยืนบนระเบียงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่า ชั้นไม่ได้ฉกโคตรเพชรของไอ้เศรษฐีที่อารักขาอยู่นะ แต่ระหว่างนั้นผู้สร้างกลัวว่าหนังจะเสียวระทึกไม่พอ ก็เลยจัดการเอาน้องชายและเมียน้องชายสุดอึ๋ม ไปจัดการตามล่าโคตรเพชร เพื่อยืนยันว่าพี่ฉันไม่ผิดนะ พี่ฉันโดนกลั่นแกล้ง ซึ่งถ้าวางแผนจะทำขนาดนี้ ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจด้วยการยืนบนระเบียงตึกก็ได้มั๊ง แค่หาที่ไหนซักที่ รถตู้ซักคันสั่งการตามที่หนังทั่วไปทำก็ได้นะ ไอ้บ้า เอ็งไม่ต้องแผนซ้อนแผนถึงขนาดต้องยืนอยู่ตรงนั้น เพื่อสั่งการน้องชายเอ็งหรอก
เหมือนผู้กำกับมีไอเดียน่าสนใจ แต่โดนผู้สร้างเบรกเอี๊ยดว่า “ถ้าจะทำหนังเน้นความหมายของชีวิต กรุณาหอบโปรเจคท์ไปเสนอโครงการไทยเข้มแข็งเหอะ กูจะทำหนังเอาตังค์ คุณเมิงไปเอาปืนผาหน้าไม้ฉากแอ๊คชั่นและเฮลิคอปเตอร์มา ไม่งั้นกูจะเอาบทหนังมึงไปพับถุงกล้วยแขกขาย” ผู้กำกับเลยต้องงัดกลเม็ดทั้งหมดใส่ไม่ยั้ง เป็นไงล่ะ เละเป็นโจ๊ก จะดราม่าก็ไม่ม่า จะแอ๊คชั่นก็ไม่ได้ครึ่งหนังซีกัลที่ลงแผ่น จะระทึกขวัญก็โอ้วโหวววว ผมเอาไม้แบทช็อตยุงแตะลิ้นตัวเองยังระทึกกว่า พี่จะซับซ้อนไรนักหนา แค่ยืนอยู่บนตึกก็พอแล้ว ยังลากญาติโกมาเพิ่มพล็อตให้รุงรังอีก
นอกจากดำเนินเรื่องได้น่าเบื่อแล้ว สิ่งหนึ่งที่หนังเรื่องนี้มอบให้ก็คือ การรวมพลคนน่ารำคาญที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกที่ซ่อนปมลับไว้เยอะเหลือเกิน เอ็งยืนตรงนั้นสบตาแข็งๆ ของเอ็ง ก็รู้ว่าไม่กล้าโดดหรอก น้องนางเอกที่เป็นนักเจรจาต่อรอง ถ้าพูดตะล่อมๆ แบบนี้ อย่าว่าแต่ไอ้พระเอกที่มีสติเลย คนเสพย์ยาบ้าที่โคตรขี้กลัวอาจจะปาดคอเด็กทันทีที่นางเอ่ยปากพูดเลยก็ได้ ไหนจะน้องนักข่าวที่ปรากฏตัวทีไร ต่อมความรำคาญก็จะเกิดทุกครั้ง จ๊ะ อยากสื่อว่านักข่าวตะกวด ตะกวดแล้วจ๊ะ รำคาญจ๊ะ แถมยังมีตัวละครคนบ้าที่จะบอกว่าการกระทำของพระเอกเปรียบเสมือนฮีโร่ ทำไมไม่รวมตัวไปกระโดดสะพานบรูคลินตายตามๆ กันไปเลยล่ะจ๊ะจะได้รวมพล The Avengers ไปเลย แม้กระทั่ง เอ็ด แฮร์ริส ก็ร้ายจนอยากเชิญมาเล่นละครกับดาราวีดีโอ หรือ เอ็ด เบิร์นส์ ที่ทำตัวเหมือนคนกำกับหนังไม่รุ่ง แล้วเดินสายไปขอบทจากเอเย่นท์ จนเขาโยนมาให้อย่างเสียมิได้
ด้วยความที่หนังพยามเหลือเกินที่จะทำสไตล์น้ำผึ้งหยดเดียว แต่กลับกลายร่างเป็นน้ำเปล่าหยดเดียว ที่หยดติ๋งลงบนกองไฟ นอกจากไม่ช่วยให้ความพินาศที่ก่อไว้หายไปแล้ว ยังค่อยๆ ลุกลามจนตัวเองก็ควบคุมห่าอะไรไม่ได้
ผู้กำกับพยามขุดสูตรความระทึกใจสารพัด เพื่อให้คนดูรู้สึกหวาดกลัวและลุ้นระทึก ไม่ว่าจะเป็นการที่พระเอกยืนอยู่บนระเบียงและกล้องแทนสายตามองไปยังด้านล่าง พระเอกโชว์วูบหลายที หรือกระทั่งน้องพระเอกกับเมียที่ค่อยๆ ลุ้นว่าจะแอบไปฉกโคตรเพชรได้สำเร็จรึเปล่า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนอกจากเห็นมาจนชินในตระกูลหนังระทึกขวัญแล้ว ยังไม่ช่วยกระตุ้นแม้กระทั่งต่อมกลัวความสูงของผมให้กระเทือนอะไรเลย นี่สินะพลานุภาพแห่งความห่วยที่ทำให้เราลืมแม้กระทั่งความกลัว
สิ่งหนึ่งผู้กำกับอาจจะลืมไป ว่าจริงๆ แล้ว เมื่อไรที่คนมันจะโดดตึกฆ่าตัวตาย มันจะตัดสินใจทิ้งดิ่งทันทีแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่เมื่อมันยืนเก้ๆ กังๆ นั่นก็คือ มันไม่อยากจะตายจริง แค่เรียกร้องความสนใจแค่นั้น หนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ถ้ายังเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าจะทำหนังในรูปแบบไหนดี มันก็จะปรากฏเป็นเรื่องราวอันแสนพิกลพิการเรื่องนี้แหละ และนั่นก็ฉายภาพความพินาศไปแล้วตั้งแต่เอ็งยืนตรงนั้น
ดังนั้น เมื่อยคอว่ะ ไม่โดดก็กลับเข้าห้องไปซะ ขี้เกียจลุ้นแล้ว…เบื่อมาก