เข้าฉายบ้านเราแล้ว สำหรับหนังสารคดีที่น่าจะเหมาะกับคอเสต็ค และชอบทานเนื้อ Steak (R)evolution และวันนี้ สะเด่าส์ จะพาไปพบกับผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ฟรองค์ ริบิแยร์ เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับหนังเรื่องนี้มากขึ้น
– จุดเริ่มต้นของการทำหนังสารคดีเรื่อง Steak (R)evolution คืออะไร?
“ผมคงสรุปได้เป็นประโยคเดียวสั้นๆ ว่า เริ่มจากผู้ชายซึ่งรักการทานเนื้อคนหนึ่ง พยายามทำความเข้าใจว่าทำไมเนื้อที่เขากินที่ฝรั่งเศส ถึงแตกต่างและอร่อยไม่เหมือนที่เขากินจากที่ต่างๆ ทั่วโลก ชายคนนั้นก็คือผมเองนั่นแหละ! ด้วยความที่โตมากับครอบครัวที่เลี้ยงวัวพันธุ์ชาโรเลส์ ผมเข้าใจมาตลอดว่า ประเทศของผมผลิตเนื้อที่อร่อยที่สุดในโลก จนวันหนึ่งก็ได้เข้าใจว่า แต่ละประเทศก็มีรสนิยมเรื่องเนื้อแตกต่างกันไป ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเนื้อในอาร์เจนติน่า, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น หรือแม้แต่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างอิตาลี และสวีเดน ต่างก็มีภูมิปัญญาที่แตกต่างกันไป และออกจะแข็งแรงกว่าของฝรั่งเศสอีกด้วย”
– พอได้โจทย์แล้ว คุณวางแผนการทำงานยังไงเพื่อให้ได้คำตอบ?
“ผมทำสารคดีเรื่องนี้ โดยมองจากมุมมองคนกินเนื้อจริงๆ วิธีการก็คือ มองหาสินค้าคุณภาพเยี่ยมก่อนเป็นอันดับแรก แล้วเข้าไปทำความเข้าใจหลักการในการทำงานของผู้ผลิตเนื้อชนิดนั้นๆ ในทางปฏิบัติผมเริ่มต้นถามคนรอบๆ ตัวผม และทุกคนก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมควรเดินทางไปยังประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัวจริงๆ เลย ก็ได้แก่ประเทศที่ผมเอ่ยไปก่อนหน้านี้ ทั้งอาร์เจนติน่า, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
“จากนั้นถ้าคุณค้นหาจากอินเตอร์เน็ตด้วยคำว่า ‘ร้านขายเนื้อที่ดีที่สุดในโลก’ หรือ ‘ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเนื้อที่สุดในโลก’ ก็จะเจอชื่อของ อีฟส์-มารี เลอ บูร์ดองเนก ผมเดินทางไปหาเขา อธิบายไอเดียให้ฟัง โชคดีที่เรามองเห็นความสำคัญของการกินเนื้อในทิศทางเดียวกัน ถึงจะไม่ได้เหมือนกันซะทุกเรื่อง เพราะเขามีความชำนาญเรื่องนี้มากกว่าผม เขาเสนอตัวเดินทางไปกับผม ยังสถานที่ๆ ผมต้องการตรวจสอบว่าสัญชาติญาณของเขาน่ะถูกต้องหรือเปล่า เขาตามผมมาที่ญี่ปุ่น, อิตาลีและสวีเดน แล้วผมก็เดินทางต่อ ได้เจอผู้เชี่ยวชาญอีกคนคือ มาร์ค แชตสเกอร์ คอลัมนิสต์ชื่อดังของโตรอนโต เขาเคยเขียนหนังสือชื่อ Steak พอได้เจอกัน ก็เกิดการเดินทางนอกแผนขึ้นมาอีก เช่น ไปดูวัวพันธุ์หนึ่งในนิวซีแลนด์ ซึ่งไม่จำเป็น เพราะวัวชนิดนี้ในอังกฤษก็มี และผมก็กะจะไปอยู่แล้ว นอกจากนี้มาร์คยังให้ความเห็นถึงเนื้อฝรั่งเศสในมุมมองของคนนอกประเทศได้ดีอีกด้วย”
– ในสารคดีเรื่องนี้ คุณพยายามค้นหาเนื้อที่ดีที่สุดในโลก คุณนิยามคำว่าดีที่สุดอย่างไร?
“อันที่จริง การพูดว่าอะไรดีที่สุดนั้น เป็นมุมมองแบบอัตวิสัยจริงๆ พูดง่ายๆ ก็คือ เนื้อที่ดีคือเนื้อที่ผมกินแล้วอร่อยตามรสนิยมการรับประทานของผม หรือถ้าให้พูดอีกอย่าง ผมต้องการความสุขจากการรับประทานเนื้อ และกินแล้วไม่เสียสุขภาพด้วย ไหนจะลองกินร่วมกับไวน์ ผมก็ต้องหาไวน์คุณภาพดีที่ไม่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป อย่างเช่น เนื้อฝรั่งเศสนั้นทานกับโบโชเลส์ และเนื้อโกเบนั้นเหมาะกับไวน์ชาโต ดีเกม ในกรณีของเนื้อโกเบ คุณจะเห็นได้เลยว่าเราไม่ได้พูดแค่เรื่องเนื้อเท่านั้น และตลอดการเดินทางชิมไปบ่นไป ผมก็ได้ตระหนักว่าจริงๆ แล้วรสนิยมการทานเนื้อของผมก็เป็นรสนิยมกลางๆ แบบคนทั่วไปนั่นแหละ”
– คุณมีหนังเรื่องไหนในใจไหม ก่อนจะทำหนังเรื่องนี้?
“แน่นอน หนังสารคดีเรื่อง Mondovino (สารคดีเกี่ยวกับไวน์ ฉายปี 2004 กำกับโดย โจนาธาน นอสสิเตอร์) แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเดียว ตอนแรกผมตั้งใจจะทำหนังสารคดีที่ไม่มีเสียงบรรยาย หรือเสียงให้ความเห็น ผมไม่อยากออกกล้อง และไม่อยากชี้นำคนดูด้วยความเห็นของตัวเอง ผมอยากให้คนดูมีความเห็นต่อสิ่งที่เขาดูบนจอด้วยตนเอง หรือฟังความเห็นของคนที่ผมไปสัมภาษณ์แล้วคิดเอาเอง
“แล้วผมก็ไม่ต้องการทำหนังสารคดี ที่มีการสอบสวนอย่างตื่นเต้นแบบไมเคิล มัวร์ หรือ Fast Food Nation ของริชาร์ด ลิงคเลเตอร์ ซึ่งผมเป็นผู้จัดจำหน่ายเองในฝรั่งเศส
“Steak (R)evolution ไม่ใช่สารคดีที่ต้องการกล่าวโทษใคร ผมไม่ได้มีเป้าหมายในการเสนอด้านไม่ดีของอะไรก็ตาม ประเภทแฉร้านฟาสต์ฟู้ดอะไรแบบนั้นผมไม่ทำ พราะมีคนทำมาก่อนมากแล้ว และทำได้ดีมากด้วย อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้ทำหนังเพื่อโน้มน้าวให้คนหันมากินเนื้อแบบไม่มีเหตุผล มันเป็นเหมือนการให้ข้อมูลสำหรับคนที่อยากกิน และช่วยให้เขากินได้อร่อยมากขึ้นกว่าเดิม”
– คุณไม่ได้ต้องการทำหนังเพื่อตอบโต้พวกมังสะวิรัติใช่ไหม?
“เปล่าเลย เพราะผมก็คิดว่าแนวคิดแบบมังสะวิรัตินั้นถูกต้อง การกินเนื้อทุกวันไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว แต่สิ่งที่ผมต้องการนำเสนอ มันคนละเรื่องกัน คือถ้าเราจะกินเนื้อ ก็กินเนื้อที่ดีที่สุดที่เราหาได้ การจะทำแบบนั้นในฝรั่งเศส เราต้องสร้างวัฒนธรรมการบริโภคโดยมีพื้นฐานมาจากเนื้อที่ถูกสุขลักษณะ แน่นอนที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้แย่อะไร เพียงแต่ถ้าทำ เราก็จะได้เนื้อที่อร่อยขึ้น”
– สิ่งที่คุณประหลาดใจมากที่สุดระหว่างการเดินทางคืออะไร?
“การเดินทางไปทั่วอาร์เจนติน่า ซึ่งเป็นประเทศที่มีการทำการตลาดแข็งแรงที่สุดเลยก็ว่าได้! จนทุกๆ คนเชื่อกันโดยบริสุทธิ์ใจว่าเนื้อที่ดีที่สุดในโลกคือเนื้อจากที่นี่ ซึ่งเนื้อที่คนอาร์เจนไตน์กินกันทุกวัน ก็เป็นเนื้อธรรมดาๆ หาได้ทั่วไป คุณต้องไปตามภัตตาคารแพงๆ ของที่นั่น ถ้าอยากทานเนื้อดีๆ เพราะเนื้อที่ดีๆ ส่วนใหญ่เขานำส่งขายออกนอกประเทศ
“สำหรับหนังสารคดีเรื่องนี้ คุณต้องเข้าไปหาสิ่งที่คนไม่เคยรู้กัน และแทบไม่เคยปรากฏอยู่บนจอหนังเลย การที่เราพาผู้ชมไปหลังครัวของร้านปีเตอร์ ลูเกอร์ (ร้านดังในนิว ยอร์ค) ได้ ถือเป็นโอกาสพิเศษมากๆ หรือการพาไปเยี่ยมฟาร์มวัวเนื้อในญี่ปุ่น…ยากมากนะครับ กว่าจะอ้อนวอนให้เขาอนุญาตให้บันทึกภาพได้
“เราเตรียมงานมาอย่างดี พอถึงเวลาถ่ายทำก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าทำให้สารคดีเรื่องนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะคนที่ผมไปขอสัมภาษณ์ เข้าใจเจตนาอันบริสุทธิ์ของผม ผมไม่ได้ทำสารคดีเพื่อจะยกย่องหรือโจมตีใคร แบ่งแยกว่านั่นคือดีนั่นคือเลว แต่เป็นการทำความเข้าใจโลกของธุรกิจค้าเนื้อวัวแบบคลุกวงใน การที่ผมเกิดในครอบครัวที่เลี้ยงวัว อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไว้ใจผมด้วย”
– การถ่ายทำใช้เวลานานแค่ไหน?
“สองปี เราได้ฟุตเตจราวๆ 40 ชั่วโมง พอสัมภาษณ์ใครสักคน เขาก็จะแนะนำต่อ ให้ไปสัมภาษณ์คนนี้สิ แต่ทุกคนที่ผมพบมีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่ง ต่างรักและได้รับผลกระทบจากภาพลบของอุตสาหกรรมค้าเนื้อวัว พวกเขารวมตัวกันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ และเกือบจะรู้จักกันหมด ไปมาหาสู่กันเป็นระยะ”
– คุณตัดต่ออย่างไรจาก 40 ชั่วโมงให้เหลือแค่ 2 ชั่วโมง?
“ก็แค่กลับไปที่คำถามตั้งต้น ‘เราทำหนังเรื่องนี้ทำไม?’ ยิ่งถ่ายมันก็ยิ่งไปไกลกว่าคำถามส่วนตัวที่คิดแต่แรก ผมไม่ได้เป็นพวกกะโจมตีฝรั่งเศสท่าเดียว หรือมีความคิดแบบ ‘สมัยก่อนดีกว่าสมัยนี้เยอะ’ อะไรแบบนั้น
“เอาเป็นว่า คุณเล่าเรื่องย่อของ Steak (R)evolution ได้ว่า เป็นเรื่องน้ำตาที่ไหลจากใจของชายฝรั่งเศสผู้หนึ่ง ซึ่งเดินทางไปพบคนทั่วโลก และเชื่ออย่างสุดซึ้งว่าอนาคตการค้าเนื้อวัวในฝรั่งเศส มีอนาคตสดใสรออยู่ ผมพยายามนำเสนอประเด็นนี้ด้วยการจำแนกความแตกต่างระหว่างเนื้อของเรากับชาติอื่น อธิบายให้คนดูเข้าใจว่า มันเป็นวัฒนธรรมและเกี่ยวข้องกับตัวสัตว์เองอย่างไร เราเลี้ยงดูและให้อาหารมันยังไง ผมตัดต่อหนังโดยพยายามใช้ภาพมาตอบคำถามให้ชัดเจนที่สุด”
– แสดงว่าคุณไปขึ้นโครงเรื่องจริงๆ ในห้องตัดต่อ?
“ใช่ ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนที่ผมและเวราน เฟรดิอานี – ซึ่งร่วมเดินทางไปด้วยกัน และมาช่วยผมตัดต่อ – เริ่มมองเห็นแนวทางที่ชัดเจนว่าหนังสารคดีเรื่องนี้ควรจะเล่าอย่างไรดี เธอเสนอวิธีการเล่าเรื่องที่หลากหลายและน่าสนใจมากมาย แล้วเราก็เลือกทางที่คิดว่าน่าจะเป็นส่วนตัวที่สุด และจริงใจที่สุดผ่านประสบการณ์ทั้งหมด และผ่านสิ่งที่ผมได้ค้นพบตลอด 2 ปีของการถ่ายทำ
“จริงๆ แล้ว ผมพบโครงสร้างการเล่าเรื่องนี้ในวันเดียวกับที่ตั้งคำถามกับตัวเองแบบจริงๆ จังๆ ซึ่งก็คือ แทนที่จะสงสัยว่าอาหารในจานผมคือเนื้ออะไร ผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่า เนื้อวัวที่อยู่บนจานน่ะมันกินอะไรเป็นอาหาร
“นั่นแหละครับคือประเด็นสำคัญ และเป็นประเด็นที่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ แม้แต่ในฝรั่งเศสเองก็ตาม บางคนเชื่อว่าวัวไม่กินหญ้าด้วยนะ! ยิ่งหาคำตอบเท่าไหร่ สิ่งที่ได้รับรู้ก็เป็นสิ่งธรรมดาสามัญง่ายๆ นั่นคือ ‘วัวที่มีความสุขเท่านั้น เนื้อมันถึงจะอร่อย’
“ความอร่อย บางทีก็ไม่ได้เกี่ยวกับการหมักหรือการปรุง มันอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เลี้ยงและวัวต่างหาก คนเลี้ยงวัวที่คุยกับวัวทุกวัน และเลี้ยงวัวมา 15 ปีก่อนจะนำเข้าโรงฆ่าสัตว์นั้น รับประกันได้เลยว่า เนื้อจากวัวตัวนั้นจะต้องอร่อยแน่นอน”
– เป้าหมายของสารคดี Steak (R)evolution คืออะไร
“ผมหวังว่าด้วยวิธีการบ้าๆ แบบผม จะทำให้ผู้ชมรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อ และตระหนักว่าเนื้อที่ดีเป็นอย่างไร ความตั้งใจของผมคือ ทำให้เนื้อวัวเป็นสินค้าที่ผู้ผลิตทั่วโลก ผลิตมันด้วยความจริงใจต่อผู้บริโภค และมองอนาคตของธุรกิจหรือวัฒนธรรมนี้อย่างมีความหวัง ไม่ริบหรี่เหมือนโลกของธุรกิจไวน์ ผมคิดว่าธุรกิจเนื้อ ผมยังมองเห็นความหวัง”
สามารถกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่