FEATURESMovie FeaturesMusic Features

ถึงเวลาล่องลอยกลับไปสู่ชีวิตนิรันดร์ ของ เดวิด โบวี และหนังของโบวีที่ต้องดู

10 มกราคม 2559 เดวิด โบวี ตำนานแห่งวงการเพลงที่เพิ่งฉลองวันเกิดอายุครบ 69 ปี ไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม พร้อมกับปล่อยอัลบั้มใหม่ Blackstar ออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยวัย 69 ปี

“เดวิด โบวี เสียชีวิตอย่างสงบวันนี้ โดยมีครอบครัวอยู่รอบกาย หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างกล้าหาญตลอดเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา” คำแถลงการณ์สั้นๆ ถูกโพสท์ขึ้นบนเฟซบุ๊คเพจอย่างเป็นทางการของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม

เดวิด โบวี เกิดแถบบริกซ์ตัน ทางใต้ของกรุงลอนดอน มีชื่อจริงๆ ว่า เดวิด โจนส์ เริ่มหัดเล่นแซ็กโซโฟนตั้งแต่อายุ 13 ปี ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกในยุโรปด้วยเพลง Space Oddity เมื่อปี 1969 และเมื่อเขาปรากฏตัวเป็นร็อคสตาร์ต่างดาว ไบเซ็กชวล ในนาม ซิกกี สตาร์ดัสท์ เมื่อปี 1972 ก็ทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกขึ้นมาในทันที และในปีเดียวกันนี้ เขาก็ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เมโลดี เมเกอร์ ว่าเป็นเกย์ ซึ่งประจวบเหมาะกับการปล่อยภาพลักษณ์ดังกล่าวออกมา ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมา โบวีจะบอกกับนิตยสารเพลย์บอยว่า เขาเป็นไบเซ็กชวล แต่พอมาถึงยุค 80 โบวีก็เผยว่า สิ่งที่เขาเคยพูดไป เป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยทำมา” และเขาเป็น “คนที่มีต้องการมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามมาตลอด”

หลังจากที่เข้าผ่าตัดหัวใจฉุกเฉินในปี 2004 โบวีก็เก็บตัวเงียบมาโดยตลอด ก่อนที่จะออกอัลบั้ม The Next Day มาในปี 2013 ซึ่งทิ้งห่างจากอัลบั้มชุดสุดท้ายถึง 10 ปี แล้วก็มาเป็น Blackstar ที่ออกมาในวันเกิดครบ 69 ปีของตัวเขาเอง ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ต้องให้การชื่มชม

นอกจากวงการเพลง เดวิด โบวี ก็มีผลงานภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับ ยกย่อง มีผลงานเป็นที่จดจำมาตลอดชีวิตการทำงานเช่นกัน ในฐานะนักแสดงโบวีคือนักแสดงที่ขึ้นกล้อง มีทั้งความสง่างาม และรัศมี ได้ทำงานกับผู้กำกับชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คริสโตเฟอร์ โนแลน หรือนิโคลาส โรก ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ชั้นดีอย่าง Basquiat และ The Last Temptation of Christ และนี่คือภาพยนตร์ที่น่าจดจำของผู้ชายคนนี้

The Man Who Fell to Earth (1976): หนังเรื่องแรกของโบวี ที่เป็นงานไซ-ไฟ ผลงานการกำกับของนิโคลาส โรก ที่เล่าถึงประสบการณ์ของมนุษย์ต่างดาวคนหนึ่งที่ยานอวกาศตกมาบนโลก โบวีให้ภาพลักษณ์แบบซิกกี สตาร์ดัสท์ที่ค่อยๆ วิวัฒนาการไปเป็นธิน ไวท์ ดุค (Thin White Duke) ซึ่งโบวีนำเสนอออกมาพร้อมๆ กับการออกอัลบั้มชุด Station to Station โบวียอมรับว่าเขาใช้โคเคนในระหว่างถ่ายทำ และผสมผสานการแสดงแบบมึนๆ แต่สละสลวย เข้ากับงานด้านภาพแบบประหลาดของโรก จนหนังเรื่องนี้กลายเป็นงานไซ-ไฟแปลกๆ และส่งอิทธิพลอย่างชัดเจนกับหนังอย่าง Under the Skin (2013) ในเวลาต่อมา

Merry Christmas Mr. Lawrence (1983): โบวีรับบทผู้พันแจ็ค เซลเลียร์ส เชลยสงครามในหนังของผู้กำกับนางิสะ โอชิมา ที่นอกจากจะมีดนตรีประกอบเร้าอารมณ์ของเรียวอิชิ ซากาโมโต หนังก็ยังเต็มไปด้วยพลังจากเรื่องราว ที่เป็นประสบการณ์ของเซอร์ ลอเรนส์ ฟาน เดอร์ โพสท์ ระหว่างอยู่ในค่ายเชลยศึกของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดย พอล เมเยอร์สเบิร์ก ที่เป็นผู้เขียน The Man Who Fell to Earth โอชิมาเลือกโบวีมารับบทนำหลังเห็นเขาเล่นละครเวทีเรื่อง The Elephant Man

Labyrinth (1986): ช่วงกลางยุค 80 ไม่ใช่ช่วงพีคสำหรับดนตรีของโบวี แต่เขาก็สร้างความเป็นอมนตะสำหรับช่วงเวลานี้ได้จากหนังแฟนตาซีของจิม เฮนสันเรื่องนี้ ที่กลายเป็นงานสุดรักของใครก็ตาม ที่ตื่นเต้นไปกับเรื่องราวในแบบ Wizard of Oz ที่จะพาไปพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องไปหาทางช่วยเหลือน้องชายที่ยังเป็นเด็กของเธอจากการจับตัวไปของ จาเร็ธ ราชาแห่งกอบลิน ซึ่งรับบทโดยโบวี หนังเขียนบทโดยเทอร์รี โจนส์ แห่งทีมมอนตี ไพธอน และเต็มไปด้วยแรงดึงดูดในแบบเดียวกับ The Dark Crystal งานก่อนหน้านี้ของเฮนสัน แล้วก็เสน่ห์ส่วนใหญ่ของหนังมาจาก การแสดงที่เต็มไปด้วยสีสันของโบวี เสื้อผ้าที่หลากหลาย และการแสดงที่ละเมียดบรรจง

Basquiat (1996): หนังอัตชีวประวัติ ฌอง-มิเชล บาสเคว็ท ที่กำกับโดยผู้กำกับจูเลียน ชนาเบล แต่ไฮไลท์กลับเป็นการแสดงของโบวี ในบทแอนดี วอร์ฮอล ที่แม้จะต้องสวมวิก และพูดช้าๆ เนิบๆ แต่โบวีก็ไม่เคยกลืนหายไปกับบท และดูเหมือนเขากำลังแสดงความชื่นชมกับวอร์ฮอลมากกว่า ซึ่งเพลง Andy Warhol ที่เขาแต่งออกมาในปี 1971 น่าจะเป็นตัวอย่างได้ดี ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โบวีได้ทำงานที่เป็นการผสมผสานอารมณ์ความรู้สึกของศิลปินมากมาย และการได้เห็นการแสดงออกอย่างจริงๆ ในหนังเรื่องนี้ มันก็น่าเป็นที่พึงพอใจ

The Prestige (2006): ตอนโบวีปฏิเสธที่จะเล่นเป็นเทสลาในหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลนต้องบินไปถึงนิว ยอร์ค เพื่อขอร้อง บอกกับเขาว่า ตัวเองไม่สามารถนึกถึงใครได้อีกแล้ว ที่จะมารับบทนี้ “ตัวละครตัวนี้ ต้องมีลักษณะที่ไม่ธรรมดา และมีความโดดเด่น ผมอยากได้คนที่ไม่ใช่ดารานักแสดง คนที่มีรัศมี และมีความเป็นดาราในตัว แต่แตกต่างไปจากดาราทั่วๆ ไป” โนแลนอธิบาย และเขาก็ตัดสินใจไม่ผิด ขณะที่โบวีตั้งใจมากๆ ถึงขนาดหัดพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเซอร์เบีย

The Hunger (1983): หนังแวมไพร์ประหลาดๆ ของผู้กำกับโทนี สก็อทท์ ที่โบวีเล่นเป็น จอห์น เบลย์ล็อค แวมไพร์หนุ่ม ที่ใช้ชีวิตคู่อยู่กับแวมไพร์หญิงอีกรายหนึ่งในนิว ยอร์ค ที่ต่อมาได้รู้ว่า ชีวิตอมตะของเขาไม่สามารถคงอยู่ไปได้ชั่วนิรันดร์ เมื่ออายุของเขาเริ่มสูงวัยขึ้นเรื่อยๆ จอห์นได้ไปหาดร. ซาราห์ และขอให้เธอควบคุมอายุของเขา นอกจากโบวี หนังได้ซูซาน ซาแรนดอน และแคเธอรีน เดอเนิฟ มาร่วมแสดง

The Last Temptation of Christ (1988): หนังมหากาพย์ของมาร์ติน สกอร์เซซี ซึ่งในตอนแรกบทปอนติอุส ไพเลทของโบวี ถูกหมายตาไว้ให้กับสติง แต่เป็นโบวีต่างหากที่ก้าวเข้ามา เมื่อหนังเริ่มทำงานกันในช่วงปลายยุค 80 ในฐานะผู้ปกครองโรม โบวีได้ปรากฏตัวในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อบอกบางอย่างกับพระเยซู (วิลเลม ดาโฟ) โดยบทปอนติอุล พิเลเต ของโบวี เป็นตัวละครที่เงียบขรึม สงบ ควบคุมทุกอย่างได้

ถึงเวลาล่องลอยกลับไปสู่ชีวิตนิรันดร์ ของ เดวิด โบวี โดย ฉัตรเกล้า คอลัมน์ อำลา-อาลัย นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1200 ปักษ์หลัง มกราคม 2559

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านงานวิจารณ์หนัง และเพลง แบบนี้ ได้ด้วยการกดไลค์ Like เพจสะเด่าส์กันไว้ก่อน ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.