Music ReviewREVIEW

ฟังไปแล้ว – GOLDEN อัลบัมที่เปรียบดั่งทองของ ไคลี มิโนก

GOLDEN / Kylie Minogue
[Kylie Minogue/ Darenote/ BMG]

เคยถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตุ๊กตาแสนสวยของสต็อค/ เอทเคน/ วอเตอร์แมน ไคลี มิโนกใช้เวลาไม่น้อยเลยกว่าจะหลุดพ้นจากร่มเงาของอดีต และได้รับการยอมรับจากงานดนตรีที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น จนมาถึงวันนี้จากสาวรุ่นในวันนั้น ไคลีในวันนี้อายุกำลังจะผ่าน 50 ปีในเดือนพฤษภาคมนี้ และมีอัลบัมใหม่ Golden งานชุดที่ 14 ของตัวเองออกมาให้แฟนๆ ฟัง

หลังทำเพลงป็อป เพลงเต้นรำ เพลงอิเล็กทรอนิกส์ เพลงคริสท์มาส รวมไปถึงอาร์แอนด์บี คราวนี้ไคลีจะพาคนฟังก้าวมาสู่โลกของดนตรีคันทรี ที่ถูกย่อย ปั่น ผสมผสานกับงานเพลงป็อป ที่มีทั้งงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพลงในแบบบัลลาด สมกับที่เดินทางไปอัดเสียงกันถึงแนชวิลล์, เทนเนสซี

และนั่นก็ทำให้ Golden ดึงหูได้ตั้งแต่แรกครั้งที่ได้ยิน

หนนี้ไคลีมีส่วนร่วมแทบทุกส่วนในการทำงาน ไม่ว่าจะในฐานะโปรดิวเซอร์ร่วมกับโปรดิวเซอร์หลายๆ คนที่มาทำเพลงให้กับเธอ หรือว่าการแต่งเพลง ที่เธอมีเครดิทร่วมแต่งในทุกเพลงในอัลบัม ซึ่งเป็นหนแรกนับตั้งแต่งานชุด Impossible Princess เมื่อปี 1997

จากเสียงกีตาร์โปร่งที่พลิ้วไหวเปิดหัวในเพลงแรก “Dancing” นำไปสู่เพลงเต้นรำสนุกๆ ในท่วงท่าที่อาจจะทำให้นึกถึงอาวีชีผู้จากไป แต่ใส่เสียงริฟฟ์ของคีย์บอร์ดส์ รวมไปถึงบีทดนตรี ในลีลาที่ละม้ายกับงานในยุคที่เจ้าของเสียงร้องนั้น เริ่มต้นในวงการเพลงกับสามโปรดิวเซอร์จากค่ายพีดับเบิลยูแอล, ขณะที่ “Stop Me from Falling” ไคลียังพาคนฟังเพลินไปกับดนตรีที่สดใส คึกคัก กับจังหวะจะโคนแบบฮองกีทองค์ที่ถูกปรับมาเป็นป็อปได้อย่างกลมกลืน เสียงปรบมือในเพลง ก็พาให้ภาพการเต้นรำคล้องแขนในบาร์คาวบอยลอยมาในความรู้สึกโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะรับด้วยเสียงโห่ที่คอเพลงไทยในยุคก่อนรู้จักกันดีว่าเป็นลายเซ็นประจำตัวของเพชร พนมรุ้ง ที่รับเอามาจากเพลงคันทรีอีกทีใน “Golden” งานไทเทิลแทร็ค ที่ยังเก๋ด้วยเสียงกีตาร์ทแวงฟังแกว่งๆ ก้องกังวาน ที่หลอมรวมกับจังหวะจะโคนของดนตรีคันทรี ที่ซาวนด์เป็นงานป็อปแดนซ์ได้เนียนสนิท

“A Lifetime to Repair” ก็มาครบทั้งแบนโจ ฟิดเดิล กับลีลาแบบคันทรีเทรดิชันที่หยอดใส่เข้ามาได้ลงตัว, ก่อนที่จะเบรคด้วย “Sincerely Yours” เพลงบัลลาดป็อปที่ไคลีโชว์เสียงร้องในแบบที่มีขึ้นจมูกนิดๆ พร้อมเสียงประสาน ให้ได้กลิ่นคันทรีโชยฉุน แม้ด้วยความเป็นป็อป และมาเป็นเพลงสูตรของงาน อาจจะทำให้นึกถึงงานของเลดี แอนเทเบลลัมอยู่บ้าง แต่หากเทียบกัน โทน และบรรยากาศของเพลงดูจะแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย โดยในแง่ความใส สว่างของเพลง เพลงนี้ของไคลีถูกคุณนายแอนเทเบลลัมทิ้งขาด แต่หากมองในแง่ของความเป็นป็อป ก็ต้องบอกว่าสูสี อันนี้อยู่ที่รสนิยมด้วยเช่นกัน, “One Last Kiss” ไคลีชวนคนฟังกลับเข้าบาร์ซาลูนอีกครั้ง ที่ไม่ใช่แค่จังหวะจะโคนจะโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่เสียงร้องของสาววัยครึ่งศตวรรษรายนี้ก็ทำได้เยี่ยม พาเสียงแหลมเล็กๆ ของตัวเอง ที่ตอนได้ยินครั้งแรกเมื่อครั้งกระโน้นต่างนิยามกันว่า อย่างกับแมวเหมียว คลอเคลียไปกับท่วงทำนองดนตรีและจังหวะที่รุกเร้าของเพลงได้น่าฟัง

ผ่านครึ่งทางของอัลบัมมาเรียบร้อย แต่ Golden ยังคงเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง “Live a Little” เป็นตัวอย่างที่ดีอีกเพลง สำหรับการวางโครงสร้างเพลงที่มีเสน่ห์ของดนตรีคันทรีให้เข้ามาอยู่ในงานที่มีท่อนเพลง มีซาวนด์แบบงานป็อป-แดนซ์ชนิดจัดเต็มได้อย่างเข้าขา, “Shelby ’68” ไคลีเบรคอารมณ์ของอัลบัมลงมาบ้าง ในแบบที่พอเคาะเท้า ดีดนิ้วตามได้เพลินๆ หลังจากใส่มาเต็มที่สองเพลงรวด ก่อนที่จะถูกผ่อนลงไปอีกใน “Radio On” งานคันทรี-โฟล์ค ที่ฟังนุ่มนวลอบอุ่น และย้ำอีกครั้งว่า ผู้หญิงคนนี้ “ขายเสียง” ของเธอได้

หลังพักอารมณ์มาชุดใหญ่ ไคลีปลุกคนฟังด้วย “Love” ที่หากเทียบกับเพลงอื่นๆ ในงานชุดนี้แล้ว เหมือนจะเป็นเพลงที่อ่อนด้อยกว่าใครเขา และคลี่คลายเป็นงานในทางป็อป-แดนซ์ แบบไคลีที่คุ้นๆ กันดี แต่ในแง่ของการเป็นเพลงเชื่อมอารมณ์จากเพลงช้าๆ “Radio On” มาหาเพลงสนุกๆ ในช่วงท้ายของอัลบัม “Raining Glitter” ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดมากนัก โดยเฉพาะกับการที่เพลงนี้ ไม่ต่างไปจากการกลับไปหาตัวตนที่คุ้นเคยของเจ้าของงานเอง ซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์จัดเต็มมากขึ้น ขณะที่สำเนียงของดนตรีคันทรีที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ก็แทบไม่มีให้รู้สึกด้วยซ้ำไป

มาถึงเพลงสุดท้าย “Music’s Too Sad Without You” ที่ได้แจ็ค ซาโวร็อตติ มาร่วมงาน ก็ไม่ต่างไปจากการส่งคนดูกลับบ้านในงานคอนเสิร์ท กับเพลงช้าๆ ดนตรีนวลๆ ละเอียด และเล่นใหญ่ ที่ให้อารมณ์แบบงานเพลงกล่อมเด็กกลายๆ ถือว่าเป็นการปิดท้ายอัลบัมได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่นับเพลงแถมสำหรับอัลบัมในแบบดีลักซ์ ที่จะให้เพลงเพิ่มมาอีก 4 เพลง ซึ่งจะว่าไปแล้วดนตรีไปในทางของไคลีอย่างที่เราๆ รู้จักกันดีอยู่แล้ว

ในภาคของดนตรี Golden ทำได้ดี ดึงหู ฟังเพลิน การผสมผสานดนตรีจากสองขั้วดำเนินไปได้ด้วยดี นอกจากจะสร้างความเฉพาะตัวให้กับอัลบัมแล้ว ยังเป็นเสน่ห์ของเพลงที่ต่างส่งเสริมกันและกัน ที่สำคัญฟังแล้วรู้สึก “อิ่ม” พอดีแทบทุกเพลง

เหลือบมาดูเรื่องราวในอัลบัม แม้จะยังคงมีเพลงรักที่มีทั้งสมหวังและผิดหวัง เพลงที่ชักชวนคนฟังไปสนุกด้วยกัน หรือเพลงที่ว่าด้วยการจากลาและจากไป แต่ก็มาพร้อมกับมุมมองที่เติบโตขึ้นของเจ้าของงาน ที่จะให้มานั่งฟูมฟาย หรือเป็นไปแบบคิขุ อย่างสมัยที่ยังเป็นสาวสวยวัยแรกแย้มก็ยังไงๆ อยู่ เช่นที่บอกไว้ใน “Golden” ที่เป็นเพลงสำหรับคนวัยทองตามความหมายตรงๆ ของชื่อเพลงกันนั่นเลย, “A Lifetime to Repair” ก็คือการทบทวนถึงความรักที่ล้มเหลวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มองย้อนถึงความผิดหวังด้วยรอยยิ้ม รวมไปถึงการจัดการกับเศร้าเมื่อคนรักจากไป ด้วยการจมตัวเองอยู่กับเพลงจากสถานีวิทยุ ที่มีทั้งอึกทึก ทั้งเริงร่า ทั้งรุกเร้า ทำให้ลืมความเจ็บช้ำที่เกิดขึ้นไปได้บ้าง ในเพลง Radio On

ถือได้ว่างานนี้เพลงและศิลปินนั้นต่างโตไปด้วยกัน

หลังคั่นด้วยอัลบัมคริสท์มาส ไคลีมาด้วยงานชุดใหม่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนฟัง ที่ไม่ใช่แค่ดนตรีเท่านั้นที่ทำได้ดี หากกับเนื้อหา เรื่องราว ก็เยี่ยมพอๆ กัน หากลองให้เวลาสัมผัสกับมันดูบ้างก็จะรู้ได้ไม่ยาก

และทำให้ Golden ไม่ได้หมายความถึงวัยทองเพียงเท่านั้น มองกันในอีกมุม ว่ากันที่ผลลัพธ์ของงาน นี่ก็คืออัลบัม “ทอง” ของไคลีได้เหมือนกัน

โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

 

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:Music Review

Comments are closed.