FEATURESMusic Featuresวันนี้ ในโลกดนตรี

วันนี้ในโลกดนตรี 16 มีนาคม

1954: วันเกิดของแนนซี วิลสัน นักดนตรี, นักร้อง, นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน หนึ่งในสมาชิกของวง Heart

แนนซีกับฮาร์ต มีเพลง “These Dreams” เป็นเพลงอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1986 และมีเพลง “Alone” เป็นเพลงอันดับ 1 ในสหรัฐฯ และอันดับ 3 ในอังกฤษ ปี 1987


1959: วงดู-ว็อป – The Platters มีเพลงขึ้นอันดับ 1 บนเกาะอังกฤษเป็นเพลงแรก และเป็นเพลงเดียวของพวกเขา จากเพลง “Smoke Gets In Your Eyes” ที่ยังเป็นเพลงอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

เพลงนี้จริง ๆ แล้วเป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อการแสดง โดยนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เจโรม เคิร์น และเขียนเนื้อร้องโดย อ็อตโท ฮาร์บัค ใช้กับละครเพลงเรื่อง ‘Roberta’ เมื่อปี 1933 โดยพอล ไวต์แมน เป็นนักร้องคนแรกที่นำเพลงนี้มาบันทึกเสียงในปี 1934

1968: เพลง “(Sittin’ On) The Dock Of The Bay” ของโอทิส เรดดิง ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงฮิตของสหรัฐอเมริกา กลายเป็นเพลงแรกในประวัติศาสตร์ ที่ขึ้นอันดับยอดสุดของชาร์ตหลังการเสียชีวิตของศิลปิน โดยเรดดิงจากไปด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1967 เพลงนี้แต่งขึ้นและบันทึกเสียงก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิตไม่นาน

เรดดิงนั่งอยู่ที่ ท่าเทียบเรือของอ่าวซาน ฟรานซิสโกจริง ๆ ตอนที่เขาคิดเนื้อร้องที่ว่า “I watch the ships come in and I watch them roll away again” ขึ้นมาได้ จากนั้นก็เอาไอเดียที่มีไปเสนอสตีฟ คร็อปเปอร์ โปรดิวเซอร์ของค่ายเพลง สแต็กซ์​ เรคอร์ดส์ ที่ร่วมแต่งเนื้อร้องที่เหลือกับเรดดิง โดยคร็อปเปอร์ทำให้เพลงนี้เป็นเรื่องชีวิตของเรดดิง เขามาจากเมืองเล็ก ๆ ในจอร์เจีย แล้วกลายมาเป็นศิลปินนำในงานฟิลล์มอร์ เวสต์ ที่โด่งดังในซาน ฟรานซิสโก “I left my home in Georgia, headed for the ‘Frisco bay” เนื้อร้องว่าเอาไว้ คร็อปเปอร์ยังเป็นมือกีตาร์ให้กับวง Booker T. & the MG’s ซึ่งเป็นวงประจำค่ายของสแต็กซ์ ที่เล่นแบ็คอัปในเพลงนี้ให้เรดดิง

เรดดิงเจ้าของฉายา ราชาแห่งเพลงโซล กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของสังกัด และพร้อมที่จะบินสูงต่อไปอีก ตอนจากไปที่ด้วยวัยเพียง 26 ปี คร็อปเปอร์ที่รู้ข่าวการเสียชีวิตของเรดดิง ระหว่างออกทัวร์กับบุกเกอร์ ที. แอนด์ เดอะ เอ็มจี’ส ตัดสินใจกลับเข้าสตูดิโอ มิกซ์เพลงนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่ร่างของเรดดิงจะถูกพบ และปล่อยออกวางจำหน่ายในวันที่ 8 มกราคม 1968

“(Sittin’ On) The Dock Of The Bay” กลายเป็นเพลงอันดับ 1 ในชาร์ต ฮ็อต 100 เพลงเดียวของเรดดิง โดยอยู่ในอันดับ 1 ถึง 5 สัปดาห์ และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ นี่คือเพลงอาร์แอนด์บี อันดับ 1 เพลงเดียวของเขา ในงานประกาศรางวัลแกรมมี 1969 “(Sittin’ On) The Dock Of The Bay” ก็คว้ามาได้ถึง 2 รางวัล

ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่สงบ และเกิดสงครามเวียตนาม เพลงนี้กลายเป็นงานที่เปรียบได้กับแหล่งน้ำกลางทะเลทรายอันแสนสงบในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยปัญหา เป็นเพลงที่เข้าถึงจิตใจ และเป็นงานที่ผ่อนคลายสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยการที่เรดดิงนั่งอยู่พร้อมกับความคิดคำนึง ที่ปิดกั้นไม่ให้เรื่องราวในโลกกว้างเข้ามาวุ่นวาย

ตอนใกล้ ๆ จะจบเพลง ที่เรดดิงไม่ได้ร้องอะไรออกมาและผิวปากแทน จริง ๆ แล้วแผนเดิมก็คือ ใส่เนื้อร้องเข้ามาแต่เขาเสียชีวิตก่อนที่จะได้แต่งให้เรียบร้อย

1970: แทมมี เทอร์เรลล์ จากไปด้วยวัยเพียง 24 ปี เนื่องจากอาการแทรกซ้อนจากมะเร็งสมอง แม้จะมีช่วงชีวิตที่แสนสั้น แต่เทอร์เรลล์ก็ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องระดับแถวหน้าของโมทาวน์ เรคอร์ดส์ ในช่วงยุค 1960s

ชื่อจริง ๆ ของเทอร์เรลล์ คือ โธมาซินา วินิเฟร็ด มอนต์โกเมอรี่ เกิดที่ฟิลาเดลเฟีย โดยเริ่มทำงานเป็นนักร้องตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยใช้ชื่อในการทำงานว่า แทมมี มอนต์โกเมอรี ให้กับ ค่ายเพลงเดอะ แวนด์, ทราย มี และเช็คเกอร์ แล้วก็เป็นนักร้องแบ็คอัปให้กับเจมส์ บราวน์ แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเดี่ยวจากเพลงดัง ๆ 2-3 เพลง แต่งานที่ทำให้เธอโด่งดังก็คือเพลงที่ร้องคู่กับมาร์วิน เกย์ ที่ทั้งคู่ร้องเพลงร่วมกันตั้งแต่ปี 1967 โดยเฉพาะ 2 เพลงอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงอาร์แอนด์บีของสหรัฐอเมริกาในปี 1968 “Ain’t Nothing Like The Real Thing” และ “You’re All I Need To Get By” รวมถึงเพลงที่ติดท็อป 40 อยู่นาน อย่าง “Ain’t No Mountain High Enough” และ “Your Precious Love” เพลงฮิตอันดับ 5 เมื่อปี 1967 ในสหรัฐอเมริกา

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 1967 เทอร์เรลล์ล้มบนเวทีเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของมาร์วิน เกย์ ระหว่างแสดงคอนเสิร์ตที่แฮมป์ทัน, เวอร์จิเนีย และหลังการจากไปของเทอร์เรลล์ เกย์แสดงปฏิกริยาออกมา ด้วยการหยุดเล่นคอนเสิร์ตนานถึง 4 ปี และปลีกตัวออกจากสังคม

เทอร์เรลล์เข้ารับการผ่าตัดถึง 8 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้าที่จะพ่ายแพ้ต่ออาการป่วย

1991: เอ็ดดี แวน เฮเลน และภรรยาวาเลอรี เบอร์ติเนลลี ให้กำเนิดลูกชาย โวล์ฟกัง แวน เฮเลน ที่กลายมาเป็นมือเบสของ Van Halen ในเวลาต่อมา

2015: แซม สมิธขวางมาดอนนาไม่ให้มีอัลบัมอันดับ 1 บนเกาะอังกฤษชุดที่ 12 ในการทำงานได้สำเร็จ

โดยอัลบัมชุดล่าสุดของมาดอนนา ‘Rebel Heart’ มีโอกาสอย่างมากที่จะขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตตลอดสัปดาห์ แต่แล้วอัลบัมชุด ‘In the The Lonely Hour’ ของสมิธ ก็ดอดมาแซงที่ 1 ได้ในนาทีสุดท้าย ด้วยยอดขายที่มากกว่า ‘Rebel Heart’ แค่ 12,000 หน่วย

ท้ายที่สุด ‘In The Lonely Hour’ สามารถครองอันดับ 1 ได้ถึง 6 สัปดาห์ แบบไม่ติดต่อกัน ซึ่งถือว่าเป็นสถิติสูงสุดสำหรับศิลปินเดี่ยวชาย

เป็นกำลังใจให้เราด้วยการสนับสนุนได้ที่ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนคำขอบคุณ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.