FEATURESMusic Featuresวันนี้ ในโลกดนตรี

วันนี้ในโลกดนตรี 4 ตุลาคม

วันนี้อีกหนึ่งตำนานแห่งวงการเพลงจากไปก่อนวัยอันควร วันที่ Queen สร้างเซอร์ไพรส์ในวงการดนตรี มือคีย์บอร์ดส์ของวงดูโออมตะถือกำเนิด และวันที่หนังเพลงซึ่งอยู่ในใจหลาย ๆ คนออกฉาย

1959: วันเกิดของคริส โลว์ มือคีย์บอร์ดส์ ของ Pet Shop Boys เจ้าของเพลงฮิตอันดับ 1 ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1986 “West End Girls”

เพ็ตช็อปบอยส์ ยังมีเพลงอันดับ 1 ในอังกฤษอีกสามเพลง และเพลงติดท็อป 40 ของอังกฤษมากถึงกว่า 20 เพลง


1970: เจนิส จอปลิน เสียชีวิตจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด ในห้องพักของเธอที่โรงแรม แลนด์มาร์ก ในฮอลลีวูด, แคลิฟอร์เนีย ด้วยวัย 27 ปี โดยเธอกำลังบันทึกเสียงอัลบัม ‘Pearl’ งานชุดที่สองของตัวเอง

จอปลินได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในร็อคสตาร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงเวลาของเธอ มีซิงเกิลถึง 5 เพลงที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งก็รวมถึงเพลงคัฟเวอร์ “Me and Bobby McGee” เพลงฮิต ๆ ของเธอยังมีงานที่เธอคัฟเวอร์เพลง “Piece of My Heart”, “Cry Baby”, “Down on Me”, “Ball ‘n’ Chain” และ “Summertime” รวมถึงเพลงของเธอเอง “Mercedes Benz”

จอห์น คุก ผู้จัดการทัวร์ของจอปลินออกตามหาเธอ หลังจอปลินไม่ไปบันทึกเสียงตามที่กำหนดไว้ เมื่อเรียกเธอที่หน้าห้องแล้วไม่มีเสียงตอบรับ เขาเลยขอกุญแจจากทางโรงแรมเพื่อเปิดประตู และเมื่อเข้าไปก็พบร่างไร้ลมหายใจของจอปลิน

จอปลินต่อสู้กับการติดเฮโรอีน และดูเหมือนว่าเธอจะเอาชนะมันได้สำเร็จ แต่ระหว่างการบันทึกเสียงอัลบัม ‘Pearl’ เธอเริ่มกลับมาใช้มันอีกครั้ง โดยเป็นปริมาณไม่มากนัก เพื่อที่จะสามารถทำงานบันทึกเสียงได้ การทำงานเป็นไปด้วยดีและเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อทีมนักดนตรีของจอปลิน the Full Tilt Boogie Band บันทึกเสียงดนตรีเพลงสุดท้าย “Buried Alive In The Blues” จบ จอปลินได้ยินแล้วชอบมาก เธอวางแผนจะกลับมาบันทึกเสียงในวันรุ่งขึ้น ตอนเวลา 5 ทุ่มของวันที่ 3 ตุลาคม จอปลินกับวงทานอาหารและดื่มร่วมกันไม่กี่แก้ว ที่บาร์นีย์ส บีเนรี (Barney’s Beanery) และอีกราว ๆ ชั่วโมงหนึ่งหรือมากกว่านั้นเพียงเล็กน้อย เธอก็กลับไปที่โรงแรม แลนด์มาร์ก ที่พักของเธอ

ปกติแล้วจอปลินเป็นคนที่ทำงานตรงเวลา เมื่อเธอไม่มาที่ห้องอัดตามนัดในวันที่ 4 ตุลาคม โพรดิวเซอร์ พอล ร็อธไชลด์ แล้วโทรหาคุก ที่เข้าไปในห้องของเธอราว ๆ 2 ทุ่ม โดยเวลาในการเสียชีวิตของจอปลินอยู่ที่ประมาณตี 1 กับ 40 นาที จากการใช้เฮโรอีนที่เธอซื้อมาจากคนขายแถว ๆ นั้น ซึ่งเกือบ ๆ จะเป็นเฮโรอีนบริสุทธิ ที่มีความแรงมากกว่าเฮโรอีนที่เธอเคยเสพถึง 10 เท่า

การเสียชีวิตของจอปลิน กลายเป็นโศกนาฏกรรมในวงการเพลงร่วมกับ การจากไปของจิมิ เฮนดริกซ์ ที่เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดแค่ 16 วันก่อน ขณะที่จิม มอร์ริสัน ก็เจอชะตากรรมคล้ายคลึงกันในเดือนกรกฎาคม 1971 โดยทั้งสามคนจากไปด้วยวัย 27 ปี

อัลบัม ‘Pearl’ ออกวางจำหน่ายในวันที่ 11 มกราคม 1971 (บางข้อมูลบอกว่าเป็นวันที่ 12) เพลง “Buried Alive In The Blues” กลายเป็นเพลงบรรเลงในอัลบัม ส่วน “Mercedes Benz” ที่เธอบันทึกเสียงเอาไว้ในคืนสุดท้าย ที่เธอมีชีวิตอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นเพลงอะแค็พเพลาก็ถูกใส่เข้ามาด้วย

งานชุดนี้ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับซิงเกิล “Me And Bobby McGee”


1980: เพลง “Another One Bites the Dust” ของ Queen ขึ้นอันดับ 1 เป็นสัปดาห์แรกจากทั้งหมด 3 สัปดาห์ในสหรัฐอเมริกา

ถึงช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่กระแสความนิยมของเพลงดิสโกถดถอยลงเรื่อย ๆ แต่เพลงแรกที่ควีนทำออกมาเป็นงานในแนวทางนี้ กลับประสบความสำเร็จมหาศาล

1996: หนังเพลง ‘That Thing You Do!’ ที่เขียนบท/ กำกับ และนำแสดงโดยทอม แฮงก์ส ออกฉายในสหรัฐอเมริกา โดยแฮงก์สรับบทเป็นผู้จัดการของวงดนตรีจากยุค ‘60s ที่แต่งขึ้นมา The Wonders และเพลงชื่อเดียวกันกับหนัง แต่งโดย อดัม ชเลซิงเกอร์ มือเบสของวง Fountains of Wayne

ทางบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ จัดประกวดเพื่อหาเพลงที่จะเป็นชื่อหนัง และชเลซิงเกอร์ก็ส่งเพลงเข้าประกวด โดยไม่คิดว่าเขาจะกลายเป็นผู้ชนะ จากเพลงทั้งหมดราว ๆ 300 เพลง “ผมแค่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน” เขากล่าวกับเว็บ Songfacts “ผมมีสัญญากับบริษัทเผยแพร่เพลงในฐานะนักแต่งเพลงอยู่แล้ว และพวกเขาก็บอกผมถึงหนังเรื่องนี้ ว่า ทางสตูดิโอกำลังมองหาเพลงที่มีซาวนด์คล้าย ๆ The Beatles ในยุคแรก ๆ และบริษัทก็รู้ว่านั่นเป็นยุคดนตรีที่ผมชอบมาก ๆ เลยยุให้ผมฉวยโอกาสนี้ไว้ และผมโชคดีมาก ที่พวกเขาเลือกเพลงของผม”

ถึงแม้ว่าเสียงดนตรีในหนังจะเป็นการเล่นของนักดนตรีอาชีพแล้วบันทึกเสียงทับ บรรดานักแสดงที่รับบทสมาชิกของเดอะ วันเดอร์ส ก็มารวมตัวกันทุกวัน ทำตัวเป็นวงดนตรี ศึกษาเพลงต่าง ๆ และสร้างเคมีระหว่างกันและกันให้เกิดขึ้น หลังต้องฝึกต้องหัดเล่นอยู่นานหลายเดือน พวกเขาเริ่มเกลียดเพลงที่เป็นชื่อหนังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทอม เอฟเวอเร็ตต์ สก็อตต์ ที่เล่นเป็นกาย มือกลองของวง เล่าว่า “มันไปถึงจุดที่ว่า ผมสามารถชกหน้าใครสักคนได้โดยไม่คิดอะไร ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือทีมงาน ที่ฮัมเพลงนี้ขึ้นมาในกองถ่าย”

เพลง “That Thing You Do!” ไม่ได้ประสบความสำเร็จแค่ในเรื่องแต่ง เมื่อตัวเพลงไปได้ดีในชาร์ตเพลง โดยขึ้นถึงอันดับ 41 ในชาร์ต Billboard Hot 100 และ 22 ในชาร์ตเพลง Adult Contemporary รวมถึงยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เพลงดั้งเดิมยอดเยี่ยม แต่พ่ายให้กับ “You Must Love Me” จากหนัง ‘Evita’

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.