อุ่นเครื่อง Interstellar คริสโตเฟอร์ โนแลนเผยหนังที่มีอิทธิพลต่องานชิ้นล่าสุด

ขณะที่วันฉายของ Interstellar ใกล้เข้ามา ข่าวคราวต่างๆ เกี่ยวกับหนังก็มากขึ้นเรื่อยๆ บรรดาคอหนังก็เริ่มพูดถึงความเกี่ยวพันของหนังเรื่องนี้ กับงานไซ-ไฟชั้นเยี่ยมในอดีต ที่น่าสนใจก็คือ ตัวผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลนวางงานชิ้นนี้ของตัวเองอยู่ตรงไหน ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุด โนแลนก็มีลูกเล่นตีโค้งนิดหน่อยด้วยการไปพูดถึงหนังที่เป็นแรงบันดาลใจให้งานชิ้นนี้ของเขา 

“มันไม่ใช่งานแอ็คชันแบบตรงๆ และก็ไม่ใช่งานระทึกขวัญแบบแท้ๆ ด้วย” โนแลน พูดถึงโทนของหนัง “ผมอยากทำมันให้เหมือนหนังฟอร์มยักษ์ๆ ที่โตมาด้วยตั้งแต่เด็ก ส่วนใหญ่จะเป็นงานของสปีลเบิร์ก ผมไม่อยากพูดถึงสปีลเบิร์กบ่อยๆ เพราะเขาเคยเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ก่อนหน้าผม และผมไม่อยากกลับไปคุยถึงเรื่องนั้น แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือ มีจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ในหนังเหมือน Close Encounters Of The Third Kind และ Jaws ซึ่งผมพยายามเก็บมันเอาไว้ให้ได้ เพราะไม่เคยเห็นสิ่งนี้ในหนังมานานแล้ว” 

“ผมเข้าใจว่า เจ.เจ. เอบรามส์ ก็แสดงความยกย่องสิ่งนี้เอาไว้ใน Super 8 ด้วย แต่มันเป็นการยกย่องที่ตรงไปตรงมา ชัดเจนมากๆ เราพยายามทำ หนังอะไรแบบนั้นจะเป็นยังไงในยุคนี้? ไม่ใช่เป็นหนังย้อนยุคอย่างเจ.เจ. ทำ แต่เป็นเหตุการณ์ในยุคนี้ มันเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ” โนแลน เสริม “เมื่อคุณบอกว่า คุณกำลังทำหนังครอบครัว พวกคำหยาบทั้งหลายต้องเป็นคำที่มีเพียงนัยยะ ต้องนุ่มนวลลงด้วยการทำอะไรบางอย่าง แต่ตอนที่ผมยังเป็นเด็กๆ มีหนังครอบครัวพวกนี้ที่อยู่ในความรู้สึกดีๆ พวกมันเป็นงานที่มีความท้าทาย, แหลมคม และดูล้ำ มีสิ่งต่างๆ ในแบบที่หนังฟอร์มยักษ์มี ผมอยากนำสิ่งเหล่านั้นกลับมา” 

มันเป็นความท้าทาย สำหรับความพยายาม และการทำหนังครอบครัว ในยุคที่คำๆ นี้โดยทั่วๆ ไปแล้ว หมายถึงหนังแอนิเมชัน หรือหนังที่ตั้งเป้าไว้เพื่อที่จะขายของเล่นหรือสินค้า นอกจากนี้ โนแลนก็ตระหนักดีว่า การสนทนาถึงหนัง Interstellar คงไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าไม่มีหนังคลาสสิคของสแตนลีย์ คูบริค 

“คุณไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่า 2001 ไม่เคยมีได้หรอก เมื่อคุณทำหนังอย่าง Interstellar” โนแลน ยอมรับ “แต่หนังเรื่องอื่นๆ ที่ผมต้องพูดถึงด้วยก็คือ The Right Stuff ผมฉายมันให้กับทีมงานดู ก่อนที่เราจะเริ่มถ่ายทำกัน เพราะมันคือหนังที่ไม่ใช่แค่หนังที่คนได้ชมบนจอภาพยนตร์ แต่มันเป็นหนังที่สร้างได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ นี่คือหนังในหนังอเมริกันชั้นเยี่ยม และผู้คนไม่เคยรู้สึกเลยว่ามันเยี่ยมยอดขนาดไหน บางทีคงเป็นเพราะว่ามันยาวตั้ง 4 ชั่วโมง!!!” และโนแลนก็รู้ซึ้งถึงความยาวระดับมหากพาย์ เมื่อ Interstellar กลายเป็นหนังที่ยาวที่สุดของเขา ด้วยเวลาฉายเกือบๆ 3 ชั่วโมง 

ที่เหลือนอกจากนี้ก็คือ การได้สัมผัสกับตาตัวเองบนจอภาพยนตร์ และนี่คือ สปอตโทรทัศน์ 4 ชิ้น 4 แบบของหนังที่เอามาให้ชมกันทิ้งท้าย

กด Like เพจสะเด่าส์ได้ง่ายๆ ที่นี่

แปล/ เรียบเรียง จาก blogs.indiewire.com