เรื่องแฮ็คๆ บนเว็บยูทูบ

เมื่อ 9 เมษายน ไล่ๆ กับที่ Facebook ขึ้นให้การเรื่องถูกล้วงตับจากแอพพ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อดึงข้อมูลไปใช้ประโยชน์ เว็บไซต์สตรีมมิงวิดีโอ Youtube ก็เจอเล่นด้วยเหมือนกัน เมื่อมิวสิค วิดีโอเพลง “Despacito” ของ Luis Fonsi จู่ๆ ก็หายไปจากเว็บ หลังจากทำยอดผู้ชมถึง 5 พันล้านวิวได้ไม่นาน โดยเป็นฝีมือแฮ็คเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Prosox กับ Kuroi’sh ที่นอกจากจะขึ้นรูปคนใส่หน้ากากเล็งปืนมายังกล้อง ที่เป็นภาพจากซีรีส์เรื่อง “Casa de Papel” แล้ว (ตามภาพประกอบ) ยังมีคำว่า ‘Free Palestine’ ใส่ไว้ใต้ภาพอีกด้วย โดยคลิปที่ได้รับผลกระทบจะเป็น คลิปของ Vevo ผู้ให้บริการสตรีมมิงมิวสิค วิดีโอที่ผูกตัวเองกับยูทูบ เช่น คลิปของ Selena Gomez, Shakira, Taylor Swift แล้วก็ Drake

สำหรับเพลง ‘Despacito’ ปล่อยออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2017 และประสบความสำเร็จมหาศาล ทำสถิติมากมาย อย่าง เป็นซิงเกิลอันดับ 1 นานที่สุดในอเมริกา ซึ่งกินเวลาติดต่อกันถึง 16 สัปดาห์ ส่วนมิวสิิค วิดีโอก็กลายเป็นเพลงที่ถูกคลิกชมมากที่สุดในโลกด้วยยอด 4.6 พันล้านครั้ง และเพลงในฉบับรีมิกซ์ที่ร้องโดย Justin Bieber ก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

งานนี้ทางวีโว ออกแถลงการณ์มาว่า “วีโวยืนยันว่า วิดีโอจำนวนหนึ่งที่มีในระบบ มีช่องโหว่เรื่องการรักษาความปลอดภัย ซึ่งกำลังได้รับการแก้ไข ทางเรากำลังนำเอาวิดีโอที่ได้รับผลกระทบกลับมาเข้าระบบเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ และจะทำการสืบสวนที่มาของเรื่องนี้ต่อไป”

ส่วนโฆษกของทางยูทูบ ได้บอกว่า “หลังจากได้เห็นการอัพโหลดที่ผิดปกติจำนวนหนึ่งผ่านช่องทางของวีโว เราก็เร่งทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อจะให้การเข้าถึงต่างๆ ทำไม่ได้ ซึ่งจะมีการสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป” โดยทางยูทูบเผยอีกว่าแฮ็คเกอร์แทรกซึมผ่านมาทางชื่อผู้ใช้บริการของวีโว มากกว่าจะมุ่งโจมตีตัวแพลตฟอร์มของยูทูบ

โดยผู้สังเกตการณ์บางราย ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ชื่อบัญชีผู้ใช้บริการของวีโวที่เป็นองค์กรบางราย อาจจะให้พนักงานหลายคนดูแล และไม่ได้มีการตั้งระบบรักษาความปลอดภัยแบบสองชั้น เพื่อที่จะได้เข้าใช้งานได้ง่ายขึ้นและจากหลายๆ แห่ง ถึงแม้จะไม่ใช่เพราะไม่มีการตั้งระบบรักษาความปลอดภัยแบบสองชั้น หรือมีการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพ ในอีกทางหนึ่งการทำเว็บไซท์ปลอมเพื่อหลอกดึงข้อมูลมาก่อนที่เรียกว่า Fishing ดูเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ ในการเจาะถึงข้อมูลของชื่อบัญชีผู้ใช้วีโว, ยูทูบ ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ

“ถ้าคุณมองเศรษฐกิจเป็นหลัก หากมีคนเจาะเข้าไปในแพลตฟอร์มของยูทูบได้จริงๆ นั่นละ ถึงจะมีค่าขึ้นมา” Chris Weber ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทรักษาความปลอดภัยและทดสอบการเจาะระบบ Casaba Security กล่าว “การกระทำหนแรกของคุณ อาจจะไม่สามารถสร้างรอยด่างพร้อยให้กับวิดิโอได้ จากนั้นก็หนีไป แต่มันมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วล่ะ และการฟิชิง มันเป็นการโจมตีที่ใช้ทุนต่ำมากๆ”

นั่นหมายความว่า ถ้าแฮ็คเกอร์ลงทุนลงแรงจริงๆ จังๆ เพื่อสวมรอยชื่อผู้ใช้บริการ พวกเขาอาจจะมีเวลามากพอสำหรับสร้างความเสียหายได้มากขึ้น เช่น ย้ายเส้นทางการโอนเงินค่าโฆษณาจากยูทูบ ไปที่บัญชีธนาคารของตัวเองแทนที่จะเป็นของวีโว

ยังดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานนัก และช่วงบ่ายๆ วันที่ 10 เมษายน ทางวีโวก็ออกแถลงการณ์มาว่า วิดีโอที่มีผลกระทบทั้งหมดสามารถกลับมาโพสท์ขึ้นบนเว็บไซท์ได้อีกครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีกเพราะทางแฮ็คเกอร์ก็โพสท์ข้อความเป็นนัยๆ ถึงวีโวเอาไว้ด้วยว่า “วีโว คุณได้รับความเคารพอย่างเต็มที่จากผม แต่อย่าทิ้งการควบคุมเว็บไซท์ของคุณให้ผู้พัฒนาที่ไม่ใส่ใจกับชื่อบัญชีผู้ใช้บริการ นี่เป็นการแฮ็คเพื่อความสนุก ถ้าเราอยากคุกคามลูกค้าของคุณ เราคงลบวิดีโอทั้งหมดออกไปแล้ว แต่ผมไม่ได้ลบ ‘Despacito’ คุณต้องเชื่อผม”

โดย นพปฎล พลศิลป์ เรื่อง เรื่องแฮ็คๆ บนเว็บยูทูบ คอลัมน์ ดนตรีมีเหตุ หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ วันที่ 17 เมษายน 2561

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่