VOICENOTES / Charlie Puth
[Warner Music]
เป็นที่รู้จักในวงกว้างจาก “See You Again” เพลงประกอบหนัง Fast & Furious 7 ที่ทำร่วมกับวิซ คาไลฟา ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายในชุดที่พอล วอลเกอร์ถ่ายทำก่อนที่จะจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ดูเหมือนเป็นความสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน เพราะมีแรงส่งมหาศาลอยู่เบื้องหลัง ทั้งจากหนังที่เป็นงานภาคต่อที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งจากเรื่องดรามาที่อยู่เบื้องหลังของหนัง ที่ถูกโยงมาเกี่ยวพันกับเพลง
แต่เมื่อ Nine Track Mind อัลบัมแรกของพุธถูกปล่อยออกมา กับความสำเร็จที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นตัวอัลบัมที่ไปถึงอันดับ 6 ในชาร์ท แล้วก็มีเพลงฮิตถึง 3 เพลง “Marvin Gaye” ที่เขาร้องกับเมแกห์น เทรเนอร์, “One Call Away” และ “We Don’t Talk Anymore” ที่เพลงหลังขึ้นไปถึงอันดับ 9 ในชาร์ทเพลงฮิตบิลล์บอร์ด ความสำเร็จของพุธไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน และทุกอย่างก็ถูกตอกย้ำด้วยงานชุดนี้ อัลบัมที่สองของพุธ Voicenotes ที่เปิดตัวด้วยซิงเกิล “Attention” ซึ่งขึ้นถึงอันดับห้าในชาร์ทเพลงฮิต
ส่วนตัวอัลบัมนั้นก็ไปถึงอันดับที่ 4 บนชาร์ทอัลบัมขายดีของบิลล์บอร์ด
เทียบกันกับอัลบัมแรก Voicenotes มาพร้อมซาวนด์ดนตรีที่ฟังหนักแน่น มีความเข้มข้น มากกว่าที่เคยเป็น และแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของพุธที่มากขึ้น ทั้งในความเป็นนักร้อง และคนทำงานเพลง
อย่างแรก เสียงร้องของเขาฟังดูอิ่ม เต็มมากขึ้น รวมไปถึงมีลูกเล่น และเทคนิคมากกว่าที่เคย และกับการเป็นคนเบื้องหลัง พุธโปรดิวซ์อัลบัมชุดนี้ด้วยตัวเองทั้งชุด และมีส่วนร่วมในการเขียนเพลงทุกเพลง ซึ่งต่างไปจาก Nine Track Mind ที่แม้จะร่วมแต่งเพลงทั้งหมดเหมือนกัน แต่ก็มีโปรดิวเซอร์หลายๆ คนมาช่วยดูแลการทำงาน
หากก็มีอีกอย่างหนึ่งที่งานชุดนี้มีเหมือนๆ กับงานชุดก่อน…
ในแง่ของความเป็นป็อป อัลบัมทั้งสองชุดของพุธเต็มไปด้วยงานเพลงที่ได้ยินแล้วติดหูได้ไม่ยาก มีเพลงให้สัมผัสแบบครบรส ทั้งเพลงสนุก เศร้า หวาน ซาบซึ้ง หรืออบอุ่น และก็เต็มไปด้วยอิทธิพลดนตรีที่หลากหลาย ซึ่งถูกหยิบยกจับใส่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นอาร์แอนด์บี, แดนซ์, ฮิพ-ฮ็อพ ที่ล้วนส่งให้อัลบัมเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีความวูบไหวของดนตรี และอารมณ์เพลง
พูดง่ายๆ ก็คือเป็นอัลบัมที่ฟังเพลิน โดยเฉพาะเมื่อมองไปถึงว่า เพลงป็อปของพุธก็เป็นงานที่เข้าถึงได้ง่าย มีเซนส์ป็อปที่สูงในตัวอยู่แล้ว ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่แต่ละอัลบัมของพุธจะมีเพลงที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลไม่ใช่แค่เพลง-สองเพลงแล้วหาย เช่นที่หลายๆ อัลบัมของหลายๆ ศิลปินเป็น หากมีจำนวนมากกว่านั้นและน่าจะยืนระยะได้ยาวๆ ซึ่งกับ Voicenotes มาถึงตอนนี้พุธปล่อยซิงเกิลมาแล้วถึง 4 เพลงด้วยกัน
นั่นคือข้อดี
แต่กับข้อเสีย เพลงป็อปของพุธไม่ใช่เพลงที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นในเรื่องของพัฒนาการ หรือความก้าวหน้าทางดนตรี ไม่ใช่เพลงที่ฟังแล้วจะรู้สึกว่า เออ… ล้ำว่ะ หรือทำให้หยุดฟังด้วยความทึ่ง แต่เป็นงานป็อปตามเทรนด์ที่ได้ในความลงตัวกับช่วงเวลานั้น
เพลงที่พอทำให้รู้สึกแปลกหูได้บ้าง ก็คงเป็นเพลงที่พุธทำร่วมกับศิลปินอื่นๆ ซึ่งมีแนวทางเฉพาะตัวของพวกเขาใส่เข้ามา อย่าง Boyz II Men ใน “If You Leave Me Now” ที่เป็นงานอะแค็พเพลานวลๆ หู ฟังอบอุ่น ที่เสียงของพุธกับกลุ่มนักร้องขายเสียงกลุ่มนี้กลมกลืนกันจนกลายเป็นเพลงในทางของผู้มาร่วมงานชัดเจน กับ “Change” ซิงเกิลที่สี่ของอัลบัม ซึ่งพุธร่วมงานกับรุ่นใหญ่ เจมส์ เทย์เลอร์ เพลงโฟล์คเพราะๆ ตามสไตล์ของแขกรับเชิญ ที่เสียงของพุธนอกจากจะสามารถจับต้องได้แล้ว ยังรับ-ส่งกับเทย์เลอร์ได้เพลินหู
แสดงให้เห็นความเป็นนักร้องที่หาตัวจับได้ยากของหนุ่มคนนี้ ที่สามารถปรับเสียงร้อง ใช้เทคนิคให้เข้ากับเพลงได้แตกต่างหลากหลายแนว แต่ถึงแม้จะทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะไปในทางดนตรีแบบไหน ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ตัวตนของศิลปินพร่าเลือนไปเหมือนกัน
แต่ในความเป็นป็อป มันก็ระบุได้ไม่ง่ายเช่นกันว่า เพลงแบบไหนนั้นที่มันป็อป
ป็อปคือเพลงที่เป็นที่นิยม ไม่จำกัดอิทธิพลหรือแนวทาง ซึ่งเพลงของพุธนั้นก็คือป็อป แถมจะโคตรป็อปด้วยซ้ำก็ยังได้
เอาเป็นว่า มองกันง่ายๆ อย่างน้อย พุธก็มีเสียงร้องที่ดีงาม กับความสามารถทางดนตรีที่ไม่ขี้เหร่แน่ๆ เป็นอาวุธ ที่สามารถใช้ต่อสู้ฟาดฟันไปได้อีกนานเลยทีเดียวแหละ
โดย นพปฎล พลศิลป์ คอลัมน์ วิจารณ์-แนะนำ นิตยสารสีสัน
ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่