MAMA มาม่า ผีหวงลูก
เข้าฉาย: 7 กุมภาพันธ์ 2556
“ผีเป็นเหมือนรากแท้ของคนเรา ถ้าคุณปล่อยให้บุคลิกทั้งหมดแห้งเหือดไปกับแสงอาทิตย์ สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีแค่เพียงซากของอารมณ์หนึ่งเดียวเท่านั้น”: กิลแลร์โม่ เดล โทโร
กิลแลร์โม่ เดล โทโร เจ้าของผลงานอย่าง Pan’s Labyrinth, Hellboy ขอนำเสนอ Mama หนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติ ที่บอกเล่าเรื่องราวสุดสยองของเด็กหญิงสองคนที่หายตัวไปในป่า ในวันที่พ่อแม่พวกเธอถูกฆ่าตาย อีกห้าปีต่อมา พวกเธอได้รับการช่วยเหลือออกจากป่า และพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับอาและแฟนสาว พวกเธอก็ได้พบว่ามีใครซักคนหรือบางสิ่งบางอย่างตามมาส่งพวกเธอเข้านอน
ห้าปีก่อน สองพี่น้อง วิคตอเรีย (เมแกน ชาร์เพนเทียร์จาก Red Riding Hood) และลิลลี่ (อิซาเบล เนลิส จาก Mirador) หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากย่านชานเมืองที่พวกเธออาศัยอยู่ นับตั้งแต่นั้นมาอาลูคัส (นิโคลัจ คอสเตอร์-วัลเดาจาก Game of Thrones) และแฟนสาวของเขา แอนนาเบล (เจสสิก้า แชสเทน) พยายามให้คนตามหาตัวพวกเธอ ในที่สุดก็พบเด็กๆ มีชีวิตอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง และทั้งคู่ก็รับเอาเด้กทั้งสองเข้ามาดูแล
ขณะที่แอนนาเบลพยายามให้เด็กๆ มีชีวิตตามปกติ เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามีสิ่งชั่วร้ายอยู่ในบ้านของพวกเขา พี่น้องคู่นี้เครียดจากเหตุสะเทือนใจที่พบเจอมา หรือมีผีมาเยี่ยมพวกเธอกันแน่? แล้วเด็กหญิงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้คู่นี้รอดชีวิตในช่วงเวลาหลายปีนี้ได้อย่างไร? ขณะที่เธอหาทางตอบคำถามที่น่าสะพรึงเหล่านี้ คุณแม่คนใหม่จะได้พบว่าเสียงกระซิบที่เธอได้ยินเวลานอนนั้นมาจากริมฝีปากของบางสิ่งบางอย่างที่น่าสยดสยอง
Mama เป็นผลงานการกำกับชิ้นแรกของ แอนดี้ มุสชิเอตติ และเขียนบทโดยนีล ครอส (ซีรีส์ Luther) และแอนดี้ มุสชิเอตติ ร่วมด้วยบาร์บารา มุสชิเอตติ (Historias de Dhallywood) ซึ่งมีที่มาจากหนังสั้นของตัวมุสชิเอตติเรื่อง Mamá
หนังสั้นเรื่อง Mama สร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์เมื่อปี 2008 โดยเป็นงานของผู้กำกับโฆษณาระดับโลก แอนดี้ มุสชิเอตติ และพี่สาว-ผู้อำนวยการสร้าง บาร์บารา มุสชิเอตติ
ทั้งคู่ทำหนังเรื่องนี้ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียวในปี 2006 เพื่อทดลองสร้างงานในสไตล์ของตัวเอง และเพื่อพิสูจน์ว่า แอนดี้สามารถสร้างผลงานที่มืดหม่นขึ้นมาได้ นอกเหนือจากงานโฆษณาในเชิงเบาสมองขำขัน ในหนังจะพาไปรู้จักกับเด็กหญิงสองคน วิคตอเรียและลิลลี่ขณะที่พวกเธอติดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งและแสดงอาการกลัวใครหรืออะไรบางอย่าง เราติดตามพวกเธอขณะที่พวกเธอพยายามจะหนีวิญญาณหลอน ที่เรียกกันว่า “มาม่า” พวกเธอหนีจากด้านหนึ่งของบ้านไปสุดที่อีกด้านหนึ่ง…จนกระทั่งพวกเธอพบว่าตัวเองติดอยู่ที่ปลายทางเดินด้านหนึ่ง โดยไม่มีที่ให้หลบซ่อนตัว
พวกเขาใช้เวลาสองปีในการลำดับภาพ และใส่เทคนิคพิเศษเข้าไป เมื่อเสร็จสมบูรณ์ และถูกนำออกฉาย ก็ได้รับความสนใจจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมากมาย และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ กิลแลร์โม่ เดล โทโร มือเขียนบท/ผู้กำกับ/ผู้อำนวยการสร้างมากความสามารถ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เกือบ 20 เรื่อง ซึ่งส่วนมากเป็นฝีมือของผู้กำกับหน้าใหม่ ในแต่ละปีเขาได้ดูหนังสั้นหลายร้อยเรื่อง และพยายามให้กำลังใจผู้กำกับหน้าใหม่ เพื่อผลักดันไปสู่โปรเจ็กต์ที่ใหญ่โตขึ้น บางครั้งเขาก็จะพบสิ่งที่พิเศษสุดจริงๆ ซึ่ง Mama ก็เป็นแบบนี้ด้วยเช่นกัน
“แค่ภายใน 10 วินาทีแรกของหนังสั้นเรื่องนี้ ผมก็เห็นชัดเจนว่าแอนดี้ มุสชิเอตติเข้าใจเรื่องอารมณ์จริงๆ และผมก็ประทับใจมากๆ เขาเป็นของจริงครับ”
สิ่งที่ทำให้เดล โทโรสนใจเป็นพิเศษคือการตัดสินใจของพี่น้องมุสชิเอตติ ที่ให้เด็กหญิงเล็กๆ สองคนมาเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวมากๆ ผู้กำกับชาวเม็กซิกันผู้นี้เชื่อมานานแล้วว่า เด็กๆ เป็นองค์ประกอบสำคัญในเรื่องราวสยองขวัญเพราะ “ต้นกำเนิดของเรื่องราวสยองขวัญก็มาจากเทพนิยาย ทั้งเทพนิยายกริมส์ ตำนานพื้นบ้านจากยุโรปตะวันออก รัสเซียและแอพพาลาเชีย ต่างก็เต็มไปด้วยความรุนแรงและเรื่องน่ากลัว”
แล้วเรื่องราวสยองขวัญของเด็กๆ จะเป็นอย่างไร หากมีแม่ผู้บ้าคลั่ง เดล โทโรกล่าวเสริมว่า “ผมคิดว่าแม่ที่หวงลูกเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม เพราะทุกคนต่างก็รู้จักคนแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ของคุณเอง แม่ของเพื่อน หรือแม่ในนิยายก็ตาม”
พี่น้องมุสชิเอตติรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความช่วยเหลือจากกิลแลร์โม่ เดล โทโร บาร์บารากล่าวว่า “เขาเป็นครูที่วิเศษสุด ชอบแบ่งปันความรู้กับเรา เราได้เรียนรู้มากมาย ทั้งเรื่องเทคนิค ความคิดสร้างสรรค์และเรื่องของธุรกิจ” และ “ความเห็นที่เขาบอกกับพวกเรามีค่าอย่างมาก และเราก็รู้สึกโชคดีมากที่มีเขาในชีวิตของเรา”
เดล โทโรกับพี่น้องมุสชิเอตติพัฒนาบทภาพยนตร์ขึ้นจากศูนย์ ด้วยการใช้หนังสั้นเรื่องดังกล่าวเป็นบรรยากาศ แล้วค่อยต่อยอดเรื่องตัวละคร พี่น้องมุสชิเอตติได้เขียนบทร่างแรกขึ้นมา แล้วเดล โทโร ก็ “เกลามัน…เพิ่มเรื่องสยองเข้าไป” แต่พวกเขาเห็นเหมือนกันว่า บทต้องมีความสมบูรณ์กว่านี้อีก และงานนั้นก็ตกเป็นของนีล ครอส ที่เดล โทโร บอกว่าเป็น “มือเขียนบทที่ผมชื่นชอบและนับถือ บทร่างของเขาได้รวมทุกอย่างให้กลายเป็นหนังที่เราทำออกมาในทุกวันนี้”
แม้จะเป็นผู้กำกับโฆษณาผู้คร่ำหวอด ผู้ชำนาญศิลปะการเล่าเรื่องภายในเวลาเพียงแค่ 30 วินาที มุสชิเอตติก็ชื่นชอบความมั่นใจและแรงสนับสนุนจากผู้ควบคุมงานสร้างของเขา “กิลแลร์โม่เป็นเหมือนพ่อทูนหัวของเราในหนังเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้น เขาต้องการให้เราทำออกมาดีที่สุด สละเวลาและแบ่งปันความรู้ที่เหลือเชื่อให้กับเรา เรียกร้องในสิ่งที่เหมาะสม กระตือรือร้น และที่สำคัญที่สุด แสดงให้เราเห็นว่า เขาเชื่อเรื่องสัญชาตญาณ
“มีหลายครั้งตอนเรากำลังพัฒนาเรื่อง ที่เราจะมีไอเดียที่แตกต่างกัน และบ่อยครั้งที่เขาจะเตือนให้เรานึกถึงเสมอว่า นี่คือหนังของเรา สัญชาตญาณของเรา และเราควรจะทำตามนั้น คุณคงไม่เจอครูที่ไหนดีกว่าที่เขาเป็นสำหรับเราอีกแล้ว”
เดล โทโรเองกล่าวว่า “ผมคิดว่าแอนดี้มีอนาคตไกลรออยู่ครับ เขาเป็นคนที่นิ่งเงียบอย่างน่าอัศจรรย์และมั่นใจในตัวเอง และผมก็ชื่นชอบที่เขาสู้เพื่อไอเดียของตัวเอง แม้แต่กับผมก็เถอะ!”