Men in Black: International ก็คืองานที่มาสร้างความสดใหม่ให้กับหนังแอ็คชัน ไซ-ไฟ เบาสมอง ว่าด้วยมือปราบมนุษย์ต่างดาว ที่ใหม่ทั้งฝั่งคนดีและฝ่ายคนร้ายจากจักรวาลที่มาให้ฮีโรทั้งหลายต้องจัดการ และนี่คือบรรดาคนสำคัญสำหรับการกลับมาในครั้งนี้
“คนดีใส่ชุดดำ จำเอาไว้” เนื้อร้องประโยคหนึ่งที่ยากจะลืมเลือน ในเพลงแร็พอมตะที่เป็นซิงเกิลผูกติดกับหนังต้นฉบับว่าเอาไว้ แต่อะไรๆ ในวันนี้เปลี่ยนไปจากปี 1997 เยอะ และที่เห็นใน Men in Black: International ก็คือคนที่สวมชุดดำไม่ใช่ผู้ชายเสมอไป เพราะหนนี้มีสาวๆ มานำทีมทำหน้าที่ภาคสนามกับเขาด้วยรู้ไหม? แล้วพวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องสวมชุดสีดำ เพราะเครื่องแบบตามปกติบางทีก็มีสีสันตามแฟชันมากกว่าเดิม แถมพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมีแต่คนดีเสมอไป เพราะดันมีหนอนบ่อนไส้ในองค์กร และฮีโรของเราก็ต้องจัดการหาตัวเพื่อลาก ‘เขา’ หรือ ‘เธอ’ ออกมา
หนังต้นฉบับในปี 1997 สร้างมาจากหนังสือการ์ตูนของมาร์เวล (ที่ตอนนั้นคือ แอร์เซล) ซึ่งมีคนรู้จักน้อยมาก แล้วก็ผสมผสานแนวทางและโทนที่หลากหลายเข้าด้วยกันในอารมณ์เบาสมอง หนังที่วิลล์ สมิธและทอมมี ลี โจนส์ประกบคู่แสดงนำ กลายเป็นงานฮิิตเซอร์ไพรส์ ก่อนที่จะมีภาคต่อตามมาอีกสองเรื่อง ที่ประสบความสำเร็จน้อยลงเรื่อยๆ แต่ Men in Black: International ไม่ใช่งานภาคต่อ และไม่มีเพลงของวิลล์ สมิธมาผูกเป็นซิงเกิลโปรโมทหนังอีกแล้ว แถมแบร์รี ซอนเน็นเฟลด์ ผู้กำกับหนังสามเรื่องแรกก็ฉากหลบไปเรียบร้อย ปล่อยให้เอฟ. แกรี เกรย์ ผู้กำกับหนัง Fast & Furious 8 มารับผิดชอบแทน “มันเป็นเรื่องการหาความสมดุลย์เฉพาะตัว” เกรย์ กล่าว “ระหว่างการเป็นงานไซ-ไฟ, สยองขวัญ, เบาสมอง หรือว่าทุกแนว มันเป็นความท้าทาย”
ดาราใหม่, ผู้กำกับใหม่, พลังใหม่ๆ, ความท้าทายใหม่ ล้วนมีอยู่ในเรื่องราวแบบไซ-ไฟของหนัง แต่ที่ขาดไม่ได้แถมยังเป็นของสำคัญ นั่นก็คือส่วนผสมทางเคมีของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ “หนังพวกนี้จำเป็นต้องมีจินตนาการและเทคนิคพิเศษ” วอลเตอร์ พาร์คส์ ผู้อำนวยการสร้างของหนังชุดนี้ทุกเรื่องบอก “แต่ก็ต้องเข้าถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร แล้วนักแสดงก็ต้องเข้ากันได้ดี”
ขอแสดงความยินดีกับทีมใหม่เอี่ยมอ่องของมือปราบมนุษย์ต่างดาว
– ขาแรง
เขารับบทเป็นเจ้าหน้าที่ เอช ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ชุดดำที่เจ๋งที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ไปๆ มาๆ เขากลับใช้โชคและอัตตา มากกว่าประสบการณ์และความกล้าหาญ นึกถึงฮัน โซโลที่ไม่มีความสามารถเข้าไว้ นั่นละเขา แต่บางทีอาจจะเป็นแค่ครึ่งเดียว “เขามองว่าตัวเองเป็นพวกเกเร” เฮมสเวิร์ธพูดถึงตัวละครที่เล่น ก่อนจะตบท้ายด้วยรอยยิ้ม “ซึ่งฟังดูน่ารังเกียจยังไงไม่รู้” ทุกอย่างที่เขาเรียนรู้เหมือนจะมาจากพี่เลี้ยง ที่เป็นหัวหน้าหน่วยบุรุษชุดดำประจำลอนดอน ที่รับบทโดยเลียม นีสัน
การเลือกเฮมสเวิร์ธมารับบทนี้ ซึ่งเป็นบทแรกของเขาหลังหนัง Endgame เป็นไปด้วยความรอบคอบ และเป็นการสานต่อความพยายามของเขาที่ต้องการลบภาพของซูเปอร์ฮีโรออกไป ลองนึกถึงบทผู้ช่วยจอมเฟอะใน Ghostbusters หรือกระทั่งภาพลักษณ์ชาวแอสการ์เดียนโทรมๆ ใน Endgame ดู “นี่คือคริส” พาร์คส์กล่าว “เขาพยายามรับบทที่ต่อต้านภาพลักษณ์ที่ดูดี และทำได้เยี่ยมมากๆ กับการไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตัวเองเป็น”
แต่ถ้าลองลากเส้นจากตัวเอกในหนังฉบับเก่ามาหาใหม่ คุณอาจพบว่าเอช ก็คือการผสมผสานระหว่างท่าทางแบบคนเก่งแต่ปากแบบเจ้าหน้าที่ เจ ของวิลล์ สมิธ กับคนเปี่ยมประสบการณ์แบบเจ้าหน้าที่ เค ของทอมมี ลี โจนส์ แต่ปราศจากทักษะหรือว่าความห่วงใยคนอื่นๆ เฮมสเวิร์ธรู้ดีว่าเขาต้องชนะใจแฟนหนังรุ่นใหม่ๆ และต้องเอาใจแฟนเก่าให้ได้ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องเลี่ยงๆ อะไรที่เป็นเรื่องความทรงจำจากอดีต “อะไรก็ตามที่เรารู้สึกว่าคุ้นเคย เราจะ…’เอาละ เราจะห่างๆ จากเรื่องพวกนั้น’” เขาเล่า “สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้น สำหรับการเล่นหนังเรื่องนี้ก็คือ โอกาสในการทำสิ่งที่ผมรักและหาทางสร้างอะไรที่คาดไม่ถึง ในรูปลักษณ์ใหม่ๆ ของโลกใบนี้ การเดินตามอะไรแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเกรงขามมากๆ ผมชอบความท้าทายทางความคิดสร้างสรรค์ที่มาพร้อมกับมันนะ”
เพื่อที่จะทำแบบนั้น เฮมสเวิร์ธจะต้องใช้บทเรียนมากมายที่เป็นความท้าทายทางความคิดสร้างสรรค์จาก Thor: Ragnarok หนังซึ่งคล้ายๆ กับ Men in Black: International ตรงที่พยายามสร้างบรรยากาศแบบสบายๆ ในกองถ่าย ด้วยการให้นักแสดงมีอิสระในการด้นสด “ผมเรียนรู้เรื่องนี้จากการทำงานกับไทกา ไวตีติ” เฮมสเวิร์ธเผย “ไม่กลัวที่จะทำอะไรรั่วๆ หรือล้มเหลว แค่พยายามทำ และอย่าไปรู้สึกอะไรกับมันมากนัก อย่าง ‘เอ่อ… อันนั้นสนุกไหม หรืออันนี้สนุกหรือเปล่า?’ ก็แค่ใส่ไปเต็มที่ อะไรคือสิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ละ?”
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ส่งต่อมาจาก Ragnarok ก็คือ… แน่นอนการร่วมทีมกันของเฮมสเวิร์ธกับหนึ่งเดียวคนนี้เทสซา ลีนน์ ธอมป์สัน
– หน้าใหม่
เทสซา ธอมป์สัน เป็นแฟนพันธุ์แท้ Men in Black และเธอก็เล่นเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบุรุษชุดดำ วันก่อนที่ได้เข้าฉากทางเข้าสำนักงานใหญ่ที่แมนฮัทตันอันแสนโด่งดังของบุรุษชุดดำ ห้องโถงซึ่งมีเพดานกว้างใหญ่ และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเพียงคนเดียว แต่เป็นการยกมาสร้างใหม่ในโรงถ่ายที่เฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ ทำให้เธอและตัวละครที่เล่นมีความตื่นเต้นร่วมกัน “มันโคตรเหลือเชื่อเลย!” เธอกล่าว “นั่นเป็นทางเข้าระดับตำนาน แล้วก็มีลิฟท์…. คุณแบบ ‘ว้าว! นี่มันหนัง Men in Black’”
เหมือนๆ กับเฮมสเวิร์ธ ธอมป์สันยังเป็นวัยรุ่นอยู่ตอนที่หนังต้นฉบับออกฉาย และได้เห็นวิลล์ สมิธเดินเข้าไปในห้องโถงที่ดูเหมือนตื้นๆ บนจอใหญ่ แต่ที่ต่างไปจากเจ้าหน้าที่ เจ ของสมิธก็คือ มอลลี ที่กลายเป็นเจ้าหน้าที่ เอ็ม ของธอมป์สัน คือคนหน้าใหม่ที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ในฐานะเด็กสาวคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตต่างดาวเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง และทำให้ลุ่มหลงกับสิ่งมีชีวิตจากโลกอื่น รวมไปถึงบุรุษและสตรีชุดดำที่ควบคุมพวกมัน “เธอตามหาพวกบุรุษชุดดำมานานมาก” ธอมป์สันบอก และท้ายที่สุดเธอก็สมปรารถนาตามที่ต้องการ เธอได้สวมสูทสีดำของตัวเอง “เธอไม่ใช่คนที่ถูก ‘คัดเลือก’ มา เธอเป็นคนที่ดันตัวเองเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่”
จุดเริ่มต้นของเธอก็มีความน่าสนใจ เธอเป็นหนึ่งในมนุษย์ไม่กี่คนที่ล่วงรู้ความลับจักรวาล และมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะเล่าเรื่องราวเล่านี้โดยที่ไม่ถูกลบล้างความทรงจำ แต่การเข้ามาเป็นหนึ่งในทีม ไม่ใช่การเดินทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ “เธอถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นบุรุษชุดดำ” ธอมป์สันอธิบาย “เธอเก่งแล้วก็ฉลาด แต่เรื่องบางอย่างมันก็ต้องมีการเรียนรู้ที่มากขึ้น มีเรื่องการเมืองในนั้น แล้วก็มีพวกอาวุธลึกลับ…” จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ เอช ที่นำไปสู่เรื่องราวคู่หูเบาสมองแบบคลาสสิค เอชกับเอ็ม ที่ไม่ได้เกี่ยวพันกับแบรนด์เสื้อผ้าจากสวีเดน เอชแอนด์เอ็มแต่อย่างใด ทั้งสองคนเหมือนคู่ที่ไม่เข้ากัน มีกระบวนการทำงานที่อยู่กันคนละขั้ว เอชทำตามใจ แต่เอ็มทำตามความคิด แล้วถ้าคาดหวังเรื่องราวปิ๊งปั๊ง มันก็ต้องใช้อะไรเจาะลึกลงไป “ในความเป็นมนุษย์ พวกเขามีพื้นฐานที่แตกต่างกันมากๆ” ธอมป์สันให้ความเห็น “ไม่เหมือนกับหนังต้นฉบับ พวกเขามีอุปสรรคที่ขวางทางมากกว่า ในความเป็นคู่หูนะ ความซับซ้อนที่มากกว่ากลายเป็นเรื่องสนุกที่จะเอามาสร้างอารมณ์ขันให้เกิดขึ้น”
พลังขับเคลื่อนคือศูนย์กลางของความสำเร็จสำหรับหนังแบบนี้ ที่อาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มี Thor: Ragnarok ซึ่งไม่ต่างไปจากเทปออดิชันมูลค่า 180 ล้านเหรียญของ Men in Black: International วอลเตอร์ พาร์คส์ ผู้อำนวยการสร้างเผยด้วยว่า เฮมสเวิร์ธถูกเลือกมาเป็นคนแรก แล้วพอมองหานักแสดงร่วมที่เหมาะสม มันก็ไม่ยากเลยที่จะพบ “หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงออกมาให้เห็นเรียบร้อยแล้วบนจอภาพยนตร์” และการปะทะกันบนจอภาพยนตร์ก็ถูกหนุนส่งด้วยสัมพันธภาพในการทำงานที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นหนังที่เน้นด้นสดแบบนี้
ส่วนผสมทางเคมีทั้งนอกจอและในจอเป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขาสนุกกับการทำงาน และหวังว่ามันจะส่งต่อไปถึงผู้ชมด้วยเช่นกัน “ฉันรู้สึกว่าตัวเองโชคดีได้เล่นหนังกับพี่บึ้ม” เธอบอก มันเป็นการทำงานที่ผ่อนคลายมากๆ ซึ่งเธอเองก็เกือบจะพาตัวเองไปอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการจมอยู่กับบทแบบลอรา เดิร์นเหมือนกัน “ฉันอยากเล่นฉากสตันท์บ้าง แล้วแกรี (ผู้กำกับ) ก็บอกว่า ‘เยี่ยมไปเลย เจ๋งมากๆ คุณพอจะหุบปากได้ไหม?’ เล่นเอาฉันถึงกับเป่าปากออกมาเลย”
– ผู้ช่วย
ถ้าเอช คือเมอร์ทอฟ และเอ็ม คือริกก์ส ในหนังคู่หูตำรวจสุดฮิต Lethal Weapon พอว์นีก็คงเป็นเก็ทซ์ ของโจ เปสซี ผู้ช่วยของสองตัวละครหลัก ที่กลายเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนสำคัญของหนัง “เขาไม่ใส่สูท” คูเมล นานจิอานิ นักแสดงตลกเจ้าของความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว กล่าว เขาคือคนที่ให้เสียงและสวมบทบาทเป็นพอว์นี สิ่งมีชีวิตความสูงแค่ 6 นิ้ว “แต่เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม ทีมของเราสามคนที่กำลังผจญภัยครั้งสำคัญ ด้วยการพยายามไขความลับให้กระจ่าง”
หนังชุดนี้มักจะมีพวกมนุษย์ต่างดาวมาให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการบอกเบาะแสหรือชี้ทางให้กับตัวละคร แต่ไม่มีใครเหมือนพอว์นี เขาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์สุดท้ายที่เดินทางมายังโลก และลงหลักปักฐานสร้างความรุ่งเรืองให้กับตัวเองแถวๆ กระดานหมากรุก อย่างที่ชื่อของเขาบอกเป็นนัยๆ และหนนี้ ไม่ใช่แค่จักรวาลเท่านั้นที่ตกเป็นเดิมพัน กระดานหมากรุกของพอว์นีก็เช่นกัน
นานจิอานี ที่ตอนนี้อาจจะยังไม่คุ้นชื่อกันนัก แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า เราน่าจะได้เห็นเขาใน Eternals หนังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องต่อไป จำได้ดีว่าตัวเองตะลึงพรึงเพริดขนาดไหน กับเกมลูกแก้วจักรวาลในหนัง Men in Black เรื่องแรก แล้วเขาต้องอึ้งยิ่งกว่าเมื่อเอฟ. แกรี เกรย์ เสนอให้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้ตอนเจอกันในงานรอบปฐมทัศน์ของ Black Panther “ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ และคิดว่าคุณเหมาะที่จะเล่นมัน” เขาไม่รู้สึกผิดหวังอะไรเลย ที่รู้ว่าตัวเองได้บทตัวละครมนุษย์ต่างดาวซีจีสูงหกนิ้ว “บอกตรงๆ เลยนะ มันดูเพี้ยนน้อยกว่าได้เห็นตัวเองบนจอด้วยซ้ำ ผมรู้สึกประหลาดๆ มากกว่าถ้าได้เห็นตัวเองบนจอ”
แต่การถ่ายทำตัวละครที่ต้องสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ล้วนๆ ยังคงเป็นกระบวนการประหลาดๆ นานจิอานิต้องอยู่ในกองถ่ายตลอดการถ่ายทำฉากของตัวเอง โดยมีจุดต่างๆ แปะบนหน้า มีกล้องติดอยู่บนหัว บางครั้งก็ต้องเล่นจากตำแหน่งพิลึกๆ เพื่อที่จะให้เข้ากับระดับสายตาของนักแสดงร่วมฉาก “ผมไม่เคยต้องคุดคู้ขนานนี้ในหนังมาก่อน” เขาเล่า “ผมต้องนอนท่าแพลงเต็มๆ อยู่สอง-สามฉาก”
ยังมีอะไรอีกมากมายที่นานจิอานียังไม่เคยเห็น เขาอาจจะสูงเพียงแค่ไม่กี่นิ้ว แต่เชื่อเถอะว่าคุณจะได้เห็น “ฉากแอ็คชันระหว่างคนตัวจิ๋วๆ สองคน” และความช่วยเหลือสำคัญจากปืนขนาดจิ๋วยิ่งกว่า พอว์นีอาจจะเหมือนเก็ทซ์ ตัวละครที่มีความสำคัญมากกว่าที่เราคาดเอาไว้
– เจ้านาย
หนัง Men in Black 3 ไม่ได้เป็นที่จดจำอย่างลึกซึ้งเหมือนหนังต้นฉบับ ถึงแม้จะถูกมองว่ามีการปรับปรุงมากขึ้นจากหนังเรื่องที่สอง แล้วก็เป็นงานที่น่าจดจำมากๆ สำหรับแฟนคนสำคัญ พอล โธมัส แอนเดอร์สัน ผู้กำกับหนังอาร์ตเฮาส์ ที่ถึงกับบอกว่าหนังมัน “โคตรเจ๋ง” แต่หนึ่งในการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับหนังเรื่องนั้นก็คือ การเลือกเอ็มมา ธอมป์สันมารับบทเจ้าหน้าที่ โอ หัวหน้าบุรุษชุดดำประจำนิว ยอร์ค ซึ่งมาทำหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่ซี ของริป ธอร์น และในหนังเรื่องนี้เธอก็กลับมา และเป็นหนึ่งเดียวจากหนังไตรภาคต้นฉบับที่กลับมา ซึ่งถือเป็นเยื่อใยบางๆ ที่ทำให้หนังมีความเกี่ยวพันกับเรื่องราวในยุคของสมิธและโจนส์
ธอมป์สัน “ประหลาดใจและตื่นเต้นมาก” ที่ถูกขอให้มารับบทนี้อีก “ฉันรู้ว่านี่เป็นการเริ่มต้นใหม่แบบยกเครื่องสำหรับหนังชุดนี้” เธอเล่า “ฉันคิดว่าพวกเขาคงเลือกนักแสดงใหม่” แต่พวกเขาไม่ทำ แถมยังไม่มองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นในแมนฮัทตัน เพราะเจ้าของสีผมที่สว่างไสวอย่างโอ คือคนที่ต้อนรับสาวธอมป์สันเหมือนกันที่มารับบทเอ็ม เป็นหนึ่งในทีมบุรุษชุดดำ แม้จะเริ่มต้นด้วยความเย็นชาก็ตามที
“เอ็ม ไม่ใช่คนที่ต้องการอาจารย์” ธอมป์สันกล่าว “และเธอก็คล้ายๆ กับพวกผู้นำในองค์กรใหญ่ๆ โอเป็นพวกมีเล่ห์เหลี่ยม เพราะฉะนั้นคุณไม่มีทางรู้เลยว่าเธอคิดอะไร และเธอไม่จำเป็นต้องสนับสนุนคุณเพียงเพราะคุณเป็นผู้หญิง”
ความลังเล สงสัยแปรเปลี่ยนไปเป็นความนับถือกันและกัน ท้ายที่สุดโอส่งน้องใหม่ไปสืบสวนคดีที่อีกฝั่ง
ในฐานะหนึ่งเดียวที่ผ่านหนังชุดนี้มาแล้ว ธอมป์สันยังรับหน้าที่เป็นอาจารย์นอกจอให้กับนักแสดงและทีมงานอีกด้วย “ไม่จริงเลย ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็แค่ซื้อโดนัทแจกคนอื่นๆ ฉันส่งโดนัทอันหนึ่งให้เทสซา แต่พระเจ้ารู้ดีว่าเธอฟิตและแข็งแรงมากๆ ฉันหมายความว่าเธอนิ่งยังกับมังกร”
– มนุษย์ต่างดาว
สิ่งที่อยู่กับหนัง Men in Black มาทุกเรื่องก็คือ ความคิดที่ว่ามนุษย์ต่างดาวส่วนใหญ่จริงๆ แล้วไม่ใช่ตัวร้าย พวกเขาคือเพื่อนบ้านของเรานี่แหละ แต่มาจากทั่วทุกมุมของจักรวาล พยายามผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หลังเมื่อยล้าจากเดินทางข้ามอวกาศอันยาวไกล หนังเรื่องแรกเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าเป็นการแสดงนัยสองแง่สองง่ามของมนุษย์ต่างดาวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเป็นภาพของรถตู้ที่เต็มไปด้วยชาวเม็กซิกันกำลังข้ามชายแดนเข้ามาในสหรัฐอเมริกา โดยที่หนึ่งในจำนวนนั้นยังเป็นการข้ามเขตแดนของดวงดาว หนังเรื่องนี้จะขยับขยายความคิดนี้ออกไป สร้างแง่มุมประวัติศาสตร์ให้กว้างขวางมากขึ้น รวมไปถึงให้มนุษย์ต่างดาวเป็นเหมือนผู้อพยพ “มันเป็นจักรวาลที่กว้างใหญ่มากขึ้นในทุกทิศทาง” พาร์คส์เผย “เราค้นพบว่าหอไอเฟลจริงๆ แล้วถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าหน้าที่บุรุษชุดดำประจำฝรั่งเศสคนแรกๆ เจ้าหน้าที่ อี หรือ จูลส์ ไอเฟล ซึ่งกลายเป็นท่าของอารยธรรมอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพวกสิ่งมีชีวิตต่างดาวกลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกๆ ที่เดินทางเข้ามา”
การคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นของมนุษย์ต่างดาวผู้ก้าวร้าว ที่รู้จักกันในนามเดอะ ไฮฟว์ นำมาสู่การไหลบ่าของบรรดาผู้อพยพจากนอกโลก ซึ่งหมายความว่าบรรดามนุษย์ต่างดาวจะมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง และมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์อย่างไม่เคยมีมาก่อน และหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ ริซา มนุษย์ต่างดาวไร้ความปรานีที่เป็นพวกค้าอาวุธ ซึ่งรับบทโดย รีเบ็คกา เฟอร์กูสัน เจ้าของมือสามมือ และเป็นถ่านไฟเก่าของเจ้าหน้าที่ เอช “มีจิตวิญญาณของการแฝงตัวอยู่ในภารกิจของเขาจนเป็นเรื่องปกติ” เฮมสเวิร์ธพูดพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อเขาพาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งกับเผ่าพันธุ์เหล่านั้น ผมไม่รู้นะว่ายังไง… แต่เขาทำให้เส้นแบ่งระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมันเลือนลาง”
แล้วก็มีฝาแฝดที่เล่นโดยสองพี่น้องนักเต้นรำชาวฝรั่งเศส โลรองท์และแลร์รี นิโคลาส์ บัวร์กอส ซึ่งล่าสุดเพิ่งไปสร้างความเร่าร้อนด้วยยีนนักเต้นของพวกเขาในคอนเสิร์ท Homecoming ของบียอนเซ ที่ตอนนี้จะมาแปลงร่างกลับไปกลับมาใน Men in Black: International “พวกเขาแสดงด้วยพลังอันแสนบริสุทธิ์จริงๆ” พาร์คส์ บอก “เป็นสิ่งที่ดี กับการได้สองนักเต้นที่เจ๋งที่สุดในดาวเคราะห์ดวงนี้มาเล่น” ทั้งคู่รับบทเป็นภัยคุกคามต่อโลกครั้งใหม่ และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการกับพวกเขา
แต่ที่เป็นข่าวดีก็คือ ทั้งเอชและเอ็มจะได้รับการสนับสนุนจากนอกโลกด้วย ไม่ใช่มีแค่พอว์นี แล้วยังมีมนุษย์ต่างดาวชุดดำอีกต่างหาก ใช่แล้ว ลองนึกถึงสำนักงานใหญ่ของบุรุษชุดดำ ที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ต่างดาวหน้าตา ท่าทางแปลกๆ มากมาย แต่สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์แบบเดียวกับเพื่อนร่วมงานชาวโลกของพวกเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ต่อให้ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ตาม แต่คนดีก็ต้องสวมชุดดำเสมอ ตลอดไป
โดย ฉัตรเกล้า เรื่อง การกลับมาแบบสดใส ซาบซ่า ของมือปราบมนุษย์ต่างดาว MEN IN BLACK: INTERNATIONAL นิตยสารเอนเตอร์เทนฉบับที่ 1281 ปักษ์แรกมิถุนายน 2562