CARRIE: งานคลาสสิคปี 1976 กลับมาขึ้นจอใหม่อีกครั้ง โดยผู้กำกับ Boy Don’t Cry และได้นักแสดงวัยรุ่นขายฝีมือระดับหัวแถว โคลอี เกรซ-มอเร็ทซ์ มาเล่นเป็นเด็กสาวที่เกิดมาและได้รับการดูแลภายใต้ความเกลียดชังของแม่ผู้เคร่งศาสนา จนไม่ประสาต่อโลก และใช้ชีวิตเหมือนเด็กเก็บกดมาตั้งแต่ยังไม่เกิดเลยก็ว่าได้ แล้วทุกอย่างก็มาระเบิดในช่วงวัยที่เธอโตเต็มสาว มีประจำเดือนครั้งแรกพอดี
แม้จะเป็นงานสยองขวัญ แต่ประเด็น ของ Carrie ก็คือ สิ่งที่เป็นสากลเกี่ยวกับวัยรุ่นทุกคน ที่อยู่ในช่วงวัยสับสน ระหว่างความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ซึ่งทำให้ตัวเองไม่ต่างไปจากระเบิดเวลา ถ้าไม่สามารถประคับประคองไปได้ด้วยดี ระเบิดลูกนี้ก็พร้อมที่จะระเบิดขึ้นมา
ด้วยยุคสมัย Carrie ในปีนี้ ย่อมมาเหนือในเรื่องเทคนิคการสร้าง โปรดัคชันแข็งแรง ดูสมจริงกว่างานต้นฉบับ โดยเฉพาะฉากไคลแม็กซ์สุดท้ายที่เริ่มจากงานพรอมที่หลอนได้ใจ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า หนังมีงานของเดอ พัลมาเป็นพิมพ์เขียว คงคอนเซ็ปท์ และมุมมองทั้งของเรื่อง และภาพในแบบเดิมๆ เป็นหลัก
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการก็อปปี้ แต่โดยส่วนตัวมองว่าเป็นงานสดุดีของเก่ามากกว่า พยายามทำบางอย่างให้สมบูรณ์กว่าที่เคยเป็น เช่น การเลือกนักแสดงมารับบทแคร์รี ที่ตรงตามตัวอักษรว่าไว้ และเกรซ-มอเร็ทซ์ ก็เล่นได้ดีไม่แพ้ที่ซิสซี สปาเซ็คเคยเล่นไว้ ในขณะที่จูลีแอนน์ มัวร์ ก็เป็นแม่ที่ “จิต” ได้ใจ ที่ถ้าไม่มีไพเพอร์ ลอรีเล่นเอาไว้ เธอก็คือที่สุดเหมือนกัน
การมาทีหลังทำให้หนังไม่ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่แบบหนังรีเมคหลายๆ เรื่อง ที่สำคัญเป็นการตอกย้ำความคลาสสิคของต้นฉบับให้เห็นเด่นชัด ว่า ของที่มันดี ต่อให้พยายามทำใหม่เต็มที่ขนาดไหน ก็ได้แค่ “เสมอตัว”
โดย นพปฎล พลศิลป์