Life of Pi (2012): หากแม้พระเจ้าไม่มีจริง เราก็มิอาจละทิ้งความศรัทธา!
โดย เกรียนหนัง
จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=138882036268131&set=pb.112834835539518.-2207520000.1358539849&type=3&theater
ออสการ์ปีนี้รางวัลสาขาอื่นไม่รู้จะยังไง แต่รางวัลสาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (Best Art Direction) เกรียนหนังมั่นใจว่า Life of Pi ค่อนข้างจะนอนมากับการเนรมิตภาพเหนือจินตนาการ ที่ทำออกมาได้งามเด้ง มหากาฬระดับสะท้านฟ้าสะเทือนดิน!
ขณะที่ในส่วนเนื้อหาหลักของหนัง ก็ถือว่า Life of Pi ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน และจัดเป็นหนังที่หยิบเอาเรื่องของความศรัทธาในศาสนามาพูดถึงแบบ “ตรงไปตรงมา” ได้อย่างน่าชื่นชม
ตรงไปตรงมาในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการหยิบเอาเรื่องของศาสนามาเชิดชูกันแบบโต้งๆ ทื่อๆ แต่หมายถึงการมองศาสนาแบบตรงๆ ตามความเป็นจริง และค่อนข้าง”สมัยใหม่” ผ่านเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหนัง
หนังปล่อยให้ตัวละครหลักอย่าง พาย พาเทล เล่าเรื่องราวให้ผู้ชมฟังจำนวน 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นการเอาชีวิตรอดของ พาย ท่ามกลางทะเลอันเวิ้งว้าง หลังจากที่เรือบรรทุกสิ้นค้าอัปปางลง พาย ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือขนาดเล็กร่วมกับเสือเบงกอล โดยวันเวลาผ่านไปพร้อมๆ กับเรื่องราวเหนือจินตนาการพิศดารพันลึกมากมายที่เกิดขึ้น (ซึ่งเชื่อว่าเป็นบททดสอบของพระเจ้า) ทั้งฝูงปลาบิน, ปลาวาฬเรืองแสง, พายุที่โหมกระหน่ำ เกาะลึกลับที่กลืนกินสิ่งมีชีวิต ฯลฯ ก่อนที่ พาย พาเทล จะรอดมาได้ในท้ายที่สุด
ส่วนเรื่องที่สอง เหมือนกับเรื่องแรกทุกประการ เป็นการเอาชีวิตรอดของ พาย หลังจากที่เรือบรรทุกสิ้นค้าอัปปางลง และมีบทสรุปเดียวกัน แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือรายละเอียดในเรื่องที่สอง ปราศจากเรื่องเหนือธรรมชาติใดๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีปาฏิหาริย์หรือการทดสอบของพระเจ้า มีแต่การฆ่ากันตายอย่างโหดเหี้ยมของผู้รอดชีวิต
หลังจากนั้นหนังก็โยนคำถามเข้าใส่คนดูว่าเลือกที่จะเชื่อในเรื่องไหนมากกว่ากัน ระหว่างเรื่องที่หนึ่งและเรื่องที่สอง
ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ ในส่วนแรกที่พายเล่า ก็น่าจะอยู่ใน “สถานะเดียวกัน” กับเรื่องเหนือธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็น ไบเบิล, อัลกุรอาน หรือแม้แต่พระไตรปิฎก
ที่มาถึงยุคนี้สมัยนี้ ด้วยความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ มันทำให้เรารู้เท่าทันแล้วว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกเขียนไว้ในคัมภีร์เหล่านั้น มันเกินจริง มันเหลือเชื่อ และเป็นไปได้สูงว่าทั้งหมดเป็นเพียงกุศโลบายของ’นักปราชญ์’ในยุคบรรพกาล
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่ามันจะเกินจริง จะเหลือเชื่อขนาดไหน เราก็ยังเลือกที่จะเชื่อและศรัทธาในเรื่องราวเหล่านั้นกันต่อไป เพราะด้วยจุดหมายปลายทางแล้ว มันทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ด้วยหัวใจที่สุขสงบ…เฉกเช่นเดียวกับเรื่องเล่าปาฏิหารย์ของพาย พาเทล ที่เราเลือกจะเชื่อ แม้ว่าลึกๆ แล้วเราจะรู้อยู่เต็มอกว่า..อะไรคือความจริง
คะแนน : สี่ดาวจ้า
(หนังสวยโคตรๆ เนื้อหาก็ดี สามมิติก็เจ๋ง ดูด่วนยังมีรอบ อย่าให้ได้ยินตอนออกแผ่นเด็ดขาดว่า “โอ้โห หนังดี เสียดายดูในโรงไม่ทัน”)