บทความพิเศษ เดินหน้าสู่ยุคแห่งหายนะ กับ X-Men: Apocalypse ไบรอัน ซิงเกอร์กำกับ พร้อมเตรียมดึงตัวละครเก่าขึ้นจอ

แม้ตัวไบรอัน ซิงเกอร์ น่าจะกลับมากำกับ X-Men: Apocalypse แน่ๆ แต่ระหว่างการเตรียมการถ่ายทำ ที่เขาต้องวิ่งรอกขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีคุกคามทางเพศ ทำให้มีข่าวลือว่า ผู้กำกับที่อยู่เบื้องหลัง X-Men, X2: X-Men United และ X-Men: Days of Future Past อาจจะมีปัญหาในการทำงาน จนถึงขึ้นต้องมีผู้กำกับมาเสียบแทน

ในที่สุดทางฟ็อกซ์ ก็ออกมาจัดการปิดข่าวลือที่ว่าเรียบร้อย เมื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่า ทางสตูดิโอได้ตกลงเซ็นสัญญากับซิงเกอร์เรียบร้อยแล้ว และทำให้เขาจะกลับมาทำหนังชุดนี้เป็นเรื่องที่ 4 หลัง X-Men: Days of Future Past ทำเงินทั่วโลกไปถึง 746 ล้านเหรียญ โดยหนังเรื่องใหม่จะได้ ไซมอน คินเบิร์ก จาก X-Men: Days of Future Past และหนัง The Fantastic Four ฉบับใหม่ เขียนบทจากเรื่องที่เขาแต่งร่วมกับซิงเกอร์, ไมเคิล โดเฮอร์ตี (Superman Returns) และ แดน แฮร์ริส (Trick ‘r Treat) ซึ่งทางไซมอน คินเบิร์ก ที่นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้างด้วยเผยถึงรายละเอียดบางส่วนของหนังแล้วว่า

“Apocalypse จะเป็นเหตุการณ์หลังจาก Days of Future Past และเล่าเรื่องต่อไปเลย เพราะการเดินทางข้ามเวลา ทำให้สามารถเล่าเรื่องใหม่ และนำเสนอตัวร้ายใหม่ๆ ที่มีพลังมากขึ้นได้ ชาร์ลส์ (เจมส์ แม็คอะวอย), เอริค/แม็กนีโต (ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์), ราเวน/มีสทีค (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์), วูลฟเวอรีน (ฮิวจ์ แจ็คแมน) และ แฮงค์/บีสท์ (นิโคลาส โฮลท์) จะร่วมมือกับไซคล็อป์ส, จีน เกรย์ เพื่อต่อสู้กับศัตรูผู้น่าเกรงขาม” คินเบิร์กยังระบุด้วยว่า เรื่องราวใน X-Men: Apocalypse จะเกิดขึ้นในยุค 1980 ซึ่งทำให้อาจต้องมีการคัดเลือกนักแสดงมารับบทกันใหม่

“ถ้าเราสามารถรวมตัวละครจากหนังต้นฉบับ อย่าง สตอร์ม, จีน, สก็อทท์ และอีกหลายๆ คนมาได้ เราอาจจะต้องคัดเลือกนักแสดงใหม่ เพราะ Apocalypse จะเป็นเรื่องที่เกิดก่อน X-Men 1 ราวๆ 2 ทศวรรษ ที่ตามเวลาจริงๆ มันก็ผ่านมาแล้ว 15 ปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฮัลลี (เบอร์รี), แฟมเก้ (แยนส์เซ่น) และ จิมมี (มาร์สเดน) ทำงานเอาไว้ดีมากๆ คนอื่นๆ ต้องทำงานได้อย่างมหัศจรรย์สุดๆ เพื่อนำตัวละครเหล่านี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และต้องมีความเฉพาะตัว นักแสดงเหล่านั้นกับสิ่งที่เรามีในตอนนี้ มันเป็นงานที่ยาก แต่ผมก็เคยพูดเอาไว้ก่อนหนัง First Class ว่าไม่มีทางที่เราจะหานักแสดงที่ขึ้นจอเทียบเอียน แม็คเคลเลน และแพทริค สจวร์ทได้ แล้วเราก็ได้ ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ กับเจมส์ แมคอะวอย ให้เขาจัดการตีความตัวละครของตัวเองแต่อย่าเลียนแบบ ด้วยสาเหตุนั้น เรากำลังจะคัดนักแสดงใหม่หรือเปล่า? ถ้ามีตัวละครเหล่านั้นอยู่ในหนังด้วย เราอาจจะทำ คงต้องมาดูกันอีกที”

สำหรับสก็อทท์ ซัมเมอร์สในวัยหนุ่มนั้น เคยมีทิม โพค็อค รับบทเอาไว้ใน X-Men Origins: Wolverine แต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมารับบทนี้ และน่าจะเป็นนักแสดงอีกคนที่ถูกแฟนๆ หนังชุดนี้ลืมอย่างง่ายดาย ส่วนบรรดามนุษย์กลายพันธุ์หน้าใหม่จากหนังเรื่องล่าสุด จะมีใครกลับมาบ้างนั้น คินเบิร์ก บอกว่า

“หนัง X-Men ที่เรากำลังทำอยู่คือ X-Men: Apocalypse และจะเดินเรื่องต่อจากหนังในชุด First Class เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, เจมส์ แมคอะวอย, นิโคลาส โอลท์ และอีกหลายๆ คนที่เป็น X-Men ยุคนั้นจะกลับมา แล้วพวกที่อยู่ในอนาคตล่ะ บางที Apocalypse อาจจะมีช่วงที่ต่อเนื่องกับเรื่องราวที่ผ่านไปของ Days of Future Past” โดยในกลุ่มคนหน้าใหม่ๆ ของหนัง เป็นไปได้ว่า อาจจะมีแชนนิง ทาทัมมารับบทแกมบิท หรือเรมี เลอโบ

ในตอนจบของ X-Men: Days of Future Past ทำให้คนดูงงๆ อยู่บ้าง กับการนำไปเชื่อมกับหนังเรื่องก่อนๆ อย่าง X-Men: The Last Stand และ X-Men Origins: Wolverine ที่ดูจะมีส่วนที่ซ้ำซ้อน และถูกเล่าซ้ำอีก ไซมอน คินเบิร์กเผยว่า หนังเหล่านั้นจะไม่มีส่วนที่ถูกเล่าซ้ำ เพราะเรื่องราวจะถูกเขียนใหม่

“มีการเล่าซ้ำไหม ไม่นะ แต่เราจะเขียนประวัติศาสตร์บางส่วนของ X-Men: The Last Stand และ X-Men Origins: Wolverine ขึ้นใหม่ สิ่งหนึ่งที่เราพูดกันใน X-Men: Days of Future Past ก็คือ มันสามารถเปลี่ยนอนาคตได้ มันเป็นเหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปในทิศทางหนึ่ง ซึ่งคุณสามารถสร้างระลอกคลื่นให้เกิดขึ้นในกระแสน้ำนั้นได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางของมัน เราทำไปแล้วใน Days of Future Past มีการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็อย่างที่คุณเห็นกันในตอนจบ พวกเขาจบด้วยการกลับเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ ในอนาคต เรื่องราวที่เป็นไป ส่วนใหญ่จะเป็นในทางเดิมๆ อะไรที่เกิดขึ้นใน X1, X2 และ X3 ยังคงเกิดขึ้น แต่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย”

X-Men: Apocalypse มีกำหนดฉายในวันที่ 27 พฤษภาคม