FEATURESMusic Featuresวันนี้ ในโลกดนตรี

วันนี้ในโลกดนตรี 27 พฤษภาคม

1974: ลิซา มารี เพรสลีย์ วัย 5 ขวบ ได้พบกับไมเคิล แจ็กสันเป็นครั้งแรก ที่ทะเลสาปทาโฮ ซึ่งพ่อของเธอไปเปิดการแสดง

อีก 20 ปีต่อมา ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน แต่ชีวิตสมรสในครั้งนี้ กินระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี

 

 

 

1987: สัญญาณเตือนแผ่นดินไหวในโรมดังขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะเกิดเหตุแผ่นดินไหว แต่เป็นเพราะเสียงจากคอนเสิร์ตของ U2 ที่ดังจนทำให้สัญญาณเกิดทำงานขึ้นมา

1994: หลังพักวงไปนานถึง 14 ปี ในที่สุด the Eagles ก็กลับมารวมตัวกันเพื่อขึ้นแสดงที่เบอร์แบงก์, แคลิฟอร์เนีย พวกเขาปิดการแสดงครั้งนี้ด้วยเพลง “Desperado” และหลังจากนี้ไม่นานดิ อีเกิลส์ ก็ออกทัวร์ Hell Freezes Over ซึ่งเป็นทัวร์คอนเสิร์ตแรก ที่ราคาบัตรส่วนใหญ่สูงกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ

ดิ อีเกิลส์ แยกทางกันในปี 1980 หลังจากออกทัวร์แบบสาหัสสากรรจ์เืพ่อโปรโมตอัลบัม ‘The Long Run’ ซึ่งกินเวลาถึง 18 เดือนกว่าจะจบสิ้น จากนั้นสมาชิกของวงทั้ง 5 คนต่างไปทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว ดอน เฮนลีย์ มีอัลบัมที่ประสบความสำเร็จออกมา 3 ชุด รวมถึงทำโปรเจ็กต์ Walden Woods Project, เกล็นน์ ฟราย ออกอัลบัม 4 ชุด แล้วก็รับงานแสดง โดยไปปรากฏตัวในซีรีส์เรื่อง ‘Miami Vice’ และมีรายการของตัวเอง, โจ วอลช์ ไปเล่นดนตรีกับศิลปินมากมาย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ วง All Starr ของริงโก สตาร์ร์ ทำงานรับจ้าง และงานของตัวเอง, ทิโมธี บี.ชมิดต์ ไปลงเสียงในฐานะนักร้องแบ็กอัปให้กับหลาย ๆ เพลง ส่วนดอน เฟลเดอร์ ไปทำเพลงให้ซาวนด์แทร็กหนังเรื่อง ‘Heavy Metal’ และไปเป็นนักกอล์ฟ

ในปี 1993 สมาชิกทั้งห้าคนของวง กลับมาร่วมงานกันในมิวสิกวิดีโอเพลง “Take Ot Easy” ของทราวิส ทริตต์ ที่เป็นการนำเพลงของวงมาทำใหม่ การถ่ายทำเป็นไปด้วยดี ทำให้พวกเขาตัดสินใจกลับมาร่วมงานกันอีก โดยส่วนหนึ่งที่มีผลในการตัดสินใจครั้งนี้ ก็คือ รายการโทรทัศน์ของฟรายถูกยกเลิก

ทางวงรู้ดีว่าต้องมีอะไรที่มากกว่าการทำอัลบัมออกมาสักชุด เฮนลีย์กับฟรายร่วมกันเขียนเพลง “Get Over It” ซึ่งถูกนำไปเล่นร่วมกับเพลงใหม่อีกสามเพลง ซึ่งแต่งโดยคนอื่น ๆ และบรรดาเพลงฮิตคลาสสิกของวง ในรายการพิเศษทางเอ็มทีวี เดือนเมษายน 1994 ซึ่งถ่ายทำกันเป็นเวลา 2 วัน ก่อนจะกลายมาเป็นอัลบัม ‘Hell Freezes Over’ งานแสดงสดชุดนี้ปล่อยออกมาในเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ทันช่วงเวลาคริสต์มาส พอถึงเดือนพฤษภาคม พวกเขาวางแผนออกทัวร์ร่วมกัน โดยจะเปิดด้วยการแสดง 5 โชว์ ยังที่มั่นของพวกเขา เออร์ไวน์ มีโดว์ส ที่ลากูนา ฮิลล์ส, แคลิฟอร์เนีย

การเตรียมการทุกอย่างเป็นฝีมือของเออร์วิง อะซอฟฟ์ ที่เป็นผู้จัดการของดิ อีเกิลส์มายาวนาน ราคาบัตรเข้าชมถูกวางเอาไว้ในระดับแพงเป็นพิเศษ เมื่อหลาย ๆ ที่นั่งราคาพุ่งไปถึงกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ มาถึงตอนนี้บรรดาแฟน ๆ ของวงต่างพากันยุติการใช้ชีวิตเสี่ยง ๆ และหันมาใช้เวลาอยู่กับบ้านย่านชานเมือง ด้วยเงินบำนาญหลังเกษียณ ซึ่งทำให้ไม่น่ามีปัญหากับการจ่ายเงินเพื่ออะไรที่ดูยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา การตั้งราคาเข้าชมสูง ๆ ยังเป็นเรื่องของการสร้างความหรูหรา และส่งข้อความออกมากลาย ๆ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นการจัดการกับพวกนักเก็งกำไร ด้วยการตั้งราคาที่พวกเขาจะนำไปตั้งต่อเอาไว้

การทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้จบลงในปี 1995 แต่ความสำเร็จที่ได้รับ ทำให้พวกเขายังออกทัวร์ต่อไปอีกปี ซึ่งเป็นการทัวร์ในยุโรป ก่อนจะมาถึงบทสรุปด้วยการเล่นไป 160 โชว์ และขายตั๋วได้ 3.4 ล้านใบ ทำให้ดิ อีเกิลส์ เป็นศิลปินที่ทำรายได้จากการทัวร์มากที่สุดของปี 1995 เมื่อทำเงินไปถึง 63.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากยอดขายตั๋ว 58 โชว์ โดย Boyz II Men ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยรายได้ 43.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 134 โชว์

ราคาบัตรของวงมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการแสดงคอนเสิร์ตอย่างลึกซึ้ง เมื่อส่งผลให้เกิดกระแสการกลับมาแสดงคอนเสิร์ตอีกครั้งของศิลปินเก่า ๆ อย่าง Kiss, นีล ไดมอนด์, ร็อด สจวร์ต และจิมมี บัฟเฟต์ ที่ทำเงินติดระดับท็อป ๆ ด้วยการอัปราคาตั๋ว ซึ่งตอนนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เมื่อทรัพย์สินของแฟนตัวยงของวงมีเพิ่มมากขึ้น

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.