FEATURESMovie FeaturesMusic Featuresเบื้องหลังเพลง

เรื่องเล่าเบื้องหลังเพลงรางวัลออสการ์ “TAKE MY BREATH AWAY” จากหนัง ‘TOP GUN’

เป็นซิงเกิลที่สองของอัลบัมซาวนด์แทร็กหนัง ‘Top Gun’ เมื่อปี 1986 ต่อจาก “Danger Zone” ของเคนนี ล็อกกินส์ และกลายเป็นเพลงอันดับ 1 ประจำสัปดาห์ทั้งบนชาร์ตเพลงของเกาะอังกฤษ และชาร์ตเพลงของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นชาร์ตบิลล์บอร์ด ฮ็อต 100 และแคช บ็อกซ์ ท็อป 100

เพลงที่แต่งโดยจิออร์จิโอ โมโรเดอร์ และทอม วิตล็อก ซึ่งร้องโดยวงนิว เวฟ – Berlin เพลงนี้ยังไปได้ไกลถึงคว้ารางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ทั้งบนเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำ

เราจะมาย้อนอดีตความเป็นของเพลงนี้ “Take My Breath Away” ที่โมโรเดอร์บอกว่า “เนื้อเพลงเขียนโดยคนที่มาซ่อมรถเฟอร์รารีให้ผม แล้วก็ทำให้ผมได้ออสการ์ตัวที่สาม” จากคำบอกเล่าของบรรดาผู้เกี่ยวข้อง ที่นำบางส่วนมาจากบทความของ เดฟ ซิมป์สันแห่ง www.theguardian.com

– เทอร์รี นันน์: นักร้องนำของเบอร์ลิน
“ก่อนที่ฉันจะมาอยู่วงเบอร์ลิน ฉันเคยไปทดสอบบทเจ้าหญิงลีอาในหนัง ‘Star Wars’ ตอนนั้นฉันอายุ 15 แต่ดูเหมือนอายุแค่ 12 ส่วนแฮร์ริสัน ฟอร์ด อายุสามสิบกว่าแล้ว แต่ดูเหมือนอายุเพียง 19 หรือว่า 20 เท่านั้น เรานั่งอยู่ในเก้าอี้เพื่อพูดบทของตัวเอง จอร์จ ลูคัสชมเขา แต่ส่งจดหมายแสดงความขอบคุณให้กับฉัน แล้วก็บอกว่า ‘เราเลือกแคร์รี ฟิเชอร์ แต่เราอยากจะช่วยคุณ’ เขาแนะนำฉันกับสตีเวน สปีลเบิร์ก แล้วก็ทุกคน ฉันได้รับการเสนอบทลูซี อีวิง ใน ‘Dallas’ แต่สัญญาที่เซ็นกันยาวถึง 7 ปีทำให้ฉันกลัว เพราะฉันอยากทำเพลงด้วย แม่บอกให้ฉันทำตามที่ใจต้องการ แต่ตัวแทนหงุดหงิดมากที่ฉันบอกปัดบทใน ‘Dallas’ แล้วก็ทิ้งฉันไปเลย อีกหนึ่งปีต่อมา ฉันได้เจอกับจอห์น ครอว์ฟอร์ด (นักร้อง/ เบส) และกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของเบอร์ลิน

“ตอนแรกใครๆ พากันหัวเราะเยาะเรา เพราะศิลปินแบบพาวเวอร์-พ็อป หรืออารีนา ร็อค กำลังเป็นที่นิยม แต่เราทำเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เหมือนพวก Kraftwerk และ Ultravox ซึ่งชื่อวงของเราก็พยายามทำให้คนอื่น ๆ คิดว่าเราเป็นวงจากเยอรมันเหมือนวงเหล่านั้น

“เรารักในสิ่งที่จิออร์จิโอ โมโรเดอร์ทำ และขอทำงานกับเขา แต่เขาดังมาก ได้ร่วมงานกับเดวิด โบวี, ดอนนา ซัมเมอร์, Blondie และทำเพลงในหนัง ‘Flashdance’ ในที่สุดเราพอจะเสนอเพลงให้กับเขาได้แค่ ‘No More Words’ เพียงเพลงเดียว ระหว่างที่เราทำงานกับเขา ตอนนั้นเขาได้สัญญาทำเพลงให้หนัง ‘Top Gun’ และแต่งเพลง ‘Take My Breath Away’ แล้ว เขาพยายามหานักร้องมาร้องเพลงนี้ แต่บรรดาผู้อำนวยการสร้างของหนังไม่เอาสักราย จิออร์จิโอเลยแนะนำพวกเรา ซึ่งยังไม่มีเพลงฮิต แต่เขาทำให้คนพวกนั้นเชื่อมั่นในตัวเรา ด้วยการบอกพวกเขาว่า ‘น่า… พวกเขากำลังจะดัง’

“เราไปที่สตูดิโอขนาดใหญ่ ที่มีห้องอัดเสียงหลายห้องของจิออร์จิโอทางตอนเหนือของฮอลลีวูด ตอนนั้นเขากำลังทำสามหรือสี่โปรเจ็กต์ไปพร้อม ๆ กัน กับผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ที่จะเดินไปในทุก ๆ ห้อง เขาจะโผล่เข้ามาในห้องแล้วบอกว่า ‘ผมไม่ชอบเสียงเครื่องเป่าว่ะ เอามันออกไปซะ แล้วก็ใส่อะไรเพิ่มลงไปอีกหน่อย โอเคนะ บาย’ จากนั้นก็กลับเข้ามา ‘เออ… นั่นละ ผมชอบมันนะ! ใส่เสียงประสานเข้าไปอีก!’

“เขาใส่เสียงเครื่องเป่ากับกีตาร์ แล้วก็ทำให้เพลงมันฟังฉ่ำๆ มากขึ้น เขาตามฉันกลับมาเพื่อทำให้ร้องง่ายขึ้น โดยบอกว่า ‘คนต้องอยากร้องตาม’ ฉันได้เรียนรู้เยอะมาก เกี่ยวกับการถ่ายทอดอารมณ์ออกมาจากการแสดง ฉันอยู่เพียงคนเดียว แล้วก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับวง จนไม่มีความสัมพันธ์กับใครมานานถึงสี่ปี เพราะฉะนั้นฉันเลยร้องมันออกมาด้วยความรู้สึกเศร้าและโหยหา ซึ่งบางทีมันก็คือสิ่งที่สะท้อนให้รู้สึกอยู่ในเพลงนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตอนถูกปล่อยออกไปในทีแรก ผู้จัดการของเราถึงกับบอกว่า ‘เทอร์รี ถ้าเพลงนี้เข้าท็อปเทนได้ ผมจะไว้ผมทรงโมฮอว์ก’ แต่ทางค่ายเพลงยังคงดันมันเต็มที่ ในที่สุดมันก็ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ทั่วโลก จากนั้นเอ็มทีวีก็มาหาเราและถ่ายคลิปตอนที่ผู้จัดการของเราตัดผมทรงโมฮอว์กเอาไว้”

– จิออร์จิโอ โมโรเดอร์: ผู้แต่งเพลง, โปรดิวเซอร์
“ผมอาศัยอยู่ในลอส แอนเจลีส ตอนแฮโรลด์ ฟัลเทอร์เมเยอร์กำลังทำดนตรีประกอบให้หนัง ‘Top Gun’ บางทีผมก็มานั่งขลุกอยู่ที่สตูดิโอ วันหนึ่งเจอร์รี บรักไฮเมอร์ ผู้อำนวยการสร้างร่วมของหนังก็พูดกับผม ‘ทำไมคุณไม่ทำเพลงสักเพลงล่ะ?’ ผมเลยทำเพลง ‘Danger Zone’ (ร้องโดยเคนนี ล็อกกินส์) ให้กับหนัง และพวกเขาก็ชอบมัน จากนั้นเจอร์รีก็บอกว่า พวกเขาอยากได้เพลงช้า ๆ สำหรับฉากโรแมนติคระหว่างทอม ครูซ (ที่เล่นเป็น พีต “มาเวอริก” มิตเชลล์) และเคลลี แม็คกิลลิส (รับบทชาร์ล็อตต์ “ชาร์ลี” แบล็กวูด)

“ผมนั่งลงเพื่อวางจังหวะช้า ๆ แล้วก็ทำเดโมแบบหยาบ ๆ ด้วยการใส่เครื่องดนตรีแทบทุกอย่าง แล้วก็ร้องเมโลดีทับ แต่มันแยกเป็นสองท่อนที่แตกต่างกันเล็กน้อย กลับมาบ้านผมก็เปิดฟังมันอีก แล้วก็เลือกท่อนที่เรารู้จักกันดี แล้วพอกลับไปที่สตูดิโอผมก็ทำออกมาเป็นเดโมเต็ม ๆ องค์ประกอบของมันก็คือ โน้ตที่เล่นต่อเนื่องกันห้าโน้ต กับเมโลดี, เสียงเบสที่มีลักษณะเฉพาะ และการเปลี่ยนคีย์ในช่วงกลาง ผมเปิดฟังในแบบเพลงบรรเลงตั้งแต่ต้นจนจบซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็ชอบมัน

“รถเฟอร์รารีของผมจอดอยู่ด้านหลังสตูดิโอ เพราะมีปัญหาเรื่องเบรก วันหนึ่งทอม วิตล็อก ก็มาที่นี่ บอกว่าเขาเป็นช่างและซ่อมมันได้ แต่ต่อมาเขาก็บอกว่า ‘เออ… แล้วอีกอย่างหนึ่ง ผมเป็นนักแต่งเพลงด้วยนะ ถ้าคุณอยากได้เนื้อร้อง….’ ผมเขียนเนื้อร้องได้ไม่ดี เลยเอาเดโมให้เขาไปฟัง เขาเป็นคนเขียนเนื้อร้อง ‘Danger Zone’ และ ‘Take My Breath Away’ ส่วนหนึ่งในหลาย ๆ เพลงที่เขาแต่ง ซึ่งจินตนาการของเขานั้นไม่มีทีติ”

วิตล็อกเขียนเนื้อร้องเพลงนี้ ขณะขับรถจากสตูดิโอกลับบ้าน แล้วใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมงที่บ้านเพื่อขัดเกลา จากนั้นก็ทำเป็นเดโมฉบับสมบูรณ์ โดยให้นักร้องแบ็กอัปเป็นคนร้อง เพลงฉบับเดโมสร้างความประทับใจให้ผู้กำกับโทนี สก็อตต์ และสองผู้อำนวยการสร้าง เจอร์รี บรักไฮเมอร์ กับดอน ซิมป์สัน จนตัดสินใจใช้เพลงนี้ในฉากโรแมนติกของสองตัวละครนำของหนัง

“ในเดโมผมสร้างเสียงเบสที่มีลักษณะเฉพาะตัวจากซินธิไซเซอร์ ด้วยการเน้นเสียงที่ให้ความรู้สึกสั่นสะเทือน แต่พอจะบันทึกเสียงให้เป็นเรื่องเป็นราว ผมกลับไม่สามารถสร้างเสียงแบบนั้นขึ้นมาได้อีก เลยตัดสินใจใช้เสียงเบสจากเดโม มาร์ธา เดวิส จากวง the Motels เป็นคนแรกที่มาร้องเพลงนี้ ซึ่งก็ออกมาดี แต่พวกผู้อำนวยการสร้างไม่รู้สึกอะไร แต่พอเราให้เทอร์รีมาร้อง ทุกคนก็รักมัน”

แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของเสียงร้องเพลงนี้ในหนัง แต่เดอะ โมเท็ลส์ ก็เอาเพลงฉบับของวงใส่ไว้ในอัลบัมรวมเพลงชุด ‘Anthologyland’ เมื่อปี 2001 ซึ่งตัวดนตรีฟังแทบไม่ต่างไปจากฉบับของเบอร์ลินเลย นอกจากเดอะ โมเท็ลส์ โคลัมเบีย เรคอร์ดส์ แนะนำศิลปินในสังกัดหลายต่อหลายคนให้กับโมโรเดอร์ แต่ท้ายที่สุดโมโรเดอร์ก็นึกถึงเบอร์ลิน ที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ในเพลง “No More Words” โดยก่อนเทอร์รีจะมาบันทึกเสียง วิตล็อกมีการเปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วน

ท้ายที่สุด “Take My Breath Away” กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตัวโมโรเดอร์เองก็เผยว่า ในบรรดาเพลงที่เขาโปรดิวซ์ตลอดชีวิตการทำงาน นี่คือเพลงที่เขาภูมิใจมากที่สุด

“’Take My Breath Away’ เป็นงานที่ผมชื่นชอบ เพราะองค์ประกอบและวิธีการที่เทอร์รีร้อง มันคว้ารางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำ และทำให้ผมได้ออสการ์ตัวที่สาม คุณอาจจะหลงลืมบางสิ่งไปได้ แต่เพลงนี้ให้ความรู้สึกที่เหลือเชื่อ”

โดย ฉัตรเกล้า คอลัมน์ Special Scoop นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1318 ปักษ์หลังธันวาคม 2563

ให้กำลังใจและสนับสนุนเราได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วแจ้งมาที่กล่องข้อความของเพจ sadaos หรือที่อีเมล shopsadaos@gmail.com เพื่อรับของขวัญแทนน้ำใจ

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง ชมคลิป ชม MV อ่านวิจารณ์หนังและเพลง ได้ด้วยการกดไลค์เพจสะเด่าส์ ได้ที่นี่

What is your reaction?

Excited
0
Happy
0
In Love
0
Not Sure
0
Silly
0
Sadaos
พบข่าวสารจากวงการหนัง-เพลง ภาพสวยของดาราสาว, วิจารณ์-แนะนำ งานเพลง, ภาพยนตร์ และรับสั่งซื้อ CD/ DVD ทั้งในและต่างประเทศ. Sadaos Is entertainment news page and online shop for people who love movie and music. We sell many entertainment items like used and new DVD, CD, postcards, accessory, souvenirs.

You may also like

More in:FEATURES

Comments are closed.